“ซีพีแรม” ส่ง “โอแรมปัง” เขย่าตลาดเบเกอรี่ในไทย 3.8 หมื่น ลบ. ตั้งเป้ายอด 500 ลบ. ในอีก 3 ปี พร้อมลุยตลาด Plant-Based Diet นำร่อง “อาหารอินเดีย” กรุยทางส่งออกทั่วโลก

วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2566

“ซีพีแรม” ส่ง “โอแรมปัง” เขย่าตลาดเบเกอรี่ในไทย 3.8 หมื่น ลบ. ตั้งเป้ายอด 500 ลบ. ในอีก 3 ปี พร้อมลุยตลาด Plant-Based Diet นำร่อง “อาหารอินเดีย” กรุยทางส่งออกทั่วโลก


นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทานของไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดเบเกอรี่ในประเทศไทยคาดว่าจะอยู่ที่ 38,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดเบเกอรี่เป็นตลาดที่ใหญ่ และคาดการณ์ปี 2566 นี้ตลาดเบเกอรี่จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์เศรษฐกิจฟื้นตัว รวมถึงผู้บริโภคมีความมั่นใจในการกลับมาใช้ชีวิตปกติ ซึ่งสอดคล้องกับการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบันที่หันมาทานเบเกอรี่เพราะเน้นความสะดวกสบาย รวดเร็ว และอิ่มท้องมากขึ้น

ล่าสุด เราจึงได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ ภายใต้ตราสินค้า “โอแรมปัง” (ORAMPANG) โอทุกคำ อิ่มอร่อย เต็มปัง เบเกอรี่อบสดพร้อมรับประทานที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค กับแนวคิด “เบเกอรี่ที่เติมเต็มความสุข เพิ่มความสดใสและเติมพลังสำหรับทุกคนในครอบครัว” รองรับความนิยมของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้นอีกทั้งต้องการตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สำหรับกลุ่มลูกค้าครอบครัว โดยตั้งเป้ายอดขายภายใน 3 ปี อยู่ที่ 500 ล้านบาท

“การออกผลิตภัณฑ์แบรนด์ “โอแรมปัง” ครั้งนี้นั้นเราต้องการสร้างความแตกต่างที่คุ้มค่าให้กับผู้บริโภค โดยทางเราไม่ได้มีการลงทุนอะไรในจุดนี้ เพราะขณะนี้เรายังมีกำลังการผลิตที่พร้อมจะทำไปได้อย่างน้อยอีก 1-2 ปี ซึ่งในปีนี้ไตรมาสที่ 3 เราจะเปิดตัวโรงงานที่ผลิตไลน์สินค้าเบเกอรี่ที่ 16 ในจังหวัด ชลบุรี อย่างเป็นทางการ โดยโรงงานดังกล่าวเราได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้แล้วราง 2 พันล้านบาท ซึ่งปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนจะทำการลงทุนอะไรเพิ่มจะรอดูสถานการณ์ไปอีกประมาณ 1 ปี เพราะเราเพิ่งผ่านช่วงของสถานการณ์วิกฤติโควิดไปดังนั้นต้องรอให้สภาวะทุกอย่างค่อย ๆกลับขยายตัวยังช้า ๆ และปกติก่อน”

อีกทั้ง ในปีนี้ ซีพีแรม ยังคงพัฒนากลุ่มสินค้า Plant-Based Diet อย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มที่สังคมไทยและทั่วโลกมีการบริโภคอาหารที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้นภายใต้ตราสินค้า “VG for Love หรือ วีจีฟอร์เลิฟ” อาหารพร้อมรับประทานสำหรับผู้บริโภคที่มีการบริโภคพืชเป็นหลัก “Plant-Based Diet” ครบ 5 ประเภทรายแรกของไทย ซึ่งมีไลฟ์สไตล์สอดคล้องทั้ง 4 ความรัก คือ  รักสุขภาพ รักชีวิตสัตว์  รักสิ่งแวดล้อม และรักโลก แบ่งประเภทอาหารเป็น 5 ประเภท ได้แก่ หมายเลข 1 อาหารเจ, หมายเลข 2 อาหารวีแกน, หมายเลข 3 อาหารมังสวิรัติกับนม, หมายเลข 4 อาหารมังสวิรัติกับไข่ และหมายเลข 5 อาหารมังสวิรัติกับนมและไข่ ซึ่งบรรจุในบรรจุภัณฑ์ “สีฟ้า” ปิดผนึกเพื่อคงสภาพความสด ใหม่ สะอาด และความปลอดภัยทางอาหารสูงสุด  โดยในเบื่องต้นจะทำเป็นรูปแบบอาหารอินเดียก่อนประมาณ 5-6 เมนู และอาหารสำหรับคนสูงวัยที่ต้องดูสุขภาพแบบเฉพาะ เพราะบางคนอาจจะมีโรคประจำตัว  อย่าง โรคเบาหวาน ความดัน ไต เป็นต้น

“การเริ่มทำที่เราทำอาหารกลุ่มสินค้า Plant-Based Diet โดยเริ่มจากอาหารอินเดียนั้น เนื่องจากเราเห็นว่ากลุ่มชนที่บริโภคพืชเป็นหลักคือชาวอินเดีย ซึ่งมีอยู่ราว 300 – 400 ล้านคน ที่ทานอาหารอินเดียอยู่และอาหารอินเดียแพร่หลายไปทั่วโลก โดยคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายภายในเดือนหน้าของปีนี้ และต่อไปจะทำการส่งออกสินค้าแบรนด์ดังกล่าวนี้อย่างแน่นอน

ผู้บริหาร กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับยอดขายปีนี้ดีขึ้นมาก จากสถานการณ์โควิดที่ผ่อนคลายลงกลับมาเป็นโรคท้องถิ่น ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตกันแบบปกติแล้ว และธุรกิจทุกอย่างก็เริ่มเคลื่อนไหว โดยเฉพาะธุรกิจเราเป็นธุรกิจอาหาร ที่แน่นอนคนต้องกิน จึงสามารถอยู่ในทุกๆ ที่ ไม่ว่าจะอยู่บ้าน หรือ เดินทาง ดังนั้น ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้เราเติบโตได้อย่างดี ส่งผลให้ปีนี้เราคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ถึง 27,500 ล้านบาท  เติบโตขึ้น 10 % เทียบจากเมื่อปีที่แล้วเราปิดอยู่ที่ 22,500  ล้านบาท 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ