ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัด 2 แคมเปญใหญ่ให้ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีโอกาสกู้ซื้อบ้านวงเงินไม่เกิน 150,000 บาท ในโอกาสฉลองครบรอบ 61 ปีกับสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ 1.61% ต่อปีคงที่ 6 เดือนในกรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท และสินเชื่อมีบ้าน มีสุข 2 กรอบวงเงินอีก 5,000 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 3.50% ต่อปี นาน 2 ปี เพื่อซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสองหรือคอนโดมิเนียมภายในสิ้นปีนี้
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึง การปล่อยสินเชื่อ 2 โครงการใหญ่ คือ สินเชื่อบ้าน 61 ปีธอส.และโครงการสินเชื่อ ธอส.มีบ้าน มีสุข 2 ว่า เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลางมีบ้านเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น รัฐบาลโดยกระ-ทรวงการคลังจึงให้ธอส.จัดแคมเปญดังกล่าวในกรอบวงเงินที่กำหนดรวม 2 โครงการ 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการละ 5,000 ล้านบาทโดยใช้โอกาสที่ ธอส.ครบรอบการดำเนินงาน 61 ปี ในวันที่ 24 กันยายนนี้ จัดสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำ 1.61% ต่อปีสำหรับโครงการสินเชื่อบ้าน 61 ปีธอส.คงที่นาน 6 เดือน เดือนที่ 7-24 ดอกเบี้ย 3.99% ต่อปีให้กับผู้ที่ต้องการจะซื้อบ้านหรือห้องชุด (บ้านใหม่และบ้านมือสอง) ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และกู้ซื้ออุปกรณ์ฯ พร้อมขอกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย วงเงินให้กู้ต่อรายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โดยเปิดรับยื่นคำขอกู้แล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายนต่อเนื่องถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2557 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2557 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด
“ส่วนอีกโครงการคือโครงการสินเชื่อ ธอส. มีบ้าน มีสุข 2 (กรอบวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.50% ต่อปี นาน 2 ปีแรก ปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ โดยโครงการสินเชื่อ ธอส. มีบ้าน มีสุข 2 นี้ต่อยอดจากรอบแรก ซึ่งเปิดยื่นคำขอกู้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2557 และสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ภายใต้กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท ธนาคารจึงได้ปล่อยวงเงินอีก 5,000 ล้านบาท สำหรับให้บริการผู้สนใจ เพื่อสร้างโอกาสด้านที่อยู่อาศัย และมั่นใจว่าการเพิ่มวงเงินอีก 5,000 ล้านบาทในครั้งนี้ จะมีลูกค้าประชาชนให้การตอบรับอย่างล้นหลาม” นางอังคณา กล่าว
ทั้งนี้ ยอดการขอสินเชื่อใหม่กับธอส.ทั้งปีคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าคือ 1.34 แสนล้านบาท โดย 8 เดือนของปีนี้ปล่อยไปแล้ว 96,000 ล้านบาท และจากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส.พบว่า ที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท มีจำนวนอยู่ที่ 1.2 แสนยูนิตหรือ 43% ของที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด
นางอังคณา กล่าวต่ออีกว่า นอกจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินแล้ว ธอส. ยังให้ความสำคัญกับนโยบายเพิ่มช่องทางการให้บริการข้อมูลข่าวสารที่สามารถเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งในปัจจุบันลูกค้าประชาชนนิยมติดต่อสื่อสารผ่านสังคมออนไลน์ โดย เฉพาะแอพพลิเคชั่นไลน์ ทำให้ในโอกาสครบรอบ 61 ปี ธอส. ธนาคารจึงได้จัดทำ GH Bank Line Official Account และ Line Sticker ในชื่อชุด GH Bank : Oomrak {amp} Oomreon (ธอส. : ออมรัก-ออมเรือน) โดย Line Sticker สุดน่ารักของ ธอส. มีทั้งสิ้น 16 แบบ 16 สไตล์ ซึ่งแต่ละแบบต่างมีความน่ารักสดใส และถ่ายทอดออกมาเป็นอารมณ์ต่างๆ พร้อมคำพูดที่เข้าใจง่าย และส่งเสริมความรักความผูกพันของคนในบ้าน ผ่านตัวละครทั้ง 4 ตัว ประกอบด้วย ออมรัก ออมเรือน ทั้ง 2 เป็นเด็กน้อย ที่มีนิสัยประหยัด รักการเก็บออมเพื่อบ้านในฝันในอนาคต โดยมี ป้าเตือน ซึ่งเป็นปรมาจารย์ด้านการใช้เงินอย่างรู้คุณค่าคอยชี้แนะ และน้องกระปุกบ้าน ธอส. ที่เป็นเพื่อนคู่คิดที่น่ารักของทุกคนทั้งในเรื่องบ้านและการออม นางอังคณา กล่าวในที่สุด