การมีบ้านหรือคอนโดเป็นของตัวเอง ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของชีวิต แต่เส้นทางสู่การเป็นเจ้าของบ้านในฝัน จำเป็นจะต้องวางแผนให้ดีโดยเฉพาะการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อให้ได้รับการอนุมัติอย่างราบรื่น บทความนี้จึงได้รวบรวมเทคนิคและข้อมูลสำคัญจากผู้เชี่ยวชาญ มาสรุปเป็นคู่มือการเตรียมตัวกู้บ้านฉบับสมบูรณ์ ที่จะช่วยให้การกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดของคุณเป็นเรื่องง่ายและผ่านฉลุยอย่างไร้กังวล
หัวใจสำคัญที่สุดของการขอสินเชื่อให้ผ่าน คือการเตรียมความพร้อมทางการเงิน เพราะธนาคารจะพิจารณาอนุมัติจากความสามารถในการชำระหนี้และวินัยทางการเงินเป็นหลัก ดังนั้นก่อนยื่นกู้ ควรประเมิน 3 ปัจจัยสำคัญนี้อย่างละเอียด
ก่อนอื่นต้องประเมินศักยภาพของตนเองว่าสามารถผ่อนบ้านในแต่ละเดือนได้เท่าไหร่ โดยใช้หลักการที่สถาบันการเงินส่วนใหญ่ใช้พิจารณา คือ สัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt-to-Service Ratio หรือ DSR) ซึ่งภาระหนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่เดิมรวมกับค่างวดที่คาดว่าจะผ่อนในครั้งนี้ ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ เช่น หากมีรายได้ 50,000 บาท ภาระหนี้ทั้งหมดไม่ควรเกิน 20,000 บาท การคำนวณเบื้องต้นจะช่วยให้เรามองหาที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่เหมาะสมกับความสามารถของเราได้
ข้อมูลเครดิต หรือ "เครดิตบูโร" คือรายงานพฤติกรรมทางการเงินทั้งหมดของเรา ซึ่งธนาคารจะใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินความน่าเชื่อถือและวินัยทางการเงิน การมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ตรงต่อเวลา ไม่เคยผิดนัดชำระ จะสร้างความมั่นใจให้กับธนาคารอย่างมาก หากใครมีหนี้สิน เช่น หนี้สินเชื่อส่วนบุคคลหรือบัตรเครดิตที่ยังค้างอยู่ ควรจัดการปิดบัญชีหนี้ที่ไม่จำเป็นออกไปก่อนยื่นกู้สินเชื่อบ้านอย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อสร้างโปรไฟล์ทางการเงินที่แข็งแกร่ง
เงินดาวน์เปรียบเสมือนเครื่องยืนยันความพร้อมและความตั้งใจในการซื้อบ้าน โดยทั่วไปธนาคารมักกำหนดให้วางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10-20% ของราคาซื้อขาย การมีเงินดาวน์สูงไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ แต่ยังส่งผลดีในระยะยาว เพราะจะช่วยลดภาระยอดหนี้ที่ต้องกู้ ทำให้ค่างวดผ่อนต่อเดือนลดลง และยังช่วยประหยัดดอกเบี้ยบ้านที่ต้องจ่ายตลอดอายุสัญญาได้อีกด้วย
การเตรียมเอกสารกู้บ้านให้ครบถ้วนและถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรก จะช่วยให้กระบวนการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น ลดโอกาสที่ธนาคารจะขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้การอนุมัติล่าช้าออกไป โดยเอกสารหลักๆ จะแบ่งตามลักษณะอาชีพของผู้กู้
หลังจากเตรียมความพร้อมด้านการเงินและเอกสารเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม และทำความเข้าใจกระบวนการยื่นกู้ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้
การเลือกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เหมาะสมจะช่วยลดภาระทางการเงินในระยะยาวได้ ดังนั้นควรพิจารณาเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายๆ ธนาคาร โดยใช้ปัจจัยเหล่านี้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ
การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การสร้างวินัยทางการเงินที่ดี การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ไปจนถึงการศึกษาและเปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่ออย่างรอบคอบ ซึ่งจะช่วยให้เส้นทางสู่การมีบ้านในฝันเป็นจริงได้อย่างราบรื่น
สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนกู้ซื้อบ้านหรือคอนโด ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง ทีทีบีมีบริการสินเชื่อบ้านใหม่-บ้านมือสอง ที่พร้อมตอบทุกโจทย์ความต้องการ ด้วยจุดเด่นที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมและเงื่อนไขการสมัครสินเชื่อบ้านใหม่-มือสองจากทีทีบี สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทีทีบี แอปทีทีบี ทัช หรือสอบถามสินเชื่อบ้านทีทีบีได้ที่เจ้าหน้าที่โครงการหมู่บ้าน-คอนโด
*ธนาคารจะออกค่าธรรมเนียมจดจำนองให้ 1% ของวงเงินอนุมัติสินเชื่อรวมสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดยลูกค้าชำระค่าธรรมเนียมจดจำนองก่อนแล้วธนาคารจะโอนค่าธรรมเนียมจดจำนองดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากของลูกค้าภายในระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่จำนองหลักประกัน
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว: สินเชื่อบ้านใหม่-บ้านมือสอง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4%-7% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-1.430% ถึง MRR-0.530% ต่อปี • โดยอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 15 ส.ค. 68 = 7.305% ต่อปี • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัครและอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกําหนด • รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ www.ttbbank.com