บริษัท ทรัพย์คณา พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด (SUPKHANA PROPERTY COMPANY LIMITED) ฉลองวาระครบรอบ 21 ปี แห่งการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและชุมชน พร้อมจัดงานเฉลิมฉลองและพิธีเปิดโครงการใหม่ “Centric Green Living Project” ในทำเลทองศักยภาพใจกลางเมืองนครปฐม โดยมี นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี โดยมี นายวิชัย สุทธิเลิศวรกุล และ ดร.ยุพิน รัชตวุฒิพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท ทรัพย์คณา พร็อพเพอร์ตี้ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญ นักออกแบบ ตัวแทนชุมชน และลูกค้าที่สนใจโครงการ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ โครงการ Centric อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
โดยช่วงเช้าเป็นพิธีเจริญพระพุทธมนต์ หลังเสร็จพิธีได้มีการฉายวิดีทัศน์และร่วมพูดคุยถึงความเป็นมาของโครงการ “Centric Green Living Project” โดยมี ดร.สิรินทร์ แก้วละเอียด และ ดร.อนงค์ ชานะมูลผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบนิเวศ รวมถึง นายนัฐพงษ์ แก้วพรม และ นายธนาณัติ อุตรัศมี ผู้รังสรรค์ ทีมสถาปนิกจาก บริษัท มาร์ชเทน จำกัด และ ดร.สุนีย์ เหมรัตน์ ตัวแทนชุมชน ที่มาร่วมถ่ายทอดความประทับใจต่อการอยู่อาศัยในชุมชนที่ดูแลกันและกัน จากนั้นจนได้เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์ นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีตัดริบบิ้น เปิดตัวโครงการ “Centric Green Living Project” อย่างเป็นทางการ
นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า "วันนี้เรามาร่วมกันเปิดตัวโครงการ “Centric Green Living Project” ที่จะทำให้เศรษฐกิจและการอยู่อาศัยของจังหวัดนครปฐมคึกคักมากยิ่งขึ้น ผมขอชื่นชมทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมมือกันพัฒนาภาคเศรษฐกิจในจังหวัดของเราให้มีความเข้มแข็ง เราเป็นเมืองเก่าแก่ เราเป็นจังหวัดที่มีเศรษฐกิจดี โครงการ “Centric Green Living Project” จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีคุณภาพ และสามารถรองรับการขยายทั้งภาคเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ต่อไปในอนาคต"
ดร.ยุพิน รัชตวุฒิพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท ทรัพย์คณา พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมา บริษัท ทรัพย์คณา พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้ยืนหยัดพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ ซึ่งสะท้อนความใส่ใจในคุณภาพชีวิต การออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตสมัยใหม่ และความรับผิดชอบต่อชุมชน โดยไม่ใช่เพียงการสร้าง “บ้าน” แต่ยังสร้าง “ความผูกพันและความไว้วางใจ” ระหว่างองค์กรกับลูกค้า
สำหรับโครงการ Centric มีเนื้อที่ประมาณกว่า 23 ไร่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Green Living” ที่ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติ เพื่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยผสานความเหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยและการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยเพิ่มความทันสมัยและสามารถที่จะมีพื้นที่ส่วนกลางสีเขียวให้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น โครงการทั่วไปอาจจะมีสัก 5% เราก็เพิ่มเป็นสองสามเท่า เป็น 10% หรือ 15% ซึ่งจุดเด่นของโครงการได้แก่ ยูนิตทาวน์โฮมหน้ากว้าง และโฮมออฟฟิศ รองรับทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุนเชิงพาณิชย์ ราคาเริ่มต้นเพียง 2.89 ล้านบาท เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย จำนวนรวม 291 ยูนิต (ทาวน์โฮม 2 ชั้นและ 3 ชั้น)
โดยตัวโครงการสามารถรองรับที่จอดรถได้กว่า 150 คัน เพื่อรองรับลูกค้าธุรกิจในพื้นที่ ที่สำคัญออกแบบโดยทีมสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญ มุ่งเน้นฟังก์ชันการใช้งานและองค์ประกอบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการ Centric ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนครปฐม ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญและแหล่งธุรกิจ ห่างจากเซ็นทรัลนครปฐมเพียง 2 นาที สะดวกต่อการช้อปปิ้งและบริการต่างๆ ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ และศูนย์ราชการจังหวัด ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและกิจการเชิงพาณิชย์ สามารถเดินทางเพียง 5 นาทีถึงองค์พระปฐมเจดีย์ แลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัด
ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา เรามีความแม่นยำในเรื่องของการเลือกทำเล แล้วก็ลงพื้นที่จริง เพื่อจับความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญยังมีหลักการดำเนินธุรกิจคือการ “ให้มากกว่า” ที่อื่นๆ ยกตัวอย่าง โครงการอื่นมีที่จอดรถในบ้าน 2 คัน แต่เราทำที่จอดรถในบ้านให้ 3 คัน หรือโครงการอื่นมี 3 ห้องนอน เราก็ทำเพิ่มเป็น 4 ห้องนอน ด้วยราคาที่คุ้มค่ากว่า ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาซื้อโครงการเป็นอย่างมาก
“21 ปีแห่งความประทับใจ” สะท้อนภาพการเดินทางของเรา จากวันแรกจนถึงวันนี้ เต็มไปด้วยความผูกพันกับลูกค้าและชุมชน 21 ปีที่ผ่านมา คือบทพิสูจน์ความไว้วางใจ และวันนี้…เราพร้อมที่จะปักธงวางเกมส์ยาว เพื่อก้าวไปสู่อนาคตอย่างมั่นคงไปด้วยกัน”
ทางด้าน นายนัฐพงษ์ แก้วพรม และ นายธนาณัติ อุตรัศมี ผู้รังสรรค์ ทีมสถาปนิกจาก บริษัท มาร์ชเทน จำกัด กล่าวว่า "ทางผู้บริหารของโครงการ มีแนวคิดที่อยากให้ชุมชนแถวๆ นี้ เป็นจุดศูนย์กลางโดยรอบ เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นทำเลทอง สามารถเดินทางสัญจรไปออกยังเส้นทางต่างๆ ได้หลายเส้นทาง โดย บริษัท ทรัพย์คณา พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด มี 5 ทำเลทองที่มีศักยภาพที่สุดในจังหวัดนครปฐม นั่นคือ โครงการ Centric by Supkhana , U Condo , UrbanBliss , Gardenville by Banyusabai และ บ้านอยู่สบาย ศูนย์ราชการ
สำหรับคอนเซ็ปต์ของโครงการ Centric นี้ เรามีต้นแบบมาจาก “หยดน้ำ” ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมต่างๆ โครงการนี้จะเป็นแหล่งอาศัยที่ยั่งยืน เราจึงเริ่มที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยเริ่มจากน้ำ เสริมไปเป็นดิน แล้วเสริมไปเป็นต้นไม้ โดยจะมีอีกหนึ่งทีมที่ดูแลในเรื่องของการแพร่พันธุ์ต้นไม้ เพื่อให้ที่ดินตรงนี้ เป็นแหล่งอาศัยที่ยั่งยืน
ในส่วนรูปแบบการดีไซน์ของตัวโครงการ เราออกแบบให้มีความสอดคล้องกับชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย เช่น รูปแบบภายนอกของโครงการ ก็เน้นการออกแบบเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้มีกิจกรรมทำมากขึ้น เพื่อจะได้มีชีวิตชีวากันมากขึ้น หรือการออกแบบภายในอาคาร ก็จะทำให้มีการหมุนเวียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประปาหรือไฟฟ้า เราต้องการทำให้เป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัย เพื่อให้ใกล้ชิดดับธรรมชาติมากขึ้น นี่คือจุดเด่น เมื่อคุณซื้อโครงการของเราไป”
ทางด้าน ดร.อนงค์ ชานะมูล ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศน์ กล่าวว่า "ในโครงการนี้ดิฉันมีหน้าที่มาเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน โดยทั่วไปแล้วนักออกแบบส่วนใหญ่ยังคิดไม่ถึงในเรื่องของความหลากหลายทางชีวภาพ แต่โครงการ Centricนี้ เรามองภาพรวมในวงกว้าง โดยใช้แนวคิดของป่า ฟังก์ชันของป่า เข้ามาอยู่ในเมือง ประโยชน์ของการมีพื้นที่สีเขียวในเมือง ก็มีประโยชน์ให้กับมนุษย์ 4 ด้านด้วยกัน
-หลักการเเรก การให้บริการต่างๆ กับชุมชน เช่นการปลูกต้นไม้ จะให้เรื่องอาหาร ให้ยารักษาโรค ให้เครื่องนุ่งห่ม และให้ที่อยู่อาศัย นี่คือหลักการพื้นฐานที่เราได้จากป่า
-หลักการที่ 2 ป่าเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว มันจะทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ มนุษย์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ชนิดหนึ่งที่อยู่บนโลก องค์ประกอบของโลกก็ต้องมีทั้งสิ่งที่มีชีวิตและสิ่งที่ไม่มีชีวิตรวมอยู่ด้วยกัน ดังนั้น เมื่อเราเพิ่มพื้นที่สีเขียวมากขึ้น ก็จะทำให้เกิดความสมดุลทางชีวภาพขึ้นให้กับโลกใบนี้ด้วย
-หลักการที่ 3 พื้นที่กลไกของป่าจะช่วยควบคุมสภาวะแวดล้อม พื้นที่สีเขียวของป่าจะทำให้เกิดความสมดุล ทุกวันนี้เราจะรู้จักสภาวะโลกร้อน พื้นที่สีเขียวจะช่วยบรรเทาสภาวะโลกร้อนได้ ช่วยทำให้อุณหภูมิเย็นลง อีกทั้งช่วยบรรเทาภัยพิบัติต่างๆ ได้ด้วย
-หลักการที่ 4 พื้นที่สีเขียวเป็นแหล่งนันทนาการของคนที่อยู่ในเมือง มนุษย์ถ้าใกล้ชิดกับธรรมชาติก็สามารถช่วยให้ชีวิตนั้นยืนยาวขึ้น ธรรมชาติจึงเป็นสิ่งที่ช่วยบำบัดสภาพจิตใจร่างกายได้ ต้นไม้สามารถช่วยลดสภาวะความเครียดลดลง ในโครงการนี้เราจึงนำธรรมชาติเข้ามาอยู่ในเมือง
ดังนั้น เราควรให้ความเข้าใจแก่ลูกบ้านด้วยว่า ไม่ใช่การมีบ้านสวยอย่างเดียว แต่การมีสิ่งแวดล้อมที่ดีที่น่าสนใจ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อบ้านด้วย การมีพื้นที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ นั่นคือมูลค่าที่ลูกบ้านและผู้ซื้อได้สัมผัส มันคือสิ่งที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ”