"อหังการ" จนลืมแนวร่วม

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556



พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก จึงย่อมมีความเชื่อมั่นว่าความคิด หรือบทสรุปของตัวเองเป็นสิ่งถูกต้องที่สุด ซึ่งมิติเช่นนี้มักจะเกิดกับพวกได้อำนาจ แล้วก็ถึงขั้น "ดันทุรัง" พุ่งสู่เป้าหมายอย่างทรนง

ไม่ว่าใครจะท้วงติงหรือชี้แนะแนวอื่นเสริมให้ เขาก็จะปิดกั้นไม่ยอมรับฟังอีก

ถ้าไม่ลืมอดีตเร็วนัก ห้วงที่หุ้นชินวัตรถูกขายไปให้ "เทมาเส็ก" กว่า 4 หมื่นล้านบาทโดยไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐเลยแม้แต่บาทเดียวตามกฎหมายการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จนเป็นที่ร่ำลือกันเซ็งแซ่ ภาษาชาวบ้านอาจพูดว่าเป็น "เศรษฐีขี้เหนียว" ไม่ยอมให้เงินกระเด็นแม้แต่เศษสตางค์

จำได้ว่า พลตรีจำลอง ศรีเมือง ช่วยแนะวิธีแก้การนินทาของชาวบ้านให้ลดกระแสลงด้วยการเสนอให้ตระกูลชินวัตร ควรบริจาคเงินเป็นสาธารณกุศลในรูปใดรูปหนึ่งซัก 1,000 ล้านบาท อย่างน้อยก็ทำให้คนที่ไม่เคยจับต้องเงินล้านเลยในชีวิต ได้รู้สึกว่า "เออ คนรวยก็มีน้ำใจ" บ้าง ซักนิดก็ยังดี

แต่เมื่อไม่มีการตอบสนองใดๆ เหตุการณ์หลังจากนั้นจึงมีแต่ลุยให้เกิดตึงเครียดทั้งด้านส่วนตัวและรัฐบาลทักษิณมากขึ้น ประกอบกับความโดดเด่นทาง การเมืองสูงอยู่แล้ว ย่อมทำให้ฝ่ายตรงข้ามและ "ฝ่ายหมั่นไส้" คิดที่จะหยุดความ "เด่นเกิน" ด้วยการ "รวมกันตี" จนถึงขั้นยึดอำนาจในที่สุด

แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อนาคตริบหรี่ที่จะนำความคิดและความฝันบริหารประเทศไปตามความเชื่อมั่นของตนเอง อันหมายถึงความคิดรวบยอดที่มีทิฐิอย่าง มั่นใจแนวทางของตนเหนือกว่าความเห็นของคนอื่น

จึงถึงซึ่งความวิบัติ ที่ตาลปัตรกลายเป็น "ภาวะผู้นำบกพร่อง" ของคนที่ไม่ยอมฟังใคร

ระหว่างที่พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ต่างแดน คงได้ประเมินพฤติกรรมของท่าน เองได้มากพอที่จะไม่เชื่อข้อมูลจากพวกพ้องฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งอย่างหูเบา

กรณีรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้ จึงเกิดอาการคล้ายๆ กัน นั่นคือพรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจสูงว่า การสร้างกระแสให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นที่นิยมในเวลาอันสั้นจนเรียกว่า "ว่าวติดลมบน" แล้ว ย่อมง่ายมากที่จะทำให้ผู้สมัครของเพื่อไทยสามารถกำชัยชนะเลือกตั้งได้

โพลหลายสำนักก็ขยันรายงานว่า ผู้คนรักชอบคุณพงศพัศ ในอัตราส่วนที่ มากกว่าแชมป์เก่า ก็เลยเกิดอาการหลงทางว่านั่นคือ ผลตอบรับที่แน่นอน โดยยังไม่รู้เลยว่า "คะแนนจริง" คือเท่าไรแน่ที่จะ "ชนะขาด"

ยิ่ง "ย่ามใจ" กับคู่แข่งที่เล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง "ขั้นเทพ" ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถนัดที่สุดต่อ "เกมยกสุดท้าย" ก็เท่ากับเป็นการประมาทคู่แข่งอย่างน่าเขกหัวตัวเองที่สุด

ยามตัวเองมั่นใจสูง จึงเกิดจุดอ่อน "ปิดประตูใจ" จากข้อเสนอของฝ่ายอื่นอย่างไม่ไยดี...จนลืมความจริงของการหาเสียงไปว่า "แม้ยังหลงเหลืออีก 1 คะแนน นั่นก็คือคะแนนที่พระเจ้ามอบให้"

ยังมีโพลนอกสำนัก ระดับปรมาจารย์ทำโพลอิสระอีกบางส่วน ไปเตือนว่า กระแสที่สูสีเช่นนี้มีความเสี่ยงสูง เพราะถือว่า "ไม่ชนะขาด" ... แถมยังชี้ช่องให้เห็นคะแนนที่ควรไปล้วงไปแซะอีกไม่น้อย ซึ่งมีอีกเป็นก้อนเป็นกำและควรน้อมรับด้วยความยินดี

จึงได้เห็น "ภาวะหูทวนลม" หรือไม่รู้สึกตัวว่ามี "จิ้งจกทัก" อันไม่ต่างกับความมั่นอกมั่นใจสูงดังที่อดีตนายกฯ ทักษิณเคยประพฤติมา

คะแนนที่แพ้ของพรรคเพื่อไทยซึ่งต่างกันไม่ถึง 2 แสนคะแนน ถือว่าไม่ห่างมากสำหรับพรรคใหญ่... ถ้ารู้จักยืดหยุ่นกับแนวร่วมทางการเมืองที่อยากเสริม ช่วย แต่ไม่อยากอิงแอบแบบติดยึด

อย่าลืมว่า การเมืองกรุงเทพฯ ใช่จะมีแต่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่มีฐานคะแนนจัดตั้ง แต่ยังมีพรรคการเมืองอื่นซึ่งยังมีพลังเงียบคละเคล้าอยู่ในประชาชนคน 2 ล้านคน ที่ยังไม่ไปลงคะแนน เขายังมีกิจกรรมที่แสดงความรักความอาลัยคิดถึงต่อกันอยู่อีกไม่น้อย

นั่นคือ มวลชนพรรคประชากรไทยที่จงรักภักดีเคยหนุน คุณสมัคร สุนทรเวช จนได้คะแนนเกินล้านเป็นแชมป์ที่ผู้ว่าฯ กทม.ในอดีตก็ลบสถิติไม่ได้มานาน

ท่ามกลางความขัดแย้งกลางกรุงเทพฯ เขาจึงเพียงแต่รอดูว่าใครจะจริงใจ และยื่นมือแสดงน้ำใจไปหาเขาเท่านั้น...เมื่อทหารแก่ยังไม่มีวันตายฉันใด พรรคกลางเก่ากลางใหม่ก็หาได้สิ้นลมไปทันทีฉันนั้น

แต่นั่นแหละ ในสงครามการเมือง ทุกอย่างต้องใช้ปฏิภาณสูง ต้องเพลี่ยงพล้ำน้อยกระบวนท่าที่สุด มิใช่หยิ่งผยองว่าตัวเองมี "อำนาจ" จนเหลิงหลงว่าใครไม่อาจต้านทานได้...ในที่สุดก็ต้องจบที่บทเรียนเดิมของ "ความอหังการ" ที่ ไม่ยี่หระต่อมวลชนจัดตั้งซึ่งดำรงอยู่แบบ "พรรคนอกสายตา"!


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ