ขณะที่ "ศึกใน" ยังคุกรุ่น... "ศึกนอก" ก็เตรียมรอเชิดฉิ่ง ภายใต้อุณหภูมิร้อนระอุในห้วงเดือนเมษายนนี้ ที่ว่ากันว่า เป็นช่วงเวลาแห่งการรอคอยของม็อบเสื้อเหลือง ที่กำลังคอยโอกาส "เผด็จศึกรัฐบาล" เพราะ "ธงการเมือง" ของ "รัฐบาลเพื่อไทย" ดูจะเด่นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ

หยั่งกระแส..เกมการเมืองที่กำลังเดือดปุด หลังทีมงาน "เจ๊ปู.. แอนด์เดอะแก๊ง" แพ้เดิมพันในศึกเลือกตั้ง กทม.อย่างคาดไม่ถึง?!!

ยิ่งพอรู้ผลการเลือกตั้ง "นายกฯ ปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ถึงขั้นน้ำตาคลอเบ้า แม้จะทุ่มสุดตัว..ยอมเป็น "นางกวัก" เรียกแขกจนกระแสมาแรง แต่ก็มิอาจยึดฐานที่มั่นสุดท้ายของ "พรรคประชาธิปัตย์" ไปได้

เมื่อพ่ายแพ้ก็ย่อมส่งผลต่อแผน "พาวเวอร์ฟูล.." ของ "ยิ่งลักษณ์" ที่ประเคนหน้าตัก ไต่บันไดสู่ "ผู้นำตัวจริง" ที่จะสลัดทิ้ง "เงา" ใต้ปีกของ "พี่ชาย"

แต่ผลลัพธ์ที่ปรากฏ ก็สร้างความ เดือดดาลใจแก่ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างยิ่ง

ในฐานะ "ไวทยากร" ผู้กำหนดความเป็นไปของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย จึงปรากฏอาการเม้งแตก!! รุนแรง ถึงขั้นสไกป์ด่ากลางวง "เสนาบดี" และ "ส.ส.เพื่อไทย" ที่ไม่รวมพลังช่วย "จูดี้" พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จนแพ้ เดิมพันให้ "พรรคประชาธิปัตย์" ทั้งที่กระแสมาแรงแบบเหนือเมฆ!!!

คนที่รับ "ผรุสวาท" ไปจนหน้าเขียวคล้ำ..เห็นจะเป็นหัวหน้าทีมยุทธ-ศาสตร์อย่าง "เสี่ยอ้วน" ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ถูกเขย่าแรงๆ ด้วยข้อหา "นิ่งนอนใจเกินเหตุ.." และล้มเหลวทาง กลยุทธ์ จนพ่ายกลศึกในช่วงโค้งสุดท้าย

จับอาการคิ้วกระตุกของ "นายใหญ่" ที่ส่งสัญญาณความไม่พอใจมาจากแดนไกล ชนิดไล่เช็กบิลเรียงตัว...

มาถึงคิวยกเครื่องทีม กทม. ซึ่ง "นายใหญ่" จะส่งรหัสสัญญาณเพื่อ "จัดทัพใหม่" ด้วยตัวเอง พร้อมเข้ามา "บัญชาการรบ" อย่างเต็มตัว

เบนหางเสือเข้าสู่... "แผนปฏิรูป เชิงโครงสร้าง" ภายในพรรคเพื่อไทย และโละทิ้ง "เหล่าเสนาบดีนกแล"

รับลูก...เคาะจังหวะเร้าอารมณ์โดย "สาโรช หงส์ชูเวช" รอง ผอ.พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า จากนี้ไปในวงประชุม ใหญ่ "ทักษิณ" จะสไกป์เข้ามาร่วมด้วยทุกครั้ง ซึ่งแปรความได้ว่า "นายใหญ่" เตรียมจะเข้ามาบริหารพรรคเบ็ดเสร็จ 100%

นอกจาก "สัญญาณทางไกล" ที่ถูกเขย่าออกมาแล้ว อีกหนึ่งปรากฏ-การณ์ที่สะท้อนไปถึง "เกมกระชับอำนาจ" ของ "คนไกล" อย่างเข้มข้น ก็คือการเล่นบท "เจ้าแม่" ของ "เจ๊หน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่แม้จะล่องหน หายไปจากสมรภูมิตั้งแต่ ก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่อยู่ๆ ได้ปรากฏตัวที่พรรคเพื่อไทย แถมยัง "สั่งการ" คนในพรรคเป็นการใหญ่

ที่น่าสนใจคือ "เจ๊หน่อย" ได้ประกาศกร้าว!!!...เล็ง "ผ่าตัด.." รื้อโครงสร้างทีมงาน กทม.ของ "เพื่อไทย" แบบล้างบางกันในที

ไม่เพียงการรีเทิร์นสู่บทบาท "เจ้า แม่ กทม." แต่ได้ปรากฏข่าว "คำมั่น.. จากคนไกล" ที่ต้องการให้ "เจ๊หน่อย" เข้ามาเสียบเก้าอี้รัฐมนตรีในคิวปรับ "ครม.ปู 4" ที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่อึดใจ.. เป็นการต่อจิ๊กซอว์ของ "ทักษิณ" ที่พร้อมส่งคนใกล้ชิดเข้ามา "คุมหางเสือ" ภายในพรรคเพื่อไทย และเป็นการลดบทบาท "แก๊งออฟโฟร์" แห่งตึกไทยคู่ฟ้า ที่กำลังสยายปีกอำนาจในรัฐบาลมากขึ้นไปทุกขณะ

เท่าที่เห็นและเป็นไป การเชน.. คัมแบ็ก!! ของ "เจ๊หน่อย" และการลงมา "บัญชาเกม" อย่างเบ็ดเสร็จของ "ทักษิณ" ย่อมทำให้คนเป็น "น้องสาว" ต้องกลืนเลือดอีกครา หลังปล่อยให้ "ยิ่งลักษณ์" โชว์เดี่ยว แต่กลับยึดเมืองกรุงไม่สำเร็จ "พี่ชาย" จึงต้องเข้ามาแก้หมาก ปรับดุลอำนาจใหม่ ให้กลับสู่ ภาวะรัฐบาล "2 ผู้นำ" เหมือนเช่นเดิม... หรือไม่?!!

เหนืออื่นใด ในมุมความคิดของ "ทักษิณ" ย่อมเล็งเห็นผลเลิศในการปรับเปลี่ยน "ขุนศึก" ที่นำไปสู่หมาก "กระชับอำนาจ" ให้ดำเนินไปอย่างยืนยาว

โดยเฉพาะคิวปรับ ครม.ที่มีกำหนด ดีเดย์กลางเดือนมีนาคมนี้ ก็อาจถูก "เร่งเกมเร็ว" เพื่อมิให้เกิดแรงกระเพื่อม ขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย

ซึ่งแน่นอนว่าการปรับ ครม.งวดนี้ ได้เกิดแรงเขย่าอย่างรุนแรง เพื่อให้ มีการ "ปรับใหญ่" เล็งสลับฟันปลา ยกเครื่องทีมเศรษฐกิจใหม่

โฟกัสไปที่ เดอะโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ "ขุนคลัง" ที่ผลงานยังกราวรูด...แถมตัว "นายใหญ่" ไม่ปลื้ม!!! และมองว่า... "กิตติรัตน์" เป็นหอกข้างแคร่มาโดยตลอด

รหัสปรับทีมเสนาบดี...ยิ่งดูคมชัด มากขึ้น!!!

พลันให้เกิดการประลองเชิงกันขึ้นระหว่าง "สองพี่น้อง" ที่ฝ่ายพี่ชายต้องการ "สลายขั้วอำนาจ" ขณะที่ "น้องสาว" พยายามดิ้นเพื่อรักษาขุมข่ายอำนาจแห่งตึกไทยคู่ฟ้าเอาไว้ให้ได้...

ทั้งหมดทั้งปวง ล้วนเป็น "ปัจจัย" ที่นำไปสู่ "เกมต่อรอง" บนกระดานการเมืองรอบใหม่ที่กำลังรูดม่านขึ้นในเร็ววันนี้

ขณะที่ "ศึกใน" ยังคุกรุ่น... "ศึก นอก" ก็เตรียมรอเชิดฉิ่ง ภายใต้อุณหภูมิร้อนระอุในห้วงเดือนเมษายนนี้ ที่ว่ากันว่า เป็นช่วงเวลาแห่งการรอคอยของ "ม็อบเสื้อเหลือง" ที่กำลังคอยโอกาส "เผด็จศึกรัฐบาล" เพราะ "ธงการเมือง" ของ "รัฐบาล เพื่อไทย" ดูจะเด่นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ในห้วงเมษาร้อนทางการเมือง...

ตามจังหวะที่ "รัฐบาล" กำลังเผชิญศึกรอบด้าน ก็ยิ่งทำให้อุณหภูมิการเมืองจากนี้ไปอยู่ในระดับที่ลุ้นระทึก!!!

รูดม่านหลังเสร็จศึก "ยึดเมืองหลวง" ก็มีคิวของร่าง "พ.ร.ก.นิรโทษกรรม" ทั้งฉบับเสื้อแดง และร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ฉบับ "อุกฤษ มงคลนาวิน" ประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ตามมาด้วยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการนิรโทษกรรม ตลอดจนร่าง ฉบับล่าสุดที่มี "เจริญ จรรย์โกมล" รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นหัวเรือใหญ่ ซึ่งได้ล็อกเป้าหมายให้เริ่มต้น กระบวนการในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้

ขณะเดียวกัน "เผือกร้อน" ที่ตาม มาในช่วงเวลาไม่ห่างกัน คือร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถูก "แช่แข็ง" อยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา ในวาระที่ 3 ซึ่งขณะนี้คณะทำงานศึกษาแนวทาง "ทำประชามติ" เตรียมส่งผลการศึกษาเข้าสู่สภาในห้วงนี้เช่นกัน ซึ่งเมื่อได้รับผลการศึกษาแล้ว รัฐบาลก็ต้องมากำหนด ท่าทีและแนวทางว่าจะเลือกเดินหน้าหรือ "ใส่เกียร์ว่าง" โดยมีปัจจัยหลายอย่างบีบบังคับ เพราะมักจะมีมากมายหลายปัจจัยเข้ามา "สกัดกั้น" กระบวน การแก้รัฐธรรมนูญของ "รัฐบาลเพื่อไทย" ทุกครั้งไป

นอกจาก "ปฏิทินการเมือง" ในห้วงเมษาฮาวายแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปมร้อนที่จะทำให้การเมืองไทยทะลักองศา เดือด ซึ่งก็คือนัดชี้ชะตา "คดีปราสาทพระวิหาร" ที่จะมีบทสรุปจากศาลโลก โดยมีการแถลงด้วยวาจาครั้งสุดท้ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งทุกฝ่ายกำลังเฝ้าจับตาว่าข้อต่อสู้ของ "รัฐบาลไทย" ใต้ปีกการนำของ "พงศ์เทพ เทพกาญจนา" รองนายกฯ และ รมว. กระทรวงศึกษาธิการ จะสามารถยกไป ต่อสู้กับประเด็นของ "กัมพูชา" ได้อย่าง สมศักดิ์ศรี หรือไม่...แม้ในเบื้องต้นจะประเมินกันแล้วว่า..ไม่เจ๊า...ก็เจ๊ง?!! และ หากผลที่ออกมาเป็นไปอย่าง "สมยอม" หรือแพ้หมดรูป ก็แน่นอนว่า "กระแสต้านรัฐบาล" ยิ่งจะถูกเร้าขึ้นอย่างรุนแรง...!!!

"คลื่นใต้น้ำ" ที่รอเขย่ารัฐบาลยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ยังคงมีช็อตต่อเนื่องไปถึงคิวเชือด "ยิ่งลักษณ์" คาเก้าอี้ "ผู้นำ" จาก "แผนสกัดดาวรุ่ง" ที่ฝ่ายหนึ่งเริ่มแผ่รังสีอำมหิต และรุกคืบไปอย่างเงียบงัน โดยปัจจัยหนึ่งในเกมโค่น ล้มหนนี้ อาจเป็นเพราะ "ชนชั้นนำ" มิอาจปล่อยให้ "ยิ่งลักษณ์" เติบโตขึ้นหรือแข็งแกร่งมากไปกว่านี้ได้

เช่นล่าสุดได้เกิดกระแสข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมยึด โยงกรณี "ยิ่งลักษณ์" แจงบัญชีทรัพย์สินในส่วนของ "อนุสรณ์ อมรฉัตร" สามีนอกสมรส...ขึ้นมาเขย่า "นายกฯ หญิง" ให้ตกเก้าอี้

ลางบอกเหตุ!!! เริ่มตั้งแต่ "พล.อ. เสถียร เพิ่มทองอินทร์" อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ที่โดนลงดาบกรณี "แจงทรัพย์สินเป็นเท็จ" ปูพรมเพื่อมิให้ เกิด "ข้อครหา" หากมีการเช็กบิลกันในประเด็นข้างต้น ก็ย่อมมี "หนังตัวอย่าง" เป็นข้อเปรียบเทียบได้ว่า "ป.ป.ช." ไม่ได้ตัดสินแบบ 2 มาตรฐานแต่อย่างใด

เช็กดูสถานการณ์ร้อนทางการเมือง ที่เริ่มเดือดพล่านไปทุกขณะ..คงเป็นภาระ อันใหญ่ยิ่งของ "นายกฯ ยิ่งลักษณ์" ที่ต้องฝ่า "แรงต้าน" ทั้งศึกในที่ "พี่ชาย" เข้ามา...ขอคืนอำนาจ และการปกปักษ์ "ขุนพลข้างกาย" มิให้ถูกต้อนเข้าสู่ "มุมอับ" ตลอดทั้ง "ศึกนอก" ที่รุมเร้าเข้ามาไม่ขาดสาย

ฉะนั้นการปรับทัพเสนาบดีใหม่ เพื่อสู้ศึกทางการเมืองหนนี้ ย่อมเป็น การสะท้อน "ภาวะผู้นำ" และสะท้อน เชิงอำนาจที่มีอยู่ของ "ยิ่งลักษณ์" ได้เป็นอย่างดี...ว่าจะสามารถ "ยื้อ" ไปได้อีกกี่มากน้อย?!!