ไฮไลต์ในโผรัฐมนตรีงวดนี้ คงต้องโฟกัสไปที่ "ทีมเศรษฐกิจ" ซึ่งเดิมที "นายใหญ่" อยากโละทิ้งอยู่ทุกขณะ โดยเฉพาะ "เดอะโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ "ขุนคลัง" ที่ถูกมองว่าเป็น...หอกข้างแคร่มาโดยตลอด

เขย่ามาเป็นระลอกในคิวปรับทัพ "เสนาบดีปู 4" ที่แม้คำตอบของ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี จะยืนกรานหนัก-แน่นว่า...ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวเอง กระนั้นก็ดูเหมือนว่า ลีลาปฏิเสธของ "นารีปู" ไม่มี น้ำหนักเพียงพอที่จะสยบ "แรงกระเพื่อม" หรือยุติทุกความเคลื่อนไหวใน "พรรคเพื่อไทย"

เนื่องด้วยผลพวงจากความพ่ายแพ้ใน "ศึกชิงเมืองกรุง" ย่อมทำให้เสียรังวัด และส่งผลลบต่อภาวะผู้นำของ "ยิ่งลักษณ์" อย่างมิอาจประเมินได้ จนเป็นเหตุที่ "ผู้นำเงา" อย่าง "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ออกตัวเร้าสัญญาณ "ทางไกล" เข้ามาบัญชาการรบด้วยตัวเอง

เกมกระชับอำนาจของ "พี่ชาย" บนความพ่ายแพ้ของ "น้องสาว" ปรากฏภาพชัดขึ้นไปทุกขณะ เมื่อส่ง "คนใกล้ชิด" และ "รู้มือ" อย่าง "เจ๊หน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลัดคิวเข้าไปเล่นบทแอ็กชั่น... "รื้อโครงสร้างทีมบริหาร กทม.ของพรรค เพื่อไทยแบบยกกระบิ"

ไฮไลต์จึงอยู่ที่การ "ผ่าตัดใหญ่" ทาง การเมือง พร้อมโละทิ้ง "เหล่ารัฐมนตรีนกแล" และ "รัฐมนตรี" สายตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งในความระแวดระวังของ "ทักษิณ" ย่อมมิอาจปล่อยให้ "แก๊งออฟโฟร์" หรือขั้วอำนาจใหม่ใต้ปีกของ "น้องสาว" มีความเข้มแข็งมากไปกว่านี้ได้

เช่นเดียวกับ "เจ๊หน่อย" ที่เคยพลาดหวัง "เก้าอี้รัฐมนตรี" มาหลายครั้งหลายหน ด้วยข้อหาเด่นดังเกินหน้า "ผู้นำหญิง" และทำท่าจะ "หลุด" เมื่อรูดม่านศึกชิงเมืองกรุง ที่พรรคเพื่อไทยแพ้กราวรูดให้คู่แข่งใน หลายเขต โดยเฉพาะในพื้นที่ "โซนตะวันออก" อันเป็นพื้นที่ยึดครองของ "เจ้าแม่ กทม." จึงไม่แปลกที่ "เจ๊หน่อย" ที่ทรงอิทธิพลในโซนตะวันออกเมืองกรุง จะโดนข้อหา "ช่วยไม่เต็มแรง" บวกด้วยข้อหาเดิม "ทักษิณ" จึงต้องเข้ามาช่วยเคลียร์กับ "น้องสาว" ที่ยังยืนกรานขวาง "เจ๊หน่อย" นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

ถึงแม้จะสับขาหลอกเรื่อยมา แต่เมื่อ "ทักษิณ" ได้รับปากไปแล้วว่า มีรางวัลสำหรับ "ขาบู๊" ก็ทำให้ชื่อของ "เจ้าแม่ กทม." ผงาดเข้ามาอยู่ในโผอีกครั้ง

ตามกำหนดเดิม ในกระบวนการ "จัดโผเสนาบดี" น่าจะแล้วเสร็จ 19 มีนาคมนี้ แต่ล่าสุดมีแนวโน้มว่าคงต้อง "เลื่อนคิว" ออกไปด้วยเงื่อนไขทางเทคนิค ที่ยังไม่ลงตัว

ที่แน่ๆ...หลังปฏิบัติการ "ขอคืนอำนาจ" ได้มีข่าวล่ามาแรงว่า "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ได้ต่อท่อร้อยสาย เพื่อดึงเอา "กลุ่มมัชฌิมา" ของสมศักดิ์ เทพสุทิน เข้ามาร่วมขบวน ยิ่งลักษณ์ 4Ž โดยมีสัญญาใจว่าจะประเคนให้ 1 เก้าอี้ "รัฐมนตรีว่าการ" กระทรวงใด กระทรวงหนึ่งเป็นการตอบแทน ในฐานะที่เป็นคนคุ้นเคย และรู้มือกันดีนับแต่สมัย "วังบัวบาน" ...เรืองอำนาจ!!!

ตามข่าวระบุว่า "เสี่ยแฮ้งค์" อนุชา นาคาศัย คนข้างเตียง "พรทิวา นาคาศัย" อดีต รมว.กระทรวงพาณิชย์ มีลุ้นจ่อเก้าอี้ "รมช.กระทรวงอุตสาหกรรม" หรือไม่ก็ไปเสียบ "ว่าการ" กระทรวงเกรดรองลงมา

ทว่าเส้นทางของ "มัชฌิมา" ก็มิได้ ปูด้วยกลีบกุหลาบ...เมื่อเกิดแรงกระเพื่อมจาก "คนในเพื่อไทย" ที่ออกมาขวางลำการเข้าร่วมขบวน "ยิ่งลักษณ์ 4" ของ "ก๊วนสมศักดิ์" โดยพลัน "ไพจิต ศรีวรขาน" ส.ส. นครพนม ในฐานะแกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา ได้ออกมาแตะเบรกแรงๆ "กลุ่มมัชฌิมา" ว่าอดทนมาได้ครึ่งทางแล้ว แต่หากคิดจะ "รีเทิร์น" เข้าร่วมรัฐบาลช่วงกลางเทอม ย่อมไร้ซึ่งความสง่างาม เพราะ "เสียง" ในวิกรัฐบาลเวลานี้มีเสถียรภาพมากเกินพอ แล้ว เหตุไฉนถึงต้องเอาพวก "งูเห่ากลับใจ" เข้ามาเป็น "กาฝาก" แถมตบหน้า "เจ๊แดง" ไปฉาดใหญ่...ด้วยวิวาทะที่ว่า "อย่าเน้นปริมาณ มากกว่าคุณภาพ"

จะว่าไปแล้วในแง่ของ "เสียง" ย่อมมิใช่ประเด็นสำคัญ เพราะบัดนี้ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ยึดกุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้เกินกว่า 300 เสียงไปแล้ว ทว่าในความเคลื่อนไหวการเมืองช็อตล่าสุด ย่อม มี "นัยยะ" และคงมิใช่เรื่องที่อยู่เหนือ "ความคาดหมาย" แต่น่าจะมีหลาย "เหตุผล" ที่เป็น "ตัวแปร"

ซึ่งว่ากันว่าเป็นความต้องการยิ่งยวด ของ "เจ๊แดง" ที่หวังเชิดฉิ่ง "มุ้งวังบัวบาน" ให้สยายปีกและสร้างอำนาจต่อรองภายใน โดยเฉพาะใน "โซนภาคเหนือ" ที่แบ่งออกเป็น 2 ข้างอย่างชัดเจน เพราะในอีกปีกหนึ่ง ย่อมเป็นได้แค่ "ผู้อาศัย" เท่านั้น แต่ก็คอยบั่นทอน "กำลังภายใน" ของ "พี่สาวนารีปู" อยู่ร่ำไป...

ระหว่างที่ "คนนอก" อย่าง "กลุ่มมัชฌิมา" ยังเดินทางมาไม่ถึง "ขบวนปู 4" ทุกอย่างยังคงเต็มไปด้วยความคลุมเครือ แต่ ได้มีคำถามว่า ลำพังปัญหา "ความขัดแย้ง" แย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีกันเองระหว่าง "ส.ส. เพื่อไทย" กับ "คนเสื้อแดง" ก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว แต่เมื่อมีการเขย่าโผ "เสนาบดีปู" ทั้งตัวของ "ยิ่งลักษณ์" และ "ทักษิณ" จะหาเหตุผลใดขึ้นมา "เกลี้ยกล่อม" ทางคนเสื้อแดงให้อยู่ในความสงบ หากการปรับ แผงรัฐมนตรีรอบนี้ ยังไร้ชื่อ "เดอะตู่" จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่พลาดหวัง ในการปูนบำเหน็จเรื่อยมา

เมื่อหันไปดูความวุ่นวายภายในรัฐบาล ยังพบว่ารัฐมนตรีที่ "ติดโผ" อยู่ในความเสี่ยงสูงว่าจะถูก "โละทิ้ง" ไปจาก "ครม.ปู 4" นั้น ปรากฏชื่อของ "ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข" รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ถูกหมายหัวไว้เป็นลำดับต้นๆ อีกทั้งได้มีข่าวลือสะพัดทุ่งว่า...งานนี้หลุดแน่ๆ แม้เขาจะพยายาม "ยื้อสุดแรง" แต่ก็ยากเต็มกลืนที่จะทนต่อ "แรงเสียดทาน" ที่โหมเข้าใส่เรื่อยมา นับแต่คราวปรับ ครม. "ยิ่งลักษณ์ 3" มาแล้ว

ปฏิบัติการ "ขอคืนเก้าอี้" รมว. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ มิใช่ใครอื่น ไกล หากแต่เป็น "ยงยุทธ ติยะไพรัช" ที่แม้จะปลดพันธนาการ "บ้าน 111" มานานแล้ว แต่ยังคงเล่นบท "โลว์โปรไฟล์" คอยเป็น "แบ็กอัพ" เคลื่อนไหวอยู่หลังฉากการเมืองเสมอมา

ตลอดเวลาที่เข้ามาเป็น "ว่าการ" ... "ปรีชา" ก็เหมือนไร้ซึ่งบทบาท เพราะล้วนมีคนของ "ยงยุทธ" อยู่ในแทบทุกจุด ซึ่งว่ากันว่า "บิ๊กข้าราชการ" ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ บางคนยังต้องเงี่ยหูฟัง "ยงยุทธ" มากกว่าเจ้ากระทรวงไปเสียอย่างนั้น

ยิ่งเหตุผลที่ต้อง "ถอด" ก็เนื่องมาจาก "ยงยุทธ" รู้สึกหน่ายกับพฤติกรรมของ "ปรีชา" ที่เล่นโดดข้ามหัวไปหนุนตัก "เจ๊แดง" แถมยังตีกรรเชียงเข้ามาเป็น 1 ในทีมตึกไทยคู่ฟ้า พลันต้องทวงคืน "โควตาเดิม" ของตัวเองมาให้กับ "คนที่ไว้วางใจ"

ในเงื่อนไขที่ "นายใหญ่" อยากคลายปมเพื่อเคลียร์ใจ "คนอกหัก" ก็น่าจะเลือกแทงข้าง "ยงยุทธ" เพราะผลลัพธ์ที่ได้กลับมาแบบ "สองเด้ง" ทั้งการปล่อยโควตาให้ "กลุ่มเชียงราย" ที่ยังไร้หัวรัฐมนตรี พร้อมเชื่อมประสานสิบทิศกับ "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" ในฐานะที่เป็นดองกับ "วิสาร เตชะธีราวัฒน์" ที่เป็นตัวเต็งเข้ามาเสียบเก้าอี้แทน "ปรีชา"

ขณะที่ไฮไลต์ในโผรัฐมนตรีงวดนี้ คงต้องโฟกัสไปที่ "ทีมเศรษฐกิจ" ซึ่งเดิมที "นายใหญ่" อยากโละทิ้งอยู่ทุกขณะ โดยเฉพาะ "เดอะโต้ง" กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และขุนคลังที่ถูกมองว่าเป็น...หอกข้างแคร่มาโดยตลอด แต่เมื่อน้องสาวพยายามออกแรง "ยื้อ" หัวขบวนทีมตึกไทยคู่ฟ้าสุดกำลัง ก็น่าจะเคลียร์ กันได้ลงตัว พร้อมยืดอายุทีมเศรษฐกิจออกไปอีกพักใหญ่

นอกเหนือจากการปรับรัฐมนตรีประเภท "นกแล" หรือการปูนบำเหน็จให้ "คนอกหัก พักบ้าน 111" แล้ว..ในกระทรวงเกรดเอที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาล ก็น่าจะมีการรื้อแผงใหม่ โดยเฉพาะเมื่อ "ตำบลกระสุนตก" พุ่งเป้าไปที่กระทรวงมหาดไทย อันเป็นผลสืบเนื่องมาจาก "จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ" รมว.กระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมีอาการหลุดคิว อยู่เรื่อยๆ...จนถูกตำหนิด้วยสายตา พิฆาตของ "นางพญา" อยู่หลายครั้ง ซึ่งเขาก็พร้อมไขก๊อก!! เพื่อเปิดทางให้ "จิ๋วหวานเจี๊ยบ" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตประธานพรรคเพื่อไทย "เชน..คัมแบ็ก" เข้ามา "คุมสายความมั่นคง" และมีแนวโน้มสูง ยิ่งว่าอาจได้ควบเก้าอี้ มท.1Ž อีกหนึ่งตำแหน่ง

ขณะเดียวกันได้มีข่าวว่า "นายใหญ่" เตรียมกดปุ่มรื้อใหญ่ กระทรวงคลองหลอด ซึ่งนอกจาก "จารุพงศ์" ที่ยอมถอยฉากไปแล้ว ย่อมมีชื่อของทั้งมท.2-มท.3Ž อย่าง "พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก" และ "ประชา ประสพดี" ...ขึ้นอยู่กับ "นายใหญ่" และ "นายหญิง" ว่าจะให้ไปแบบแพ็กคู่ หรือโละทิ้งแค่หนึ่งเดียว

เหนืออื่นใด รหัสปรับทัพ "เสนาบดีปู" ยิ่งมีความคมชัดมากขึ้น...หากแต่คิวปรับ ครม.ยิ่งถูกเร่งเร้าจาก "ทักษิณ" มากขึ้นไปเท่าไหร่...ก็ดูเหมือนว่า "ยิ่งลักษณ์" ยิ่งจะยื้อออกไปนานเท่านั้น เนื่องเพราะต้องการแสดงภาวะผู้นำ ที่พร้อมสลัดทิ้ง "เงา" ของพี่ชายตัวเอง อย่างวิวาทะที่ว่า คนที่จะปรับ ครม.อยู่ที่นี่คนเดียว

รูดม่านหนังซีรี่ส์ม้วนยาว...ปะทุศึกสายเลือดจะมีบทสรุปเช่นไร...จะเริ่มจากศูนย์ หรือ "เซ็ต ซีโร่" เพื่อวางโครงสร้าง อำนาจใหม่ ไม่ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระแส เร้าทางการเมือง...อีกไม่กี่อึดใจคงได้รู้คำตอบ?!!