นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย กูลิโกะ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ป๊อกกี้, เพรทซ์ และพีจอย กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจบิสกิตในไทยยังคงมีอัตราเติบโต และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมา โดยภาพรวมตลาดบิสกิตปี 2566 มูลค่าอยู่ราว 15,700 ล้านบาท เติบโต 6% แบ่งออกเป็น 3 เซกเมนต์หลัก ได้แก่ คุกกี้ เวเฟอร์ และแครกเกอร์ โดยกลุ่มใหญ่สุดคือ แคร็กเกอร์ และป๊อกกี้จัดอยู่ในเซกเมนต์นี้ซึ่งอัตราการเติบโตสูงที่สุดครองแชร์เป็นเบอร์ 1 ปัจจุบัน กูลิโกะประเทศไทยมี 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ขนมช็อกโกแลตและของหวาน เช่น กูลิโกะ ป๊อกกี้ แอลฟี่ และ ธุรกิจไอศกรีม เช่น พาลิตเต้ ไจแอนท์โคน พาเนปป์ ซูนาโอะ รวมถึงกลุ่มล่าสุด คือ สินค้าเพื่อสุขภาพ นมอัลมอนด์แบรนด์ “กูลิโกะ อัลมอนด์ โคกะ” สำหรับแผนดำเนินธุรกิจในปีนี้กูลิโกะจะยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ป้อนสู่ตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญยังมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดบิสกิตอยู่เสมอดังเช่นที่ได้ทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ล่าสุด ได้เปิดตัว ‘ป๊อกกี้ ครัช’ 2 แบบ 2 สไตล์ ประกอบด้วย ป๊อกกี้ ครัช ฟรุต แท่งบิสกิตมัลติเกรน เคลือบครีมหนา พร้อมท๊อปปิ้งผลไม้ชิ้นใหญ่ ผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศ มี 2 รสชาติ คือ บลูเบอร์รีโยเกิรต์ และสตรอเบอร์รีพีชโยเกิรต์ และป๊อกกี้ ครัช นัท แท่งบิสกิตโฮลวีต เคลือบครีมช๊อกโกแลตสองชั้น (ดับเบิ้ลดิป) พร้อมท๊อปปิ้งอัลมอนด์ชิ้นใหญ่ กรุบกรอบเพิ่มขึ้นอีกระดับ มี 2 รสชาติ คือ อัลมอนด์มิลค์ช็อกโกแลต และอัลมอนด์นัวร์ช็อกโกแลต เจาะกลุ่มเป้าหมายทุกเจเนอเรชัน ไม่เพียงแต่กลุ่มวัยรุ่น แต่จะจับกลุ่มคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพด้วย พร้อมดึง “ซี-นุนิว” มาเป็นกุลิโกะ เฟรนด์(Glico Friend) สร้างการรับรู้แบรนด์และสินค้าผ่านกิจกรรมสร้างการรับรู้และส่งเสริมการขายตลอดปี อาทิ การสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ และรุกขยายการรับรู้ผ่านสื่อออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นโดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มการเข้าถึงในทุกๆ ช่องทาง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค โดยผ่านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชั้นแนวหน้า และกระตุ้นให้เกิดการทดลองผลิตภัณฑ์ผ่านงานกิจกรรมโรดโชว์ต่างๆ
ด้านนางสาวดวงกมล ชุลิกาวิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทางกูลิโกยังมีอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการเจาะกลุ่มผู้บริโภค Gen Z ด้วยการเปิดโมเดล “ป๊อปอัป สโตร์ ป๊อกกี้ คาเฟ่ (Pocky Café)” ที่นำ 5 รสชาติหลัก ได้แก่ ช็อกโกแลต, สตรอว์เบอร์รี่, คุกกี้และครีม, มิลค์กี้มัทฉะ และนัตตี้อัลมอนด์ มาทำเป็นเมนูเครื่องดื่มสูตรพิเศษ 5 เมนู เพื่อเพิ่มโอกาสในการบริโภคให้มากยิ่งขึ้น โดยบริษัทวางแผนโรดโชว์ “ป๊อกกี้ คาเฟ่” อย่างน้อย 20-30 แห่งทั่วไทย ประเดิมย่านใจกลางธุรกิจ (CBD) ที่พาร์ค สีลม ในเดือนมีนาคมนี้ อีกทั้ง ปลายปีนี้จะออกสินค้าใหม่กับ รสชาติชีสเค้ก และรสชาติท้องถิ่นไทยเพิ่มอีก ดังนั้นในปีโดยปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตอัตรา 2 หลัก
สำหรับไอเดียกูลิโกะคาเฟ่ มีมานานแล้วตั้งแต่ปี 1980 โดยเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เนื่องจากคนญี่ปุ่นดื่มวิสกี้แล้วนำป๊อกกี้ไปคน เป็นที่มาของ Pocky on the rock บริษัทต่อยอดด้วยการนำป๊อกกี้ไปประกอบเข้ากับเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ ปรับจากแอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มหวาน ขณะที่ไทยได้นำ “ป๊อกกี้ คาเฟ่” มาทำครั้งแรกเมื่อวันป็อกกี้ เดย์ เพื่อฉลองครบ 50 ปีในไทย จากป๊อกกี้ เดย์ทั่วโลกหรือแคมเปญ Global Pocky Day จัดขึ้นปี 2016 หรือ พ.ศ.2559 ไปสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ไปใช้ตกแต่งในเครื่องดื่ม กระตุ้นให้เกิดการลอง