โทรศัพท์มือถือหวังเศรษฐกิจฟื้นการตัดสินใจซื้อ ลุ้นยอดขาย 12 ล้านเครื่องปีนี้ สมาร์ทโฟนราคาถูกแข่งดุ หลากแบรนด์งัดกลุยทธ์ดัมพ์ราคา-ส่งพรีเซ็นเตอร์ดังลุยตลาด โดยเฉพาะรุ่นต่ำกว่า 3,000 บาทกว้านรากหญ้า ช่วงรอยต่อตั้งแต่เดือนพ.ย. 56 ถึงม.ค. 57 เป็นไฮซีซั่นของตลาดโทรคมตลอดกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ทั้งในแง่ของแบรนด์โทรศัพท์มือถือที่มักทยอยส่งไม้เด็ดรุ่นใหม่เอาใจลูกค้าเพื่อกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี หรือเริ่มต้นปีใหม่ แต่การเริ่มต้นปีม้า 2557 ดูเหมือนสถานการณ์จะสวนทางกับคำว่าไฮซีซั่น โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการเมืองที่ผ่านมา รวมทั้งการเปิดให้บริการ 3G และ 4G ที่จะมีขึ้นในอนาคต ข้อมูลล่าสุดจากสำนักวิจัยจีเอฟเค ระบุว่า ตลาดมือถือไทยในปี 2557 นี้ มีปริมาณโทรศัพท์รวมประมาณ 21 ล้านเครื่อง โดยแบ่งเป็นสมาร์ทโฟน 60-70% หรือที่เหลือเป็นฟีเจอร์โฟนอีก 30-40% นายเจฟฟ์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประ-เทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดสมาร์ทโฟน ในครึ่งปีแรกเติบโตกว่า 25% เทียบกับปีที่แล้ว ส่วนปัจจัยที่อาจส่งผลต่อตลาดในครึ่งปีหลัง คือ การใช้งานคลื่นความถี่ 3G และ 4G ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และคาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้อาจปิดยอดราว 12 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย ทั้งนี้ นอก จากปัจจัยราคาแล้ว ผู้บริโภคอาจให้ความสนใจดีไซน์ภายนอกและการออกแบบซอฟต์แวร์ภายใน ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อไปอีก 1-2 ปี นายเจฟฟ์ โล กล่าวว่า บริษัทได้เริ่มสื่อสารไปทางช่องทางต่างๆ มากว่า 2 เดือนโดยเฉพาะในหมวดของดิจิตอล ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเน้นการให้ผู้บริโภคได้สัมผัสและลองใช้งานจริง ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ต่างๆ นอกจากนี้บริษัทยังคงเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และเติมเต็มในส่วนการรองรับ 4G หรือ LTE มากขึ้นเช่น ZenFone 5 LTE, Padfone LTE ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 10% ในครึ่งปีหลัง นายญาณธน สิมะวานิชกุล กรรมการผู้จัดการ ไมโครซอฟท์ ดีไวซ์ ประเทศไทย ผู้ทำตลาดโทรศัพท์มือถือแบรนด์โนเกีย กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังตลาดน่าจะฟื้นตัวได้จากสถานการณ์ต่างๆ ที่คลี่คลายลงส่งผลให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจมากขึ้น โดยสมาร์ทโฟนราคาต่ำว่า 6,000 บาท หรือระดับเริ่มต้น (Entry Level) ถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในตลาด โดยมีสัดส่วนกว่า 50% ของตลาดสมาร์ทโฟนไทยปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงจากผู้เล่นหลายราย “บริษัทแบ่งการทำตลาดออกเป็น 3 ส่วน คือ กลุ่มแฟลกชิพ ในตระกูลสินค้าลูเมีย ระดับไฮเอนด์ ถัดมาคือ กลุ่มระดับกลางซึ่งจะมีทั้งลูเมียและแพลตฟอร์ม เอ็กซ์ สุดท้ายคือ กลุ่มที่ราคาถูกจะมีรุ่นอย่างอาช่า และฟีเจอร์โฟน โดยมือถือในช่วงระดับราคา 3,000-4,500 บาท โนเกีย เอ็กซ์ ถือเป็นอันดับ 2 ในตลาดด้วยส่วนแบ่งกว่า 30%” สอดคล้องกับความเห็นของนายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ของตลาดในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้น จากหลายปัจจัย เช่น การจ่ายเงินจำนำข้าว ความมั่นคงทางการเมือง ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อและมีความมั่นใจในเศรษฐกิจ โดยเลอโนโวเองมีแผนมุ่งเจาะกลุ่มนี้เช่นกัน โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทคือ กลุ่มผู้เปลี่ยนจากฟีเจอร์โฟนและผู้ที่ซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องที่ 2 ซึ่งจากสินค้าประมาณ 30 รุ่นในปี 2557 กว่า 50% จะเป็นกลุ่ม A series ที่มีราคาต่ำกว่า 6,000 บาท พร้อมกันนี้ยังได้ทุ่มงบประมาณ 20 ล้าน เพื่อดึงตัวนักมวยชื่อดัง “บัวขาว” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์สำหรับกลุ่ม A series อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทจะนำสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 3G บนคลื่นความถี่ 850/2100 MHz มาทำตลาดเพิ่มเติม จากเดิมปีที่ผ่านมาจะมีเฉพาะรุ่นที่รองรับคลื่น 900/2100 MHz เท่านั้น ทำให้ในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายประมาณ 3 แสนเครื่อง “บริษัทเชื่อว่ากลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งนี้จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด จึงได้เลือกบัวขาวซึ่งเป็นนักกีฬาที่ได้รับการยอมรับทั้งในไทยและระดับโลกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ดังนั้นคาดว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 5% เป็น 7-10% ในปีนี้ ด้วยยอดขายรวมทั้งหมด 1 ล้านเครื่อง” นอกจากนี้ ยังมีบริษัทหัวเว่ยที่เริ่มรุกตลาดไทยมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่น Huawei Ascend P7 ในระดับราคา 14,990 บาท โดยนายหยาง ฉู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท หัวเว่ย คอนซูเมอร์บีจี จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะมีสินค้าจำหน่าย 8 รุ่น ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ใช้งาน ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ด้วยราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 3,000 บาท นอกจากนี้ บริษัทจะใช้งบประ-มาณ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อทำการตลาดในประเทศไทย โดยได้ตั้งเป้ายอดขายรวมในปีนี้ไว้ที่ 500,000 เครื่อง โดย Ascend P7 จะมียอดประมาณ 7 หมื่นถึง 1 แสนเครื่อง รวมแล้วคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 5% จากตลาดรวมสมาร์ทโฟนในประ-เทศไทย พร้อมเปิดแฟลกชิพสโตร์ 4 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ 2 แห่ง และต่างจังหวัดอีก 2 แห่ง ด้านนายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมุ่งเน้นไปที่รุ่นราคาเริ่มต้นก่อน โดยที่ผ่านมาได้ทำโปรโมชั่น ร่วมกับเอไอเอส 2 รุ่น คือ Liquid Z3s และ Z5 ราคา 2,950 และ 4,790 บาทตามลำดับ ซึ่งได้ผลตอบรับค่อนข้างดี ส่วนครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะนำสมาร์ทโฟนเข้ามาทำตลาดเพิ่มอีก 3 รุ่น ซึ่งจะเน้นกลุ่มราคาระดับเริ่มต้นเช่นเดิมเพื่อเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เป็น 6-7%