ทีดีอาร์ไอมองราคาก๊าซยังมีการผูกขาด แถมกำหนดราคาของภาครัฐยังบิดเบือน เสนอกำหนดราคาก๊าซ LPG เท่ากันทุกภาคอุตสาหกรรม โดยอิงราคาในตลาดโลก ด้าน “อัมมาร” แนะเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมน้ำมันดีเซล ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านการบริหารจัด การระบบเศรษฐกิจ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า จากนโยบายของภาครัฐในการตรึงราคาก๊าซ LPG และก๊าซ NGV ในประเทศทำให้มีการผลิตก๊าซในประเทศน้อย จึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ โดยปัจจุบันแหล่งก๊าซธรรมชาติมาจากหลายแห่ง โดยมีแหล่งผลิตจากอ่าวไทยมีราคาอยู่ที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม นำเข้าจากพม่าราคาอยู่ที่ 14 บาทต่อกิโลกรัม และนำเข้าจากตลาดโลกอยู่ที่ราคา 18 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกิดปัญหาการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติแต่ละกลุ่ม เช่น ภาคปิโตรเลียม ขนส่ง และครัวเรือน แตกต่างกัน ดังนั้น ทีดีอาร์ไอ จึงเสนอให้มีการปรับราคาก๊าซ LPG และ NGV ให้เป็นราคาใกล้ราคานำเข้าสำหรับผู้ใช้ทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อสร้างแรงจูงใจในการผลิตก๊าซในประเทศ และให้การเลือกใช้ประเภทของพลังงานมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ถ้าหากมีการปรับราคาก๊าซจากแหล่งผลิตอ่าวไทยให้เท่ากับที่นำเข้าแล้วให้เก็บส่วนต่างระหว่างต้นทุนกับราคาเข้ากองทุน เพื่อใช้ในการอุดหนุนผู้มีรายได้น้อย หรือกำหนดปริมาณก๊าซภายในประเทศที่แต่ละกลุ่มมีสิทธิ์ใช้อย่างชัดเจน เช่น การใช้เพื่อผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ ควรยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันสำหรับพลังงานทุกประเภท “ทีดีอาร์ไอเสนอให้กำหนดราคาก๊าซ LPG ที่เท่ากันระหว่างทุกภาคอุตสาหกรรม โดยราคาที่เหมาะสมคือราคาที่อิงราคาในตลาดโลก ควรจัดโครงสร้างตลาด LPG ไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติ หรืออย่างน้อยต้องเปิดเผยรายละเอียดของสัญญาซื้อขายก๊าซต่อหน่วยกำกับดูแล” ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า การใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ควรได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา และถ้าจะให้สิทธิ์หรืออำนาจแก่ฝ่ายบริหาร หรือข้าราชการ จะต้องจำกัด แคบให้มากที่สุด จะเอาไปถลุง เอาไป เป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยเสนอให้การนำเงินกองทุนฯ ไปใช้ได้ต้อง ดำเนินการ มาตรา 169 กรณีเดียวกับงบ 2 ล้านล้านบาท ปัจจุบันประเทศไทยมีกองทุนต่างๆ กว่า 20 กองทุน ทำให้เป็นของโปรดข้าราชการ นอกจากนี้ กรณีที่ภาครัฐตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร ตนเห็นว่าถ้าหากมีการตรึงราคาดีเซลไว้ก็จะทำให้เกิดปัญหามีการใช้น้ำมันกลุ่มนี้มาก ทั้งที่ในความเป็นจริงดีเซลเป็นพลังงานที่มีความสะอาดน้อยกว่าพลังงานประเภทอื่น “ผมเห็นว่าควรเก็บภาษีสรรพสามิตเกี่ยวกับภาษีสิ่งแวดล้อม ควรจะมีภาษีกำกับละเอียดแล้วยึดไว้ตลอดเวลา ส่วนการใช้อยู่ที่ผู้ใช้เลือกและต้องประหยัด”