Toggle navigation
วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
นักวิชาการแนะยึดศก.พอเพียงเพื่อยั่งยืน (จบ)
นักวิชาการแนะยึดศก.พอเพียงเพื่อยั่งยืน (จบ)
วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Tweet
ฉบับนี้เรามาตามต่อการประชุมวิชาการเรื่อง "ทิศทางการวิจัยเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารฐานชุมชนจากภู สู่ทะเล" ซึ่งฉบับที่แล้วผู้ร่วมสัมมนาได้บอกว่าปัจจุบันอาหารพบกับวิกฤติมากเพราะป่าชุมชนลดลง มีการแย่งพื้นที่ทางการเกษตร การเข้าถึงแหล่งอาหารยากลำบาก มากขึ้น วิธีการให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารอย่างแท้จริงต้องเน้นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และสหกรณ์ไทยต้องรวมกลุ่มกันให้มีความเข้มแข็ง ต้องมีการพัฒนาฐานข้อมูลและการจัดการข้อมูลสารสนเทศด้านอาหารและพัฒนาระบบเตือนภัยด้านอาหาร อีกทั้งต้องทำการเกษตรให้เป็นอาชีพที่มั่นคงมีแผนอาชีพในระดับชุมชนส่งเสริมให้เกษตรกรเป็น Food Educator (Smart Farmers) โดยเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดเพื่อให้อยู่ได้ และต่อยอดผลผลิตหรือเพิ่มมูลค่า รวมถึงส่งเสริมสุขภาพในชุมชนอย่างบูรณาการตลอดจนหาแนวทางการขับเคลื่อน ผลิตภัณฑ์อาหารไทยระดับพรีเมี่ยมเพื่อตอบโจทย์ครัวไทยสู่ครัวโลกตามนโยบายของรัฐบาล
สำหรับผู้ร่วมสัมมนาคนต่อไปที่จะมา พูดคือ "รศ.สพญ.ดร.ประภาพร ขอไพบูลย์" ผู้ประสานงานชุดโครงการความมั่นคงอาหาร โดยกล่าวระหว่างการนำเสนอ ข้อมูลและสถานการณ์การขับเคลื่อนงานความมั่นคงทางอาหาร ว่า "ประเด็นที่ต้อง ศึกษาคือ 1.อาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัย ที่เพียงพอและหลากหลาย 2.ความสามารถของครัวเรือนในการมีอาหาร ราคาอาหาร กระจายอาหารในตลาด สิทธิ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากร โครง สร้างกายภาพ สิ่งแวดล้อมและนโยบาย 3. ภาวะโภชนาการตามวัย น้ำดื่มที่สะอาด สุขอนามัยและสุขภาพ 4.ความเสถียร การ เข้าถึงอาหารเมื่อเกิดภาวะวิกฤติ เช่น วิกฤติทางเศรษฐกิจและภูมิอากาศ หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวัฏจักร เช่น ความ ไม่มั่นคงทางอาหารตามฤดูกาล"
"โดยมีเครื่องมือในการกำกับทิศทาง ประกอบด้วยยุทธศาสตร์อาเซียน ได้แก่ 1.การให้ความสะดวกด้านการค้า การใช้ประโยชน์จากทรัพยากร และการสำรองข้าว 2.ยุทธศาสตร์คณะกรรมการอาหารแห่งชาติของสภาพัฒน์ 3.ยุทธศาสตร์กระทรวงและจังหวัด 4.แผนปฏิบัติสู่พื้นที่ และยุทธศาสตร์ชุมชน"
"งานวิจัยด้านความมั่นคงอาหารของฝ่ายเกษตร สกว. ประกอบด้วยปัจจัย ความเสี่ยงต่อความมั่นคงด้านอาหารของ พื้นที่ศึกษาจากหน่วยงานรัฐในพื้นที่ องค์กร ท้องถิ่น และชุมชน ซึ่งต้องมองว่าอะไรที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ แนวทางการจัดการ ควรจะเป็นอย่างไร และกำหนดยุทธศาสตร์ การจัดการความมั่นคงอาหารของพื้นที่ ผลลัพธ์ที่ได้จะดูจากการใช้สารเคมีในพื้นที่ เขตต้นน้ำ ความปลอดภัยอาหารที่ขายในตลาด การบริหารจัดการเหมืองฝาย การ ถือครองที่ดินและการใช้ประโยชน์ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ ฯลฯ"
รศ.สมพร อิศวิลานนท์ จากสถาบันคลังสมองของชาติ ระบุว่า "ภาวะคุกคามต่อความมั่นคงอาหาร ความท้าทาย เชิงมหภาคที่สำคัญ คือ ความรุนแรงของสภาพการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศโลก ซึ่งจะนำไปสู่ความแปรปรวนของปริมาณน้ำฝนและอุณหภูมิ นำมาซึ่งความเสี่ยงต่อ การผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทั้งด้านน้ำท่วมและฝนแล้ง ส่วนความท้าทายเชิงท้องถิ่น คือ แรงงานกดดันจาก ท้องถิ่นในด้าน 1.ทุนทางสังคมและพลังความร่วมมือของผู้คนในท้องถิ่นหดหายไปเรื่องนี้เป็นปัญหาสำคัญ เพราะคนหันไป ให้ความสำคัญกับสิทธิส่วนบุคคลมากขึ้น แต่ละคนคิดถึงประโยชน์ส่วนตน ขาดแนว คิดการเสริมสร้างและสนับสนุนส่วนรวม ไม่มีใจและขาดแนวคิดร่วมกันจัดการเพื่อการรักษาและปกป้องทรัพยากรสาธารณะ ของส่วนรวมไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน 2.เกษตรกรเข้าสู่ยุคผู้สูงวัยและขาดแคลนแรงงานในท้องถิ่นทำให้กระทบต่อการทำการเกษตรของครัวเรือน ซึ่งจะส่งผล ต่อภูมิปัญญาท้องถิ่นและความไม่เข้มแข็ง ของชุมชน 3.พฤติกรรมของคนในท้องถิ่นเปลี่ยนแปลงไปพึ่งกลไกตลาดมากขึ้น ทำให้ความหลากหลายของพืชท้องถิ่นลดลง 4.เกษตรกรที่มีขนาดเล็กจำนวนมากขาดความรู้ในการจัดการ 5.ความเสื่อมโทรม ของทรัพยากรธรรมชาติขยายตัวในวงกว้างและกระทบต่อห่วงโซ่อาหารในท้องถิ่น"
"การขับเคลื่อนเชิงนโยบายเพื่อความมั่นคงอาหารควรหลอมรวมนโยบาย เกษตรเพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารด้านการเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพการผลิต โดยลงทุนพัฒนาแหล่ง น้ำและการชลประทานโดยพยายามพี่งพา ตนเองให้ได้และขยายหลักเศรษฐกิจพอเพียงในการใช้ปัจจัยภายในครัวเรือนให้มากที่สุดการวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตร การจัดหาที่ดินและการคุ้มครองในการถือครองที่ดิน การจัดสินเชื่อเกษตร ขยายทักษะการจัดการไร่นาให้กับเกษตรกร เพื่อลดความเสี่ยงและการจัดการเชิงธุรกิจฟาร์ม"
"ส่วนด้านศักยภาพทางการตลาด จะต้องสร้างประสิทธิภาพและแก้ความไม่เป็นธรรม โดยปรับปรุงระบบการขนส่งและการเก็บรักษา ปรับปรุงโครงสร้างตลาดภายในและตลาดส่งออก และปรับปรุง ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ขณะที่ด้านราคาและรายได้ ประกอบด้วยการพยุงราคาหรือประกันราคา การสร้างเสถียร-ภาพราคา การประกันรายได้ การรับจำนำ และการอุดหนุนปัจจัยการผลิต"
"ข้อกังวลในขณะนี้คือ การเผชิญปัญหาของเกษตรกรรายย่อยและความเสี่ยงของครัวเรือนและท้องถิ่นต่อความมั่นคงทางอาหาร ทั้งการก้าวไม่ทันกับการ เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการจัดการ การผลิตที่ขาดความเข้าใจถึงผู้บริโภค ไม่ทันต่อการตอบสนองของกลไกการตลาดสมัยใหม่ ผลิตสินค้าคละโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพและมาตรฐานตามกฎกติกาการค้าใหม่ทำให้ไม่ได้ราคา อีกทั้งการผลิตเป็นรายเล็กรายน้อยทำให้การเข้าถึงตลาดสมัยใหม่ทำได้ยากและจำกัด ซึ่งจะทำให้เกิดการสุ่มเสี่ยงต่อภาวะล่มสลายของเกษตรกรรายย่อยที่ปรับตัวไม่ได้ เกษตรกรรายย่อยถอดใจแต่รายใหญ่เห็นโอกาสและเกิดการกว้านซื้อที่ดินเพื่อการ เกษตรและเก็งกำไร ธุรกิจอาหารขนาดใหญ่จะขยายตัวและปรับตัวเป็นธุรกิจข้ามชาติ ความมั่นคงอาหารของครัวเรือน ขนาดเล็กในชนบทจะสั่นคลอนและเกิดการขยายตัวของความยากจนทางอาหาร"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
กรมชลประทานติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร...
...
ดัชมิลล์ ผนึกกำลัง กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัด...
...
จัดยิ่งใหญ่ AIHEF 2025 พร้อมปักหมุดสมุนไ...
...
"ยันม่าร์" สานต่อความยิ่งใหญ่ จัดงาน “YA...
...
“คต. เปิดมหกรรมสินค้าเกษตรนวัตกรรม AGRI ...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ