Toggle navigation
วันอาทิตย์ ที่ 22 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
ศึกสองพรรค
ศึกสองพรรค
วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556
Tweet
อะไร อะไร ก็การเมือง : by พญาไม้ : Pradej@hotmail.com
สิ่งที่ประชาชนคนไทยทั้งสิ้นทั้งปวงจะต้องนำไปไตร่ตรองร่วมกันก็คือ
ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์ ตอนนี้ทั้งสองพรรคคือปัญหาของประเทศไทย ไม่ว่าพรรคใดจะได้เป็นรัฐบาล ก็จะไม่มีหนทางที่จะปกครองประเทศนี้ได้อีกต่อไป
ตราบเท่าที่ความเกลียดชังที่ประชาชนแต่ละฝ่ายต่างทุ่มเทให้กันและกันยังไม่จบสิ้นลง การเผชิญหน้าก็ไม่มีวันสิ้นสุด
พรรคประชาธิปัตย์รู้ดีว่า ตราบตั้งแต่ยุบสภาหนีคดี สปก. 4-01 มาจนถึงวันนี้ อนาคตที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลจากการชนะการเลือกตั้งนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ การทำลายล้างฝ่ายตรงกันข้ามที่เคยใช้ได้ถึงวันนี้เป็นเรื่องล้าสมัย
ประชาธิปัตย์ไม่ยอมรับความจริงที่ว่า ประชาธิปัตย์ได้บอนไซตนเองมาแล้วอย่างยาวนานจากการไม่เคยปรับปรุงปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารพรรค
แผงการครองอำนาจแบบไม่ปลดถ่ายทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นพรรคการเมืองของคนภาคเดียว ในขณะที่ต้องหาเสียงกับคนทั้งประเทศ
พรรคเพื่อไทยแม้ว่ารูปแบบการบริหารพรรคจะทันสมัยกว่า แต่การทำให้พรรคเป็นสถาบันของคนส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่มีความเป็นไปได้
พรรคตกอยู่ภายใต้การนำของคนคนเดียวจะมีส่วนร่วมอยู่บ้างก็เพียงคำแนะนำ จากการปรึกษาหารือ
สภาพเช่นว่า ทำให้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลกลายเป็นผลประโยชน์ของคนกลุ่มน้อยของกลุ่มคนที่เข้าถึงใจกลางอำนาจ
คนส่วนใหญ่จึงสูญเสียโอกาส และหันไปตอบรับสัญญาจากพรรคการเมือง ฝ่ายตรงกันข้ามเพื่อที่จะดำรงอาชีพของตนให้คงอยู่
ความแตกแยกจึงไม่ใช่การคิดต่างทางการเมืองการได้พัฒนาประเทศ แต่เป็นการสูญเสียผลประโยชน์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
มันจึงเป็นเรื่องที่สมยอมกันไม่เจรจากันลำบาก มันจึงเป็นเรื่องต้องแพ้ ต้องชนะกันไปถ้าหากจะกลับไปหาจุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย ก็ต้องปรับสภาพของพรรคให้เปิดกว้างเป็นประชาธิปไตยทั้งในทางการเมืองและผลประโยชน์
แต่มันคงเป็นไปไม่ได้
หรืออาจจะกล่าวได้ว่า มันเป็นสงครามของคนรวยที่มีคนยากจนเป็นผู้สูญเสีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ