Toggle navigation
วันพุธ ที่ 12 พฤศจิกายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
นักวิชาการชี้ต้องทำเกษตรให้มั่นคง (1)
นักวิชาการชี้ต้องทำเกษตรให้มั่นคง (1)
วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Tweet
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าในช่วง 1-2 ปีนี้ ราคาผลิตผลทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพืช ผลไม้ เนื้อสัตว์ ฯลฯ แม้ผู้บริโภคจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อผลิตผลทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า ตัวเกษตรกรผู้เพาะปลูก เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ได้รายได้เพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่ หรือราคาผลิตผลทาง การเกษตรที่สูงขึ้นนี้ เป็นเพราะพ่อค้าคนกลางขายราคาสูงขึ้นเอง ดังนั้น ผู้บริโภคหลายรายจึงพยายามหาซื้อผลิตผล ทางการเกษตรเหล่านี้จากแหล่งผลิตจากสวน จากไร่ ฯลฯ เรียกได้ว่า เพื่อจะ ได้ซื้อสินค้าสดใหม่จากแหล่งผลิตต้นทาง อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีความกังวลจากผลิตผลทางการเกษตรจากชุมชน เพราะมีการแย่งชิงพื้นที่กันระหว่างพื้นที่ ทางการเกษตรกับพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งอุตสาหกรรมเริ่มซื้อพื้นที่มากขึ้น จนพื้นที่ เกษตรลดลงอย่างน่าใจหาย
ทีมข่าวเกษตรสยามธุรกิจทราบข่าวว่าได้มีการประชุมวิชาการเรื่อง "ทิศทางการวิจัยเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารฐานชุมชนจากภูสู่ทะเล" ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ ปาร์คเราจึงได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมด้วย เมื่อถึงเวลาเริ่มพิธีการ ศ.นพ.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ประธานกรรมการนโยบายกองทุนสนับสนุนการวิจัย และประธานคณะกรรม-การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นประธาน ในพิธีเปิดการประชุมวิชาการ "ทิศทางการวิจัยเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารฐานชุมชนจากภูสู่ทะเล" และงานครั้งนี้จัดโดยฝ่ายวิจัยเพี่อท้องถิ่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) มีวัตถุประสงค์ เพื่อ นำเสนอชุดความรู้งานวิจัยเพื่อท้องถิ่นประเด็นความมั่นคงอาหารทั้ง 4 ภาค รวมถึงแลกเปลี่ยนเติมเต็มสถานการณ์และความรู้ด้านความมั่นคงอาหาร ตลอดจนร่วมกันหาทิศทางสร้างโจทย์วิจัยใหม่ๆ ของกลุ่มงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นด้านความมั่นคงอาหารอันเนื่องจากการกำหนดวาระชาติเรื่องความมั่นคงทางอาหารของรัฐบาล ผ่านรูปแบบการทำงานด้วยคณะกรรมการระดับชาติ แต่นโยบายระดับท้องถิ่นยังไม่สอดคล้องเชื่อมโยงกันเท่าที่ควร ดังนั้น "งานวิจัยเพื่อท้องถิ่น" ระดับชุมชนอาจจะต้องตั้งโจทย์ใหม่เพื่อให้เท่าทันสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในสังคมเวลานี้
ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการ สกว.กล่าวว่า "นโยบายสนับสนุนการวิจัยของ สกว. ตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาจะยังคงดำเนินต่อไปคือ ตั้งแต่การ วิจัยพื้นฐาน การวิจัยประยุกต์สู่การวิจัยเพื่อ นำไปใช้ประโยชน์ในมิติต่างๆ รวมถึงการวิจัยเชิงพื้นที่ทั้งระดับจังหวัด ชุมชน ตลอด จนนักวิจัยที่มาจากนักวิชาการและชุมชนก็จะยังให้การสนับสนุนต่อไปทั้งการสร้างนวัตกรรม องค์ความรู้ นโยบาย และการนำไปใช้ประโยชน์ จากนี้ไป สกว.จะสร้างความเชื่อมโยงระหว่างมิติต่างๆ ตั้งแต่ระดับนโยบายถึงชุมชนเพื่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน ซึ่งความมั่นคงทางอาหารเป็นประเด็นที่น่าสนใจและ สกว.ให้การสนับสนุนมายาวนาน"
"ขณะนี้ชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากโดยเฉพาะวิกฤติด้านอาหาร เนื่อง จากซูเปอร์มาร์เก็ตชุมชนหรือป่าชุมชนลดลง มีการแย่งพื้นที่ทางการเกษตร การเข้าถึงแหล่งอาหารยากลำบากมากขึ้น ทำให้ฐานชุมชนอยู่ในภาวะวิกฤติ นอกจากนี้ ยังมีการเข้าถึงและการขายอาหารในพื้นที่ที่รุกเข้าไป จึงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพื่อนำไปสู่องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องและรูปแบบการแก้ไข ปัญหา ซึ่ง สกว.จะยังคงให้การสนับสนุนงาน วิจัยด้านความมั่นคงอาหารเพื่อนำไปสู่การเชื่อมโยงนโยบายระดับชาติและความมั่นคง อาหารทุกระดับ"
นอกจากนี้ "ศ.นพ.ไกรสิทธิ์" ได้นำเสนอนโยบายความมั่นคงทางอาหารระดับชาติ และกล่าวถึงความจำเป็นที่จะต้องมีงาน วิจัยใหม่ๆ สนับสนุนเพิ่มเติมว่า "เชื่อว่าหลังการประชุมครั้งนี้จะมีการขับเคลื่อนในเชิงคุณภาพและมีการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ด้านความมั่นคงด้านอาหารต่อไปโดยขณะนี้โลกกำลังต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและสุขภาพมากขึ้น รวมถึงอาหารสัตว์ พืชพลังงาน และผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ประเด็นหนึ่งที่อยากให้นักวิจัย เน้นคือ โภชนาการเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่าง อาหารและสุขภาพ การได้รับให้พอเพียงกับ ที่ร่างกายต้องการเพื่อสุขภาวะที่ดีในวัยต่างๆ ของมนุษย์"
"โดยเน้นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารอย่างแท้จริงและอยากเห็นการรวมกลุ่มสหกรณ์ของไทยให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ลดการสูญเสียอาหารหลังการผลิตและลดขยะจาก อาหารเหลือทิ้งสำหรับการพัฒนาฐานข้อมูล และการจัดการนอกจากจะสนับสนุนการเชื่อมโยงและการใช้ประโยชน์ข้อมูลแล้ว ยังต้องมีระบบการจัดการข้อมูลสารสนเทศ ด้านอาหารและพัฒนาระบบเตือนภัยด้านอาหาร การวิจัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาหารของชุมชนต้องมีการขยายผล"
"ทั้งนี้เมื่อมองด้านห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็ง จะต้องทำ การเกษตรให้เป็นอาชีพที่มั่นคง มีแผนอาชีพ ในระดับชุมชน ส่งเสริมให้เกษตรกรเป็น Food Educator (Smart Farmers) โดยเชื่อมโยงการผลิตและการตลาดเพื่อให้อยู่ได้ และต่อยอดผลผลิตหรือเพิ่มมูลค่า รวมถึงส่งเสริมสุขภาพในชุมชนอย่างบูรณาการ โดยการให้บริการพื้นฐานร่วมกันระหว่างการ เกษตร สาธารณสุข การศึกษา มหาดไทย และอื่นๆ ตลอดจนหาแนวทางการขับเคลื่อน ผลิตภัณฑ์อาหารไทยระดับพรีเมี่ยมเพื่อตอบโจทย์ครัวไทยสู่ครัวโลกตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งงานวิจัยเรื่องพริกปลอดภัยและการอบลำไยของ สกว. นับเป็นตัวอย่าง ที่ดี"
น่าเสียดายต้องจบลงเพียงเท่านี้เพราะเนื้อที่มีจำกัด อย่างไรก็ตาม คอยติดตามอ่านต่อฉบับหน้าแล้วกัน รับรอง ว่าเนื้อหายังคงเข้มข้นเหมือนเช่นเคยแน่นอน แล้วพบกัน...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
กรมชลประทานติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร...
...
ดัชมิลล์ ผนึกกำลัง กรมส่งเสริมสหกรณ์ จัด...
...
จัดยิ่งใหญ่ AIHEF 2025 พร้อมปักหมุดสมุนไ...
...
"ยันม่าร์" สานต่อความยิ่งใหญ่ จัดงาน “YA...
...
“คต. เปิดมหกรรมสินค้าเกษตรนวัตกรรม AGRI ...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ