ร่วมมือพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมโคทั้งระบบ

วันพฤหัสบดีที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ร่วมมือพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมโคทั้งระบบ


กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จับมือกลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมโคทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ยกระดับคุณภาพนมไทยทัดเทียมมาตรฐานต่างชาติ ก่อนเข้าสู่ AEC
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต น้ำนมโคเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ AEC ระหว่าง กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) และ กลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาประสิทธิภาพ การผลิตน้ำนมในฟาร์มโคนมในด้านปริมาณและคุณภาพ รวมทั้งมีมาตรฐานการผลิตน้ำนมที่ดีให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ เมื่อเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งจะช่วยสร้างความสามารถในการแข่งขันระยะยาวของ เกษตรกรโคนมและอุตสาหกรรมนมไทยให้มีเสถียรภาพสามารถแข่งขันได้ รวมทั้ง ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมนมไทยเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป โดยข้อตกลง ดังกล่าวจะเริ่มต้นดำเนินการทันทีไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ซึ่งจะเป็น การกำหนดเริ่มต้นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อตกลงความร่วมมือได้ครอบคลุมการดำเนินการนำร่องโครงการในกลุ่มเกษตรกรฟาร์มโคนมที่เข้าร่วมคอนแทรกต์ฟาร์มมิ่ง กับดัชมิลล์รวมทั้งสิ้น 3,587 ฟาร์มจากศูนย์รับน้ำนมดิบ 18 แห่ง สหกรณ์/ศูนย์รวบรวมน้ำนมโคที่ส่งนมให้แก่กลุ่มบริษัท ดัชมิลล์ โดยมีเป้าหมายข้อตกลงความร่วมมืออย่างชัดเจนใน 4 ด้าน คือ 1.พัฒนาปริมาณผลผลิตน้ำนมดิบ/ตัว/วัน ให้เพิ่มขึ้นจาก 13 กก. เป็น 15 กก. ภายใน 3 ปี 2.พัฒนาคุณภาพน้ำนมโคให้มีจำนวนเซลล์โซมาติกไม่เกิน 500,000 เซลล์/มิลลิลิตร และแบคทีเรียไม่เกิน 500,000 โคโลนี/มิลลิลิตร 3.ศูนย์รวบรวมน้ำนมทุกศูนย์ในพื้นที่ดำเนินการผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP และ 4.พัฒนาฟาร์มเกษตรกรที่ผ่านการรับรอง GAP ให้เพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70
โดยกรมปศุสัตว์จะดำเนินการให้คำแนะนำและจัดอบรมการจัดการพืช อาหาร สัตว์ อบรมการจัดการฝูงโคนมด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (โปรแกรม DHI) จัดหน่วยโคนมเคลื่อนที่ให้บริการแก่เกษตรกรในพื้นที่ดำเนินการ ตลอดจนให้คำแนะนำ และอบรมเกษตรกรเพื่อพัฒนาฟาร์มเข้าสู่มาตรฐาน GAP ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์จะวางแผนสนับสนุนเงินทุนให้แก่สหกรณ์เพื่อพัฒนาฟาร์มเกษตรกรผู้เลี้ยง โคนม ในการปรับปรุงฟาร์มเข้าสู่มาตรฐาน GAP ส่วนองค์การส่งเสริมกิจการโคนม แห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จะดำเนินการด้านจัดอบรมหลักสูตรการเลี้ยงโคนมสำหรับเกษตรกรรายใหม่และหลักสูตรเฉพาะสำหรับเพิ่มเติมความรู้ให้เกษตรกร
"บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมโคในครั้งนี้ จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับเกษตรกรฟาร์มโคนมและยกระดับมาตรฐาน ศูนย์รวบรวมน้ำนมให้สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ โดยการเข้าสู่ เออีซี ในปี 2558 จะส่งผลให้มีการเปิดเสรีทางการค้าในด้านต่างๆ จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับอุตสาหกรรมโคนมไทยที่จะต้องเร่งปรับตัว และพัฒนาประสิทธิภาพการ ผลิตนมทั้งระบบ เพื่อให้คุณภาพของนมไทยทัดเทียมคุณภาพของนมต่างประเทศ อีกทั้งจะต้องลดต้นทุนการผลิตให้ถูกลง และได้ผลผลิตมากขึ้น เพื่อเตรียมความ พร้อมให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพในด้านการผลิต ซึ่งความสำเร็จ จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยความร่วมมือ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคเกษตรกรโคนม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมนมโคของไทยให้ทัดเทียม มาตรฐานในตลาดโลกได้" นายชวลิตกล่าว


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ