หมายเหตุแห่งสยาม : by ฤทัย พัชระ

หลังรัฐประหารได้วันสองวัน คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ทำให้ผมหัวเราะจนแทบตกเก้าอี้ เพราะคำพูดที่โพสต์ออกมาเพียงประโยคเดียวว่า “ผมเสียใจที่รักษาระบอบประชาธิปไตยเอาไว้ไม่ได้”

คุณอภิสิทธิ์ท่านเป็นคนมีบุญ มีความเป็นพระเอกอยู่ในตัว กระทั่งคำพูดสุ้มเสียงก็ยังเป็นพระเอก เมื่อเทียบกับอาฉีเสียงหล่อ คุณอภิสิทธิ์แกเป็นพระเอกของแท้ ครบเครื่องทั้งรูปร่างหน้าตา สุ้มเสียง มีจังหวะจะโคน

คำพูดประโยคนี้ต้องเป็นอมตะไปอีกนาน เพราะคุณอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์และม็อบลุงกำนันสุเทพนั้นเป็นฮีโร่ในต่อต้านล้มล้างทำลายการเลือกตั้งและระบอบประชาธิปไตยมาตลอด 6 เดือน

คุณอภิสิทธิ์ไม่ใช่แค่ออกไปเป่านกหวีดอยู่ในม็อบลุงกำนันสุเทพอย่างเดียว แต่ยังพูดต่อต้านการเลือกตั้ง ตั้งหน้าตั้งตา ล้มรัฐบาลประชาธิปไตยอย่างเป็นขบวนการ ร่วมกับกปปส.และองค์กรอิสระ เขารู้กันทั้งเมือง

ที่จริง ผมไม่ค่อยสบายใจนักหรอกที่มีเว็บไซต์ตำหนิว่ากล่าวคุณอภิสิทธิ์ว่า เสแสร้ง ตีกิน เอาดีใส่ตัว บางคนเลยไปไกลบอกว่า เหมือนถูกคนมีอาวุธฉุดนางเอกไปข่มขืนแบบเป็นหมู่เป็นเหล่า แม้แกจะไปช่วยไว้ไม่ทัน แต่ก็ยังมีโอกาสบอกนางเอกว่า ผมเสียใจที่ช่วยคุณไว้ไม่ได้ ขนาดผมเองยังถูกบังคับให้ข่มขืนชำเราคุณไป 2-3 ครั้งเท่านั้นเอง

เอาละ ถึงผมจะขันจนลุกจากเก้าอี้แทบไม่ไหวกับคำพูดคมๆ ของคุณอภิสิทธิ์ แต่ผมก็อยากจะบอกว่า คุณอภิสิทธิ์นั้นน่าจะจบชีวิตการเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองได้แล้ว พรรคประชาธิปัตย์จะต้องสังคายนาเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคกันใหม่ (ถ้าจะมีเลือกตั้งใหญ่เกิดขึ้น) หลังจากนำพรรคทั้งพรรคไปแลกกับการล้มระบอบประชาธิปไตย

แต่พูดไปก็เท่านั้น เพราะโอกาสจะมีเลือกตั้งนั้นยังอยู่อีกไกลมาก เผลอๆ จะไม่มีการเลือกตั้งด้วยซ้ำ เพราะแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์และม็อบลุงกำนันก็บอกอยู่โต้งๆ ว่า พวกเขาทำเพื่อระบอบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ นักการเมือง (ที่ทำให้ปชป.แพ้) ล้วนน่ารังเกียจทั้งนั้น ต้องกำจัดให้หมดไปจากสังคมไทย อะไรที่คนเหล่านั้นทำเพื่อประชาชนล้วนผิดฉกรรจ์

กระทั่งการจ่ายเงินค่าข้าวชาวนาของรัฐบาลก็ยังเป็นความผิด ถูกต่อต้านอย่างเข้มข้นรุนแรง ไม่มีสถาบันการเงินที่ไหนให้รัฐบาลกู้เงิน ชาวนาต้องน้ำตาตกและหลายคนฆ่าตัวตาย จนรัฐบาลถูกใส่ร้ายว่าโกงเงินชาวนา

แต่เมื่อเกิดรัฐประหาร เงินค่าข้าวที่จะจ่ายให้ชาวนาเกือบแสนล้าน ก้อนเดียวกันนี่แหละที่เป็นความถูกต้อง เป็นความดีความชอบที่แซ่ซ้องสรรเสริญกระหึ่มไปทั้งประเทศ เช่นเดียวกับการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงสุดของกระทรวงกรมกองนับสิบราย กลายเป็นความจำเป็น และเป็นเรื่องถูกต้องชอบธรรม ขณะที่นายกฯและรมว.กลับถูกโค่นจากการย้ายข้าราชการที่ทำตัวเป็นฝ่ายค้านเพียงคนเดียว

คนที่ออกไปเชียร์ลุงกำนันสุเทพต่อต้านพ.ร.บ.สุดซอยเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเห็นหรือยังว่า อะไรคือการปฏิรูปที่แท้จริง การปฏิรูปจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องหลังจากรัฐประหารและจำกัดเสรีภาพอย่างที่สุดเท่านั้นเอง

แต่ไหนๆ ก็มาถึงขนาดนี้แล้ว ผมก็ขอเชียร์พลเอกประยุทธ์เต็มที่ บริหารจัดการให้มันแมนๆ หน่อย และทำสิ่งดีๆ ให้มันสุดซอยไปเลย

ผมชื่นชอบที่คสช.ทำให้การโพสต์ด่าว่าเสียดสีใส่ร้ายผู้คนในเว็บไซต์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างน้อยก็เว็บเอเอสทีวีและเคเบิลของบลูสกายหายวับไปพร้อมกับเว็บและเคเบิลแสบอื่นๆ อีกหลายสิบยี่ห้อ

แต่ภาพพจน์ของเมืองไทยในโลกนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สิบกว่าปีมานี้เปลี่ยนไปมาก ไทยเราเป็นประเทศต้นแบบประชาธิปไตยที่ทันสมัยก้าวหน้าที่สุดในเอเชีย แต่ขณะนี้เรากลับมีการรัฐประหาร กลายเป็นประเทศที่เชยแหลก ล้าหลัง ทำท่าจะไม่มีใครคบหาเป็นเพื่อน

หลายประเทศที่เต็มไปด้วยปัญหาอย่างอินเดีย ยูเครน อียิปต์ หรืออินโดนีเซีย ยังต้องใช้กติกาการเลือกตั้ง ไม่มีใครแย่งชิงอำนาจกันด้วยการใช้กำลังอีกต่อไปแล้ว บิ๊กตู่ของผมได้โปรดพิจารณาอย่าให้ประเทศเราถอยไปรวมอยู่กับเกาหลีเหนือได้ไหม-จะเป็นพระคุณยิ่ง (ฮา)