"เพื่อไทย"พ่ายซ่อมส.ส.ดอนเมือง สัญญาณเตือนภัยศึกเลือกตั้งส.ข. 14 เขต

วันพุธที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2556



และแล้วการเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขตดอนเมืองก็ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อผู้สมัครจากพรรคปชป.หมายเลข 8 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เฉือนชนะคู่แข่งจาก พรรคเพื่อไทย หมายเลข 9 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ด้วยคะแนนทิ้งห่างกันแค่สองพันคะแนน (โดยพรรคปชป.ได้ 32,710 คะแนน พรรคเพื่อไทยได้ 30,624 คะแนน) ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของปชป.ในรอบ 37 ปีทีไม่เคยมีส.ส. ในสังกัดพรรค จะมีก็เป็นของพรรคการ เมืองอื่นไม่ว่าจะเป็นพรรคประชากรไทย, พรรคพลังธรรมหรือแม้แต่พรรคไทยรักไทย
โดยเฉพาะกับพรรคไทยรักไทยนั้นยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรค เขตดอนเมือง เคยมีส.ส.ใน สังกัดพรรคที่ชื่อ (ม.ร.ว. ดำรงดิศ ดิศกุล) ก่อนจะเปลี่ยนผ่านในเวลาต่อมาเป็น "เก่ง" การุณ โหสกุล และดูเหมือนว่าเป็นการยึดครองเกือบเบ็ดเสร็จเพราะทั้งสมาชิกสภากทม. (ส.ก.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ล้วนเป็นคนพรรคเดียวกัน
เลือกตั้งเที่ยวนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจึงถือว่าได้เปรียบอยู่พอสมควร แต่เมื่อเกิดปาฏิหาริย์ทางการเมืองขึ้นกลายเป็นพรรคปชป.มีชัยชนะ จึงเกิดคำถามที่ตามมาอีกมากมาย พร้อมๆ กับคำแก้ตัวจากผู้ที่พ่ายการเลือกตั้ง หลายต่อหลายคนพยายามบอกต่อสังคมว่าเป็น เพราะมีเวลาหาเสียงน้อย อ้างเหตุผลกันสารพัด ขณะที่พรรคซึ่งประสบชัยชนะอย่างปชป.พยายามสะท้อนให้เห็นว่าความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผลงานของรัฐบาลที่ไม่เข้าตาประชาชน โดยเฉพาะเรื่องของโครงการรับจำนำข้าว ที่ทำให้รัฐบาลต้องพะอืดพะอมจากปัญหาการขาดทุน
หนำซ้ำผลการ เลือกตั้งในครั้งนี้ถ้าดูลงไปลึกๆ ตั้งแต่เริ่ม ออกสตาร์ตของสองพรรคการเมืองจะเห็นว่ามีการระดมขุนพล แม่ทัพคนสำคัญเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันเพียบ โดยเฉพาะกับพรรคเพื่อไทยนั้นเรียกว่าขนกันมาเพียบเต็มอัตราศึกไม่ว่าจะเป็น เจ๊ปิ๊กŽ ปวีณา หงสกุล อดีตส.ส.ในพื้นที่ "คุณหญิงหน่อย" สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แม้กระทั่ง นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมถึงบรรดารัฐมนตรี
แต่ละคนที่ได้เอ่ยชื่อเสียงเรียงนามล้วนแล้วแต่เป็นแม่เหล็กสำคัญหรือตัวช่วยในการสนับสนุนส่งเสริมการเลือก ตั้งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ "คุณหญิงหน่อย" นั้นนอกจากเธอจะเคยรั้งตำแหน่ง ประธานภาค กทม.ในสมัยพรรคไทยรักไทยแล้ว จุดหนึ่งที่คงไม่อาจมองข้ามนั่นคือทันทีที่มีสัญญาณเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้น คนแรกที่ถูกเอ่ยนามถึงจากคนในพรรคไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น "คุณหญิงหน่อย" นั่นเอง ก่อนสัญญาณจะถูกเปลี่ยนผ่านไปลงตัวที่ "แซม" ยุรนันท์ ภมรมนตรี เด็กในคาถาของ "คุณหญิง" หนำซ้ำ "แซม" ยังอยู่ในก๊วนพิเศษของ "กลุ่มเพื่อนโอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร, น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที และ น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานทอท. อีก งานนี้ จึงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าแบ็กอัพแน่นปึ้ก แต่เหตุไฉนจึงสอบตกแบบไร้รอยต่อเหมือนเช่นที่พรรคเพื่อไทยเคยพ่ายต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มาก่อนหน้านี้ รวม ถึงเหตุการณ์เมื่อคราวเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 5 จังหวัดปทุมธานี ที่ครั้งนั้น นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง พรรคปชป. ชนะขาดผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยคือ นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ ด้วยคะแนน 27,981 ต่อ 24,119
ประเด็นคำถามจึงมีไล่หลังตามมาอย่างต่อเนื่องว่าตกลงพรรคเพื่อไทยพ่าย เพราะเหตุดังที่ได้กล่าวมาในข้างต้นอย่างนั้น หรือยังมีเหตุอื่นที่สำคัญกว่าข้อกล่าว อ้างของคนในพรรค โดยเฉพาะกรณีกลุ่ม คนเสื้อแดงที่มักเป็นข่าวปรากฏบนหน้าสื่อ ในแต่ละครั้งล้วนแล้วไม่ได้สร้างบรรยากาศ ให้คนเมืองกรุงโดยเฉพาะกลุ่มคนอยู่ในบ้านมีรั้วรอบขอบชิดมีความรู้สึกที่ดีแต่ประการใด
เหนืออื่นใดที่น่าจับตามองในระยะอันใกล้ ผลจากความพ่ายแพ้ต่อการเลือก ตั้งซ่อมส.ส.เขตดอนเมืองจะเป็นแรงส่งสะเทือนต่อการเลือกตั้งในสนามการเมือง ท้องถิ่น โดยเฉพาะการเลือกตั้งสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ทั้ง 14 เขต อันประกอบ ด้วย เขตบางกะปิ, บึงกุ่ม, ลาดพร้าว, วังทองหลาง, คันนายาว, สะพานสูง, คลองสามวา, ลาดกระบัง, สายไหม, มีนบุรี, บางเขน, จตุจักร, หลักสี่ และดอนเมือง เป็นเรื่องที่น่าคิด เพราะอย่างน้อยๆ การ พ่ายต่อการเลือกตั้งเมื่อ 6 มิ.ย.53 ส่งผลทำให้พรรคปชป.สามารถกวาดที่นั่งสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ได้ถึง 79 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้เพียงแค่ 26 ที่นั่ง ฤดูกาลใหม่ที่จะเปิดศึกล้างตาสำหรับพรรคเพื่อไทยจึงน่าหวั่นวิตกยิ่งนัก
ถึงแม้ พิมพ์ชนา โหสกุล ส.ก.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย จะได้กล่าวแสดงความเห็นทันทีที่ทราบถึงผลการเลือกตั้งซ่อมว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันโดยระบุว่า "ผลการเลือกตั้งซ่อมมั่นใจว่าจะไม่ส่ง ผลต่อการเมืองในสนามท้องถิ่นเพราะการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เป็นสัญลักษณ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อมีการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือการเลือกตั้งทั่วไปประชาชนเขาจะวัดจากผลงานมากกว่า และหลังจากนี้ตนก็จะลงพื้นที่ต่อไปอย่างที่เคยทำมา เสียงสะท้อนจากชาวดอนเมือง เขามองว่าถ้าเป็น "โหสกุล" คงไม่ออกมาในรูปนี้ แต่ที่น่าจับตามองอีกประการก็คือบารมีของ "เจ้าแม่เมืองกรุง" อย่างคุณหญิงสุดารัตน์ ยังคงเข้มขลังอยู่หรือไม่ หรือทุกอย่างเป็นแค่ภาพอดีตที่ถูกบันทึกแห่งความทรงจำเท่านั้น
นับเป็นเรื่องที่น่าคิดสำหรับอนาคตทางการเมืองนับจากนี้ของทั้งสองพรรค โดยเฉพาะกับพรรคเพื่อไทยนั้น ถือว่ามีโจทย์การเมืองให้ต้องคิดกันหลายตลบ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ "หญิงหน่อย" ก็ดี รวม ถึงทิศทางในการดำเนินงาน เพราะนับจากนี้ไปอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งน้ำตาและเสียงหัวเราะ


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ