นางสาว ปริณาห์ ศรีอินทร์ กรรมการบริหาร บริษัท คูมิโกะ ซัพพลิเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า จากการที่บ้านเป็นเจ้าของธุรกิจโรงงานผลิตเสื้อผ้าส่งออก 718 FABRIC อยู่แล้วและยังไม่มีใครทำการขายผ่านออนไลน์ในช่วง 8 ปีที่แล้วแต่เราก็เริ่มเป็นคนมาขายเสื้อผ้าผ่านออนไลน์การในช่วงแรกในโซเชียลหลังจากนั้นเราก็เริ่มมีฐานคนติดตามพอสมควรก็ได้เก็บสะสมเงินมาเรื่อย ๆ จน เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาก็เลยเริ่มสนใจในการอยากทำธุรกิจอาหารเสริมความงามจึงได้เริ่มหุ้นกับเพื่อนทำแบรนด์อาหารเสริมคอลลาเจนแบรนด์ คูมิโกะ คอลลาเจน มาเป็นตัวแรกหลังจากนั้นก็ขยายมาทำอีกแบรนด์โดยลงทุนเพียงคนเดียวคือแบรนด์ “เวนิสต้าดีท็อก” ที่เป็นอาหารเสริมทานเพื่อให้ขับถ่ายดีและล้างสารพิษเจาะกลุ่มตลาดแมสและทำการตลาดผ่านตัวแทนจำหน่ายเป็นหลักปัจจุบันทั้ง 2 แบรนด์ดังกล่าวมีตัวแทนทั่วประเทศอยู่ที่ 1 หมื่นราย แบ่งเป็นตัวแทนหลักรายใหญ่ที่แอคทีฟที่ราว 1000 ราย ซึ่งปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายในทั้ง 2 แบรนด์มีรายได้เฉลี่ยราว 50 ล้านบาท ต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ช่วงที่มีการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ต้นปีที่ผ่านมา คนต้องกักตัวอยู่บ้านทำอาหารรับประทานที่บ้านและไม่ได้ออกกำลังกาย ระบบขับถ่ายมีปัญหา จึงต้องการตัวช่วยในการดูแลรูปร่างส่งผลให้ในช่วงเวลาดังกล่าวทำให้ตลาดอาหารเสริมความโดยเฉพาะกลุ่มดูแลรูปร่างกระชับสัดส่วนเติบโตสูงขึ้น 3 เท่าตัว โดยเฉพาะสินค้าที่ขายผ่านออนไลน์อยู่แล้วอย่างแบรนด์เรากลับไม่ได้ผลกระทบอะไรจากเหตุการณ์ดังกล่าวเลย ทำให้บริษัทจึงเห็นโอกาสในการจะสร้างแบรนด์อาหารเสริมอีกหนึ่งแบรนด์เพื่อนำมาทานควบคู่กันให้เกิดผลประโยชน์ที่ชัดเจนในเรื่องรูปร่างที่ดีมากขึ้นกับแบรนด์เวนิสต้าดีท็อก
ล่าสุด บริษัทจึงได้ทุ่มงบกว่า 15 ล้านบาท เปิดตัวสินค้าใหม่ “แบรนด์วาเลนเอส” เพื่อตอบสนองความต้องการตลาดโดยนำ มิ้นต์ - ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกในแบรนด์สินค้าดังกล่าวผ่านในช่องทางออนไลน์และสื่อนอกบ้าน โดยทำการโปรโมทผ่านบิลบอร์ด ตามป้ายรถเมลล์ บีทีเอส เป็นต้น เจาะกลุ่มตลาดกลางถึงบน เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายภายใน 3 เดือนนับจากนี้ ส่วนช่องทางจำหน่ายเน้นขายผ่านตัวแทนทั่วประเทศเป็นหลัก อีกทั้งจะเน้นการทำตลาดกับตัวแทน ไม่ว่าจะเทรนด์การขาย โปรโมทตัวแทนออกรายการ จัดอีเว้นต่างๆ เพื่อให้ตัวแทนเข้าถึงแบรนด์ เจ้าของแบรนด์ และตัวพรีเซนเตอร์ให้มากที่สุด พร้อมเตรียมของสมมนาคุณให้มากมาย อาทิ การพาเที่ยวต่างประเทศหลังหมดโควิด แจกรถ แจกทอง เป็นต้น ทั้งนี้ปัจจุบันมีตัวแทนแล้ว 500 ราย โดยคาดว่าจะเพิ่มอีก 1500 ราย รวมเป็น 2000 ราย ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเพิ่งวางจำหน่ายไปได้เพียง 1 เดือน สามารถทำยอดขายได้แล้ว 200,000 กล่อง ตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้มีรายได้รวม 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนในปีหน้าจะทำการนำสินค้าแบรนด์วาเลนเอสทำไซต์ขนาดเล็กใส่ซองนำเข้าไปวางจำหน่ายใน 7-11อีกด้วย ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างเจรจา แต่คาดว่าปีหน้าจะเป็นไปได้ และถ้าสามารถนำสินค้าขนาดดังกล่าวขยายช่องทางไปจำหน่ายใน 7-11 ได้ตามที่วางแผนไว้ บริษัทตั้งเป้าว่าภายในปีหน้าจะสามารถสร้างยอดขายได้เป็นเท่าตัวโดยคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 200 ล้านบาท ในสิ้นปี 64 อย่างแน่นอน
