ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง...อยู่ๆ ธุรกิจที่เคยยิ่งใหญ่ เป็นอันดับ 1 ในโลกธุรกิจแผงวงจรโซลาร์เซลล์ และเคยถูกคาดหมายว่าจะมีอนาคตที่ยาวไกลไร้ขีดจำกัดอย่างบริษัท "ซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้ง" สัญชาติจีน กลับต้องมีอันล่มจมล้มละลายอย่างน่าใจหาย

อาณาจักรธุรกิจของซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้ง ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 เพื่อดำเนินการผลิตและจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ ที่เป็นเครื่องมือแปรเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับกระแสนิยมพลังงานทางเลือก ที่มีสรรพคุณทดแทนเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม และช่วยรักษาดุลยภาพของสิ่งแวดล้อม โดยได้รับเงินสนับสนุนจากทางการจีนจำนวน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นทุนประเดิมในการดำเนินการ

กิจการของซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้ง เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก 540 ล้านเมกะวัตต์ ในปี 2550 เป็น 2,400 เมกะวัตต์เมื่อปี 2554 โดยพึ่งพาแหล่งเงินจากการนำหุ้น เข้าจดทะเบียนระดมทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ผสมผสานกับการกู้ยืมเงินจากแหล่งทุนในประเทศจีน

เฉพาะเม็ดเงินที่ซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้ง ดูดซับมาจากนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก มีจำนวนรวมกันสูงถึง 742.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความเฟื่องฟูฟู่ฟ่าของอาณาจักรซันเทคพาวเวอร์ โฮลดิ้ง มีอายุขัยเพียงแค่ช่วงสั้นๆ ระหว่างปี 2544-2553 เท่านั้น พอขึ้นต้นปี 2554 ชีพจรธุรกิจของซันเทค พาวเวอร์โฮลดิ้ง ก็เริ่มสาละวันเตี้ยลง

เหตุปัจจัยสำคัญที่ทำให้การดำเนินกิจการของซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้ง พลิกจากเฟื่องฟู เป็นฟุบแฟ่บ ได้แก่ ตลาดแผงโซลาร์เซลล์โลกเริ่มอิ่มตัว กระทั่งสินค้าล้นตลาด และบรรดาผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ระดับโลก ได้แก่ ซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้ง ไตรน่าโซลาร์ ยิ่งลี่กรีนเอ็นเนอยี่โฮลดิ้ง เทมเป้ เฟิร์สโซลาร์ และแคนาเดียนโซลาร์ ต้องทุบราคาแข่งขันกันอุตลุด

ราคาเฉลี่ยของแผงวงจรโซลาร์ที่เคยสูงลิ่วถึง 1.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัตต์ ได้ทรุดฮวบลงมาเตาะแตะอยู่แค่ 38 เซ็นต์ต่อวัตต์เท่านั้น

ผลพวงแห่งการกระหน่ำราคากันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนในตลาดแผงโซลาร์เซลล์ ทำให้ผลประกอบการของซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้งเสื่อมทรุดลงอย่างต่อเนื่อง กระทั่งฐานะทางการเงินที่เคยมีกำไรงดงาม เปลี่ยนเป็นขาดทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2554 และขาดทุนต่อเนื่องอีก 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2555

ความย่ำแย่ของฐานะทางการเงินของซันเทคพาว เวอร์โฮลดิ้ง ทำให้หนี้สินที่ไปก่อไว้พอกพูนสูงขึ้นจนท่วมหัวท่วมหูเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ฉีเฉิงหลง ประธานก่อตั้งซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้ง ที่เคยฝันหวานจะสร้างความยิ่งใหญ่ให้ซันเทคพาวเวอร์ โฮลดิ้งเทียบชั้นกับอาณาจักรธุรกิจน้ำมันของบริติชปิโตรเลียม หรืออาณาจักรธุรกิจน้ำมันของโรยัลดัชท์เชลล์ กลับต้องดิ้นรนหาทางออกจากปลักหนี้

แรกเริ่มเขาบากหน้าไปพึ่งพาบริการของธนาคารยูบีเอส ให้ช่วยเป็นธุระเจรจาผ่อนผันระยะเวลาชำระหนี้กับบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลาย ควบคู่ไปกับการวิ่งเต้นขอวงเงินช่วยเหลือจากทางการจีน แต่ทุกอย่างดูจะสายเกินไป

ในที่สุดหนี้ก้อนแรกจำนวน 541 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ครบกำหนดชำระเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ก็ต้องผิดนัดชำระไปเรียบร้อย

พลันที่ซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้ง ผิดนัดชำระหนี้ บรรดา ธนาคารเจ้าหนี้ในจีนจำนวน 8 แห่งก็พร้อมใจกันฟ้องล้มละลาย เพื่อความชอบธรรมในการเข้าพิทักษ์ทรัพย์ของซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้ง

ไล่เลี่ยกันบรรดากองทุนต่างด้าวอย่างน้อย 3 กองทุน คือกองทุน Mount Kellet Capital Management กองทุน Driehaus Capital Management และกองทุน Pioneer Investment Management ก็เคลื่อนไหวฟ้องบังคับหนี้ เพื่อรักษาสิทธิของตัวเอง

เบ็ดเสร็จมูลหนี้ที่ซันเทคพาวเวอร์โฮลดิ้ง ถูกรุมฟ้องบังคับใช้หนี้ตอนนี้มีจำนวนรวมกันทั้งสิ้น 1,284 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 38,520 ล้านบาท