“ซีพีเอฟ” ย้ำไม่ปลดล๊อกมาตรการเฝ้าระวังโรค ASF ในสุกรและโควิด-19 ในพนักงานสู่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์วิถีใหม่

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

“ซีพีเอฟ” ย้ำไม่ปลดล๊อกมาตรการเฝ้าระวังโรค ASF ในสุกรและโควิด-19 ในพนักงานสู่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์วิถีใหม่


บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ยืนยันไม่ยกเลิกมาตรการคุมเข้มป้องกันโรคระบาด ASF ในสุกรและโควิด-19 ในพนักงานของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ แม้สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศเริ่มผ่อนคลายพร้อมอบรมพนักงงานรองรับการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์วิถีใหม่ที่สามารถป้องกันโรคในสุกรและโรคในพนักงานเลี้ยงสุกรไปพร้อมกันสร้างหลักประกันความปลอดภัยทางอาหารให้กับผู้บริโภคอย่างยั่งยืน

น.สพ.ดำเนิน จตุรวิธวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านบริการวิชาการสุกร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในภาวะปกติบริษัทฯ มีมาตรการเฝ้าระวังโรคในสัตว์และมาตรการสุขอนามัยของบุคลากรที่เคร่งครัดทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำตามมาตรฐานสากล และในช่วงที่มีโรคระบาดบริษัทฯ ยังได้ประกาศมาตรการเสริมและแนวทางปฏิบัติที่เข้มงวดเพิ่มเติมเพื่อป้องกันสัตว์ทั้งโรคระบาด ASF ในสุกร และโควิด-19  โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ไม่มีรายงานการติดโรค ASF ในสุกร ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะเริ่มผ่อนคลายและไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมากกว่า 1 เดือนแล้วก็ตามแต่บริษัทฯ ยังคงใช้มาตรการป้องกันสูงสุดอย่างเคร่งครัด

สำหรับมาตรการเสริมเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับพนักงานเลี้ยงสุกรในฟาร์มที่ ซีพีเอฟ ปฎิบัติอย่างเคร่งครัดในสถานประกอบการและฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ คือ 1.การคัดกรอง เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานทุกคน ทุกวันก่อนเข้าปฏิบัติงาน หากมีอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบากและเจ็บคอ ให้หยุดงานแม้ไม่มีไข้ 2.การเว้นระยะทางสังคม (Social Distancing) เช่น การเว้นระยะห่าง 2 เมตร งดการเยี่ยมชมฟาร์ม ลดความหนาแน่นโดยการเหลื่อมเวลาทำงาน งดเดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยง และการทำงานที่บ้าน (Work From Home) 3.สุขอนามัยส่วนบุคคลการสวมหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันหมั่นล้างมือ 4.การขนส่งปลอดภัย มีการตรวจอุณหภูมิร่างกายก่อนปฏิบัติงานสวมหน้ากากอนามัยล้างมือก่อนและหลังการจัดส่งและจัดส่งแบบไม่สัมผัส เป็นต้น

ปัจจุบัน ซีพีเอฟ ยังมีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันโรคระบาด ASF ในสุกรสำหรับฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของบริษัทฯ และเกษตรกรในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ของบริษัทด้วยการห้ามบุคคลภายนอกเข้าฟาร์มต้องรู้แหล่งที่มาของสุกรงดให้อาหารสุกรด้วยเศษอาหารจากคนเตรียมแผนฉุกเฉินกรณีกรณีเกิดการระบาดตามมาตรฐานขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) เข้มงวดสุขอนามัยส่วนบุคคลทั้งก่อนและหลังเข้าฟาร์มตลอดจนพาหนะ เป็นต้น

“จากมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังโรคระบาดสูงสุดทั้งโรคในสุกรและพนักงานที่ ซีพีเอฟ ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องช่วยให้การป้องกันโรคของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพสูงและไม่มีรายงานสัตว์ติดโรคทั้ง ASF ในสุกรและโควิด-19 ในพนักงานฟาร์มรวมทั้งไม่เกิดโรคอื่นๆช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจได้ดีและก่อให้เกิดวิถีใหม่ (new normal) ในฟาร์มเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางสังคม” น.สพ.ดำเนิน กล่าว

น.สพ.ดำเนิน กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้การปฏิบัติตามแนวทางการเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย และการหมั่นล้างมือและสุขอนามัยส่วนบุคคลอื่นๆกลายเป็น “วิถีใหม่” ในชีวิตประจำวันของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในฟาร์มของบริษัทฯ และมีการปรับกิจกรรมการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีเช่น การประชุมความพร้อมก่อนเริ่มงานในตอนเช้า มีการประชุมกันที่สนามหรือสถานที่โล่งแจ้งแทนห้องประชุมหรือภายในอาคารสำนักงานการรับประทานอาหารโดยใช้ภาชนะส่วนตัวในที่ที่มีฉากป้องกัน รับประทานเฉพาะอาหารที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้นการรักษาระยะห่าง 2 เมตรทุกกิจกรรมที่ทำ และการทำความสะอาดจุดสุมผัสร่วม เป็นต้น

“ซีพีเอฟ มีการดำเนินการป้องกันโรคตามมาตรฐานสากลและมีการประยุกต์ใช้มาตรการต่างๆอย่างเหมาะสมรวมถึงการอบรมบุคลากรให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานตลอดเวลาเพื่อสนับสนุนการผลิตอาหารปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิตทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต”

ซีพีเอฟยังได้ร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรค ASF ในสุกรในพื้นที่เสี่ยงของประเทศไทยโดยมีเกษตรกรรายย่อยที่ผ่านการอบรมแล้ว 450 ราย ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างเกราะป้องกันประเทศไทยจากโรคระบาดสัตว์



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ