ผลไม้ 9 แสนตันบุกตลาด ความท้าทายฝ่าวิกฤตโควิด

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2563

ผลไม้ 9 แสนตันบุกตลาด ความท้าทายฝ่าวิกฤตโควิด


ขณะนี้ผลไม้ภาคตะวันออกเริ่มให้ผลผลิตแล้ว โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) รายงานว่า ไม้ผล 4 ชนิดได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกองมีผลผลิตรวม 995,501ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีจำนวน 886,959 ตัน หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ12 โดย ทุเรียนให้ผลผลิต 550,035 ตัน เงาะ 210,637 ตัน  มังคุด 212,345 ตัน และลองกอง 22,484 ตัน

ผลผลิตจะออกมากช่วงปลายเดือนเมษายนต่อเนื่องถึงกลางเดือนพฤษภาคม ขณะนี้ราคาผลไม้ต้นฤดูเกณฑ์สูง จุดรวบรวมหรือล้งปรับเปลี่ยนการรับซื้อผลผลิตทุเรียนแบบเหมาสวนเป็นการเหมาแบบตีราคาเดือนต่อเดือนซึ่งเดือนมีนาคมอยู่ที่130-155 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาเหมาล่วงหน้าเดือนเมษายนถึงวันที่ 10 พฤษภาคมอยู่ที่ 15-130 บาทต่อกิโลกรัมซึ่งเกษตรกรพึงพอใจ

ขณะนี้จีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ซึ่งนำเข้าผลไม้จากไทยมีสัญญานความต้องการทุเรียนและมังคุด แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังยืดเยื้ออยู่ส่งผลให้ระบบขนส่งและการนำสินค้าผ่านด่านศุลการกรของจีนยังไม่เป็นปกติ ตลาดต่างประเทศกำหนดเข้มเกี่ยวกับคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าเกษตรเพิ่มเติมจากที่มีมาตรฐาน GAP และ GMP

โดยเน้นมาตรฐานตรวจรับรองการปลอดเชื้อของสินค้าและบรรจุภัณฑ์ด้วยซึ่งสั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเร่งดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออก

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับการบริหารจัดการ กรณีที่การส่งออกลดลง โดยเน้นส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ จำหน่ายตรงกับผู้บริโภค จำหน่ายผ่านหน่วยงานราชการหรือวิสาหกิจชุมชนต่างๆ  ซื้อขายผ่านกลไกสหกรณ์การเกษตร รวมถึงตลาด Modern Trade ตลาดกลางสินค้าเกษตรต่างๆ และการซื้อขายผ่านระบบ online ตลอดจนแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าและยืดอายุสินค้าเกษตร ทั้งนี้กำหนดแนวทางส่งเสริมการบริโภคสินค้าเกษตรในประเทศซึ่งมีคุณภาพดีเยี่ยมภายใต้ คำขวัญ “ซื้อสินค้าเกษตรไทย เกษตรกรอยู่ได้ ประเทศไทยอยู่รอด”

ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาชาวสวนผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19

โดยเบื้องต้นที่ประชุมได้นำเสนอข้อมูลในภาพรวม เพื่อจะนำไปสู่การวางแผนอย่างละเอียดในรูปแบบคณะทำงานแต่ละเรื่อง ทั้งการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ทางอากาศ (เหมาลำการบินไทย) ทางบก ทางเรือ ไปจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศ อื่นๆ และตลาดในประเทศที่จะร่วมมือกับกิจการขนส่งออนไลน์ต่างๆ เช่น kerry grab ฯลฯ เพื่อกระจายผลไม้ให้ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง

นอกจากนี้ การทำ MOU ร่วมกันการจัดการขนส่งโลจีสติค ตั้งแต่ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ โดย ฟรุตบอร์ด (Fruit Board) จะพิจารณาให้ความเห็นชอบ โครงการ Hub FMS (Feed Management System) ทางบก น้ำ และแากาศ

โดยจะลงนามเพื่อการสร้างความร่วมมือกับการบินไทย:กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ และสหกรณ์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับหน่วยงานเอกชนกับ กลุ่มกิจการ เอ็กซ์เพรส (Express) ที่นำส่งสินค้าสู่ผู้บริโภค และกลุ่มบริการ โลจีสติก จากสวนสู่โรงงาน

พร้อมเสนอให้การบินไทยพิจารณาลดราคาเช่าเหมาลำ รวมทั้ง การให้ทูตพาณิชย์/เกษตร รวมทั้ง Freight Forwarder หาสินค้าเที่ยวกลับ เพื่อแชร์ค่าเฟรต(Freight) ให้ต่ำลง เทียบกับ โคเรียนแอร์ อยู่ที่ราคา 65 บาทต่อเที่ยว แต่ การบินไทยอยู่ที่ 100 บาทต่อเที่ยว ยังมีส่วนต่าง อยู่ 35 บาท ที่ต้องหาทางออกต่อไป



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ