สหกรณ์ฯ อิสลามเนียะมะตุลลอฮ์ ทำเกษตรผสมผสานส่งต่อลูกหลาน

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

สหกรณ์ฯ อิสลามเนียะมะตุลลอฮ์ ทำเกษตรผสมผสานส่งต่อลูกหลาน


พื้นที่เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานค รแต่เดิมเป็นพื้นที่ทำการเกษตร ทำนาทำสวนผลไม้ ปัจจุบันสภาพพื้นที่เปลี่ยนแปลงไป หมู่บ้านจัดสรรและอาคารพาณิชย์เริ่มรุกเข้ามา มีห้างสรรพสินค้าผุดขึ้นในพื้นที่เกษตรเดิม ระบบการจัดการของท้องถิ่นเริ่มเปลี่ยนไป คนนอกพื้นที่หลั่งไหลเข้ามาอาศัยอยู่เพิ่มมากขึ้น

ประชากรในเขตทุ่งครุมีประมาณ 120,000 คน และส่วนหนึ่งเป็นชุมชนของชาวมุสลิมอาศัยอยู่ราว 60,000 คน ต่อมาในปี 2554 ได้มีการรวมกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์บริการอิสลามเนียะมะตุลลอฮ์ จำกัด เพื่อระดมเงินทุนช่วยเหลือ พี่น้องชาวมุสลิม ซึ่งระบบสหกรณ์นั้นถูกกับหลักศาสนาอิสลามและถูกต้องตามกฎหมาย

ปัจจุบันมีสมาชิก 600 คน  และสมาชิกส่วนหนึ่งประมาณ 30 % ยังคงยึดอาชีพการเกษตรและยังเก็บรักษาที่ดิน ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ ทำสวน และเลี้ยงสัตว์ และยังมีบางรายที่ไม่พัฒนาที่ดินต่อ ทำให้เกิดที่รกร้างว่างเปล่า มีบางส่วนรอขายที่ดินเพื่อทำหมู่บ้านจัดสรรเนื่องจากที่ดินมีราคาสูงขึ้น ทำให้วิถีชีวิตในแบบเกษตรกรรมได้ถูกกลืนหายไปอย่างน่าใจหาย

นายเปี่ยม อารีฮูเซ็น ประธานสหกรณ์บริการอิสลามเนียะมะตุลลอฮ์ จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์ได้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาพื้นที่การเกษตรในเขตทุ่งครุให้ดำรงอยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน จึงได้ทำโครงการแปลงเกษตรตัวอย่าง เพื่อสนับสนุนให้สมาชิกนำที่ดินมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยได้แนะนำแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่และหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานไว้ให้สมาชิกได้น้อมนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ ขณะเดียวกัน สหกรณ์ได้สร้างแปลงเกษตรตัวอย่างโดยได้ขอเช่าที่ดินของสมาชิกจำนวน 1 ไร่ มาปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นแปลงเกษตรผสมผสาน เพื่อเป็นพื้นที่ตัวอย่างให้สมาชิกได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้และนำกลับไปปรับใช้กับที่ดินของตนเอง

ภายในแปลงเกษตรตัวอย่าง ได้แบ่งพื้นที่ประมาณ 25 % เป็นบ่อปลา เลี้ยงปลาดุก ปลาช่อน ปลานิลและปลากด พื้นที่อีก 30% ปลูกผลไม้ มะม่วง ทุเรียน กล้วย ส่วนหนึ่งปลูกผักสวนครัว และมีโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ โรงแปรรูปสินค้า ใช้เงินลงทุนไปประมาณ 150,000 บาท และค่อยๆลงมือปลูกพืชผักขยายต่อยอดและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดความสำเร็จให้เพิ่มขึ้น และตั้งแต่เริ่มลงมือทำแปลงเกษตรในเดือนตุลาคม 2561 จนถึงเดือนมกราคม 2562 สหกรณ์ได้จับปลาชุดแรกไปแล้ว 30% ของปลาที่ลงทุนไปทั้งหมด ได้กำไรจากการจับปลาล็อตแรก 20 – 30% ของเงิน

การบริหารจัดการภายในแปลงเกษตรตัวอย่างใช้วัสดุที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ อาหารปลาได้จากเศษอาหารที่ยังไม่เน่าเสียมาผสมกับน้ำหญ้าหวานซึ่งมีโปรตีนประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และมีแหนมาผสมด้วยส่วนหนึ่ง   เพื่อลดต้นทุน ซึ่งต้นทุนอาหารปลากิโลกรัมละ 5 บาท เมื่อเลี้ยงได้ 4 เดือน ปลาตัวโตได้ขนาด สหกรณ์จะจับส่งขายสะพานปลาและส่วนหนึ่งขายให้คนในชุมชน ซึ่งขายถูกกว่าราคาตลาดประมาณ 20 % เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ชาวบ้าน ขณะนี้ได้ทดลองแปรรูปปลาแดดเดียวขาย และจำหน่ายได้ราคามากกว่าปลาสดประมาณ 150%

และในอนาคตสหกรณ์จะขยายการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงปลาให้กับสมาชิกโดยสหกรณ์จะร่วมลงทุนเพิ่มอีก 3 บ่อและสหกรณ์จะนำปลาบึกมาอนุบาลก่อนจะขายให้สมาชิกไปเลี้ยงต่อเพื่อขยายพันธุ์ และจะพัฒนาให้บ่อปลาของสหกรณ์กลายเป็นแหล่งเลี้ยงปลาเศรษฐกิจในเขตทุ่งครุและจะเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมปลาส่งตลาด  ซึ่งสหกรณ์จะพัฒนาระบบน้ำเพื่อที่จะเพาะพันธุ์ปลาเองและจะถ่ายทอดเทคโนโลยีวิธีการเลี้ยงปลาเพื่อให้เข้ากับระบบบ่อของของสมาชิกแต่ละราย

ในบ่อเลี้ยงปลาจะมีการนำน้ำหมักชีวภาพผสมลงไปและเมื่อเวลาผ่านไปจะมีการขุดลอกเลนใต้บ่อปลาขึ้นมาบนดิน ทำให้พื้นที่ในแปลงเกษตรได้รับธาตุอาหาร ซึ่งหากมีการบริหารจัดการที่ดี ที่ดินเลยถูกทิ้งร้างจะสามารถทำประโยชน์ได้มูลค่าเกิน 10 ล้านบาท และในวันข้างหน้าสหกรณ์จะขยายแปลงเกษตรออกไปเรื่อย ๆ รวมถึงจะพัฒนาการแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่า

โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า ปกติขายกล้วยสดหวีละประมาณ 20-30 บาท แต่ถ้ามีการแปรรูปเป็นกล้วยตาก สามารถขายส่งได้ 80 บาท ซึ่งสหกรณ์วางแผนในอนาคตทำเป็นแหล่งแปรรูปกล้วยและเชื่อมโยงเครือข่ายกับสหกรณ์ในพื้นที่อื่น ๆ เพื่อส่งวัตถุดิบให้ และสหกรณ์จะพัฒนาแปลงเกษตรของสหกรณ์ให้เป็นแหล่งผลิตอาหารที่ปลอดสารพิษของคนในเขตทุ่งครุและพื้นที่ใกล้เคียง ตอบสนองผู้บริโภคที่ต้องการปลา ต้องการอาหาร ต้องการผลผลิตทางการเกษตร สามารถมาซื้อจากสหกรณ์ได้ทุกวัน

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ