โรงงานแช่แข็งผลไม้เมืองจันท์ ... ตัวช่วยชาวสวนเจาะตลาดจีน

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

โรงงานแช่แข็งผลไม้เมืองจันท์ ... ตัวช่วยชาวสวนเจาะตลาดจีน


เดือนพฤษภาคมย่างเข้าสู่ฤดูผลไม้ภาคตะวันออกและจะชุกช่วงกลางเดือนเป็นต้นไป ผลผลิตหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้เกษตรกรในพื้นที่ ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกองและสละ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรคาดการณ์ว่า ปีนี้ผลไม้ภาคตะวันออก 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะและลองกอง ผลผลิตรวม 8.8 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 33% 

กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เพิ่มศักยภาพสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อรองรับผลผลิตจากเกษตรกรโดยอุดหนุนงบประมาณจากโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล ให้สหกรณ์นำไปจัดสร้างอุปกรณ์การตลาดและเครื่องมือสำหรับรวบรวมและแปรรูปผลไม้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรวบรวมและเพิ่มมูลค่าผลผลิตให้กับเกษตรกร ซึ่งสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด

จังหวัดจันทบุรี เป็นหนึ่งในสหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลไม้เพื่อกระจายสู่ตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่ละปีรวบรวมผลผลิตได้ประมาณ 5,800 ตัน เฉพาะทุเรียนประมาณ 1,000 ตัน  ซึ่งปีที่ผ่านมา   สหกรณ์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการไทยนิยมยั่งยืนกว่า 29 ล้านบาท และสหกรณ์สมทบเพิ่มเติมอีก 12 ล้านบาทเพื่อสร้างอาคารห้องเย็น พร้อมอุปกรณ์แปรรูปผลไม้ เริ่มก่อสร้างตั้งแต่กลางปี 2561 จนเสร็จสมบูรณ์ทันใช้ในฤดูกาลผลผลิตปีนี้

นางศศิธร วิเศษ สหกรณ์จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรจังหวัดจันทบุรีได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่การเกษตร จากเคยปลูกยางพารา กล้วยไข่และเงาะ หันมาปลูกทุเรียนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเห็นว่าได้ราคาดี ซึ่งราคาทุเรียนปรับตัวสูงขึ้นจากที่เคยขายได้กิโลกรัมละ 60 บาท ปัจจุบันราคาพุ่งสูงไปจนถึงกิโลกรัมละ 150 บาทสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด จึงเตรียมแผนรองรับปัญหาผลผลิตกระจุกตัวและล้นตลาดในอนาคต

โดยได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล เพื่อนำมาสร้างอาคารห้องเย็นและจัดซื้ออุปกรณ์แปรรูปผลผลิต และพร้อมจะยกระดับสู่การเป็นศูนย์กลางการแปรรูปผลไม้เพื่อการส่งออกของขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดจันทบุรี ในอนาคต

อาคารห้องเย็นนี้เริ่มใช้ประโยชน์ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา โดยสหกรณ์ได้รับซื้อผลทุเรียนสด  แต่ตกไซส์ มีตำหนิ ลูกไม่สวย ซึ่งไม่สามารถจำหน่ายเป็นผลสดได้ นำมาแปรรูปโดยแกะเนื้อ ผลิตเป็นทุเรียนแช่แข็งและเพิ่มมูลค่าโดยกระบวนการ Freeze dry ก่อนส่งจำหน่ายตลาดในประเทศจีน  ซึ่งก่อนที่สหกรณ์จะหันมาทำธุรกิจส่งออกทุเรียนแบบแกะเนื้อแช่แข็ง ได้มีการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศจีน พบว่า ปัจจุบันครอบครัวคนจีนในเมืองใหญ่  มีขนาดเล็กลง ทำให้ความต้องการบริโภคทุเรียนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยซื้อทั้งผล เปลี่ยนเป็นการซื้อทุเรียนแบบแกะเนื้อบรรจุกล่องหรือถาดขนาด 1-2 พู สำหรับการบริโภคพอดีกับจำนวนสมาชิกครอบครัว ทำให้สหกรณ์มองเห็นโอกาสในการจะขยายตลาดทุเรียน จึงนำทุเรียนที่สุกแล้วมาแกะเนื้อแล้วแช่แข็งส่งไปขายผู้บริโภคในประเทศจีน ซึ่งทุเรียนเป็นผลไม้ที่ชื่นชอบของชาวจีนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะทุเรียนที่มาจากเมืองไทย

ทั้งนี้ โรงงานห้องเย็นของสหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ จำกัด สามารถผลิตทุเรียนแช่แข็งได้ประมาณ 2,000 ตันต่อปี  โดยสหกรณ์จะเดินเครื่องรับซื้อผลผลิตเต็มที่ในช่วงที่ทุเรียนกระจุกตัว ระยะเวลาไม่เกิน 45 วัน เพื่อป้อนเข้าสู่ห้องเย็น  ซึ่งกระบวนการแปรรูปทุเรียนแช่แข็ง เริ่มจากเกษตรกรขนทุเรียนมาขายให้สหกรณ์ สหกรณ์จะคัดแยกเกรด  A  B  C และทุเรียนที่ตกไซส์ ทุเรียนเกรด A และ B จะจำหน่ายเป็นผลสด กว่า 90 % ส่งไปจำหน่ายที่ประเทศจีน ที่เหลือจะขายตลาดในประเทศ โดยสหกรณ์ได้ร่วมกับห้างแมคโคร และThe Mall  ส่งทุเรียนไปจำหน่ายในห้างและกระจายไปตามสาขาต่าง  ๆ ทั่วประเทศ

ส่วนทุเรียนตกไซส์จะถูกนำเข้าห้องเย็น คัดผลที่สุกงอมเต็มที่ แกะแยกเนื้อและเปลือกออก ก่อนจะนำเนื้อทุเรียนที่แกะแล้วส่งเข้าห้องเย็น เพื่อลดอุณหภูมิของผิวเนื้อทุเรียนลงระดับหนึ่งก่อนจะนำเข้าตู้แช่แข็ง ความเย็น -70 องศา จากนั้นจึงนำมาบรรจุใส่ถุงขนาด  5 กิโลกรัม และบรรจุลงกล่อง 20 กิโลกรัม แต่ละวันสหกรณ์ผลิตทุเรียนแช่แข็งได้ประมาณ 65 ตัน 

อาคารห้องเย็นที่ใช้สำหรับผลิตทุเรียนแช่แข็งนี้ได้สร้างประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าผลผลิตและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร เนื่องจากที่ผ่านมา เกษตรกรต้องขนทุเรียนตกไซส์และสุกงอมไปเร่ขายให้กับพ่อค้าคนกลางและโดนกดราคา แต่เมื่อมีโรงงานห้องเย็นตั้งที่สหกรณ์แล้ว เกษตรกรสามารถนำทุเรียนจากสวนทุกลูกทุกขนาดมาขายให้กับสหกรณ์ที่เดียว สหกรณ์จะรับซื้อไว้ทั้งหมดและคัดเกรดก่อนส่งกระจายไปตามช่องทางตลาด ทำให้ประหยัดเวลาและค่าขนส่ง และยังช่วยพยุงราคาผลผลิตไม่ให้ตกต่ำด้วย

ปกติห้องเย็นในจันทบุรีมีอยู่หลายแห่งแต่เป็นของเอกชน แต่ละปีรวบรวมผลไม้ช่วงที่ออกมากที่สุดประมาณ 4,500 ตัน แต่เมื่อสหกรณ์ได้รับงบประมาณจัดสร้างห้องเย็น ก็ช่วยแชร์ส่วนแบ่งตลาดมาส่วนหนึ่ง เกษตรกรจึงมีทางเลือกนำผลผลิตมาขายให้กับสหกรณ์ และส่งผลให้ราคาทุเรียนปรับตัวสูงขึ้น จากเดิมหลายปีที่ผ่านมาทุเรียนตกไซส์ราคา 30 – 40 บาทต่อกิโลกรัม  ปีที่แล้วขยับเป็น 45 – 60 บาทต่อกิโลกรัมและปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 60-70 บาทต่อกิโลกรัม

“แสดงให้เห็นว่าการที่สหกรณ์เข้าไปเป็นตัวกลางรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรนั้น ส่งผลต่อการรักษาเสถียรภาพราคาผลไม้ของจังหวัดจันทบุรี  และยังช่วยรัฐบาลประหยัดงบประมาณที่จะต้องนำไปใช้แทรกแซงราคาผลไม้ให้กับเกษตรกรปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท  ซึ่งหลังจากที่สหกรณ์เข้ามาบริหารจัดการผลผลิตในพื้นที่ โดยการพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิต เริ่มตั้งแต่การส่งเสริมการรวมกลุ่มสมาชิกให้มีการ วางแผนการผลิต มีการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้ว ยังทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด” สหกรณ์จังหวัดจันทบุรี กล่าว



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ