"หนุ่มลูกจ้างมหาลัย" ท้าพิสูจน์ ปลูกองุ่นสู้แล้งลูกดกเกินคาด

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2562



ที่สวนองุ่นชิตินันท์  บ้านเลขที่ 35 หมู่ 23 บ้านหนองแสง ต.หนองแสง อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เต็มไปด้วยชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวที่ เดินทางมาเที่ยวชมสวนองุ่น  ของนายสุรศักดิ์ จำปาเกตุ พนักงานอัตตราจ้าง มหาวิทยาลัยขอนแก่น ลูกชายผู้ใหญ่บ้าน

โดยใช้เวลาว่างวันเสาร์ และอาทิตย์ ปลูกองุ่น 2 สายพันธุ์ คือ แบล็กโอปอ ลูกสีดำ ไร้เมล็ด และพันธุ์ไวท์มะละกาลูกสีเขียว รสชาติหวานหอม ใช้เวลาปีครึ่งต้นองุ่นมีผลผลิตดีเกินคาด สร้างความประหลาดใจให้กับชาวบ้าน ไม่เชื่อว่า พื้นที่แห้งแล้งจะสามารถปลูกองุ่น แบบที่เห็นในเมืองหนาวได้ พร้อมยกเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรประจำหมู่บ้าน 

นายสุรศักดิ์ จำปาเกตุอายุ 33 ปี เจ้าของสวนองุ่นชิตินันท์  เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นการปลูกองุ่นเกิดมาจากความชอบ รสชาติความหวานหอมขององุ่น วันหนึ่งได้ไปเดินเที่ยวงานเกษตรแฟร์ เห็นพ่อค้านำต้นพันธ์องุ่นมาวางขาย จึงซื้อมาทดลองปลูกหน้าบ้าน2 ต้น จากนั้นศึกษาข้อมูลการปลูกจากอินเตอร์เน็ต เริ่มดูแลใส่ปุ๋ย ไม่นานก็เจริญเติบโต มีดอก มีผลออกมาให้รับประทาน

ตอนนี้อยากขยายพันธ์ปลูกจริงจัง ประกอบกับพ่อเป็นผู้ใหญ่บ้าน อยากมีแหล่งท่องเที่ยวให้ชาวบ้านมีรายได้เสริม หากมีสวนองุ่นสัก 1 แปลง จะเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในหมู่บ้าน  ก่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชน  จึงได้ลงมือปลูกโดยใช้แปลงว่างเปล่าข้างคอกวัว จำนวน 2 งานโดยใช้เวลาวันเสาร์ และอาทิตย์ในการปลูก เริ่มตั้งแต่เช้า จนถึงเย็น  ซื้อพันธ์องุ่นมาจากราชบุรีจำนวน 2 สายพันธุ์คือ แบล็กโอปอ ลูกสีดำ ไร้เมล็ด   และพันธุ์ไวท์มะละกาลูกสีเขียว ส่วนเหตุผลที่เลือกเอา 2 พันธ์นี้เพราะว่าดูแลง่าย และทนต่อสภาพอากาศ  เป็นที่นิยมของลูกค้า

สำหรับขั้นตอนการปลูกเริ่มจากการเตรียมแปลง ไถยกร่องเพื่อไม่ให้น้ำท่วมถึง จากนั้นขุดหลุม กว้าง 30 เซนติเมตร ลึก 30 เซนติเมตร หลุมห่างกัน 50 เซนติเมตร นำปุ๋ยคอกผสมแกลบรองที่ก้นหลุม จากนั้นนำต้นพันธ์ลงปลูก  เมื่อมียอดขึ้น ให้เด็ดยอดทิ้ง เหลือยอดที่แข็งแรงไว้เพียง 1 ยอดเท่านั้น  จากนั้นก็เลี้ยงกิ่งพันธุ์ต่อไป 1 ปี 6 เดือนก็เริ่มออกผลผลิต สำหรับการให้น้ำ ตนใช้ระบบน้ำหยด  ส่วนปุ๋ยใส่เพียงปุ๋ยคอก และน้ำหมักชีวภาพเท่านั้น  โดยปุ๋ยคอกได้มาจากคอกวัวของพ่อซึ่งอยู่ติดกันกับสวนองุ่น

สำหรับแปลงองุ่นแปลงนี้ ถือเป็นแปลงแรก ซึ่งตนถือว่าเป็นมือใหม่ ดูแล มาได้ 1 ปี 6 เดือน สามารถมีผลผลิตออกมาจนเกินความคาดหมาย ออกลูกดกเต็มต้น มองไปทางไหนก็มีแต่พวงองุ่น

“ตอนแรกชาวบ้านไม่เชื่อว่าพื้นที่แห้งแล้งจะปลูกองุ่นได้ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า องุ่นปลูกได้เฉพาะเมืองหนาว  พอผลผลิตชุดแรกออกจำหน่าย มีเพื่อนบ้าน แวะเวียนมาซื้อถึงสวน นอกจากนี้ยังมีลูกค้าในตัวอำเภอวาปีปทุม และ อำเภอใกล้เคียงที่ทราบข่าวเดินทางมาเที่ยวชมสวน พร้อมกับตัด และชิมกันสดๆ ก่อนเลือกซื้อกลับบ้านอีกด้วย”นายสุรศักดิ์ กล่าว

สำหรับองุ่นพันธ์แบล็กโอปอ ขายราคากิโลกรัมละ170 บาท ส่วนพันธ์ไวมะละกา ขายกิโลกรัมละ 150 บาท  หากนักท่องเที่ยวสนใจแวะชมสวนองุ่น สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร 086-824-4727



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ