สัญญาณชีพของค่ายโทรศัพท์ "แบล็คเบอร์รี่" สัญชาติแคนาดา หรือที่รู้จักกันทั่วไปภายใต้ชื่อ "บีบี" กำลังมีจังหวะการเต้นที่แผ่วลงๆ ทุกที กระทั่งสร้างความวิตกกังวลใหญ่หลวงแก่บรรดาคณะผู้บริหารและผู้ถือหุ้น ถึงขั้นต้องตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาทำหน้าที่แสวงหาหนทางอยู่รอดที่เหมาะสม

บทสรุปขั้นต้นสำหรับทางรอดของบีบี ตามที่คณะกรรมการพิเศษค้นพบมีอยู่ 3 แนวทางด้วยกันคือแสวงหาผู้ร่วมทุน หรือแสวงหาหุ้นส่วนรายใหม่ๆ และตัดใจขายแก่กลุ่มทุนที่เหมาะสม

เมื่อปีที่แล้วคณะผู้บริหารของบีบี ได้ทุ่มเงินก้อนใหญ่ว่าจ้างให้เจพีมอร์แกนเชส และอาร์บีซีแคปปิตอลมาร์เก็ต ทำการศึกษาหากลยุทธ์ความอยู่รอดของบีบี ซึ่งมีบทสรุปว่าน่าจะเป็นไปได้ 2 แนวทางคือการแสวงหา ผู้ร่วมทุน และเพิ่มจำนวนหุ้นส่วนรายใหม่ๆ หรืออีกนัยหนึ่งคือการออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายแก่หุ้นส่วนรายใหม่แบบเฉพาะเจาะจง แต่ไม่มีการเสนอให้ขายกิจการแก่กลุ่มทุนรายใหม่

เหตุปัจจัยที่กดดันให้คณะกรรมการและคณะผู้บริหารของบีบี ตื่นตัวในการแสวงหาทางรอด มีสาเหตุสำคัญเกิดจากความตกต่ำลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่องของรายการจากการขาย

ย้อนหลังกลับไปเมื่อปี 2551 ซึ่งถือเป็นปีทองของบีบี..ตอนนั้นมูลค่าการจำหน่ายพุ่งขึ้นถึงขีดสุดที่ 83,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา รายได้จากการจำหน่ายมีการลดน้อยถอยลงอย่างต่อเนื่อง กระทั่งตัวเลขยอดจำหน่ายล่าสุด ณ ปีที่แล้วดิ่งลงมาเหลือแค่ 5,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเพียงร้อยละ 7 ของมูลค่าการจำหน่ายในปี 2551 เท่านั้นเอง

รายได้จากการขายที่สูญเสียไปมหาศาล ฉุดให้ส่วนแบ่งตลาดในระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนของบีบี มีอันเลือนลางจางลงอย่างน่าใจหายมาเหลือเพียงแค่ร้อยละ 2.9 เท่านั้น ขณะที่ระบบปฏิบัติการจาก 2 ค่ายยักษ์ใหญ่คือ "ไอโอเอส" ของค่ายไอโฟน และ "แอนดรอยด์" ของค่ายกูเกิล ที่เติบโตขึ้นมากินตลาดบีบีครองความนิยมสูงสุดรวมกันถึงกว่าร้อยละ 90

"คริสเตียน พาราดิส" อดีตรัฐมนตรีอุตสาหกรรมแห่งแคนาดา แสดงท่าทีอาลัยอาวรณ์ต่อชะตากรรมของบีบี โดยบอกว่าบีบี เคยเป็นกิจการที่เชิดหน้าชูตา และสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศแคนาดา ซึ่งสมควรอย่างยิ่งที่ชาวแคนาดาจะต้องช่วยกันประคับประคองบีบีเอาไว้เป็นสมบัติของชาติแคนาดาต่อไป อย่าปล่อยให้หลุดไปอยู่ในความครอบครองของคนอื่น

ข้างฝ่าย "เปรม วัตสา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแฟร์แฟกซ์ไฟแนนเชียลโฮลดิ้ง ซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่แห่งนครโตรอนโต และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบีบีประกาศเปิดใจ พร้อมจะสละสถานะความเป็นกรรมการในคณะกรรมการของบีบี เพื่อเปิดทางให้บุคคลอื่นใดก็ตามที่มีขีดความสามารถในการนำพาบีบีไปสู่ความรุ่งเรือง

"มาร์ค ไวส์แมน" ซีอีโอกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขนาดใหญ่ในแคนาดา ให้ความเห็นว่าแม้ผลประกอบการของบีบีจะไม่น่าประทับใจ แต่ยังคงมีความน่าสนใจในการเข้าลงทุน เนื่องจากบีบี เป็นกิจการที่ปลอดภาระหนี้ และยังเป็นกิจการที่มีเงินสดในมือจำนวนมหาศาลถึง 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม มาร์ค ไวส์แมน บอกว่าข้อติดขัดที่เป็นอุปสรรคในการดึงดูดการลงทุนของบีบี คือสถานะความเป็นวิสาหกิจของรัฐบาล ซึ่งจำเป็นที่รัฐบาลต้องปลดล็อกด้วยการแปรรูปบีบีให้เป็น เอกชนเต็มตัว

บีบี ไม่เพียงยังเป็นที่สนใจเข้าลงทุนของบรรดาผู้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีเม็ดเงินจำนวนมหาศาล พร้อมจะทุ่มเข้าไปเท่านั้น แต่ยังเป็นที่หมายตาของกลุ่มทุน ค่ายเทคโนโลยีสารสนเทศขนาดยักษ์อย่างน้อย 4 กลุ่ม

กลุ่มแรก ที่จ้องหมายจะเขมือบบีบี เพื่อใช้เป็นบันไดก้าวกระโดดสู่ความยิ่งใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟนคือค่ายเลอโนโว แห่งประเทศจีน

กลุ่มที่สอง คือเจ้าตลาดสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลกสัญชาติเกาหลีใต้ อันได้แก่ ค่ายซัมซุง

กลุ่มที่สาม คือขาใหญ่ในตลาดคอมพิวเตอร์ ได้แก่ค่ายเดลคอมพิวเตอร์ สัญชาติอเมริกัน

กลุ่มที่สี่ ได้แก่ค่ายไมโครซอฟท์เจ้าพ่อซอฟต์แวร์หมายเลข 1 ของโลก สัญชาติอเมริกัน

ในบรรดา 4 ค่ายยักษ์ที่รอจังหวะฮุบกิจการบีบีเมื่อสบโอกาส มีเพียงค่ายเดียวที่ดูเหมือนจะถูกเพ่งเล็งจากรัฐบาลแคนาดา และบุคคลสำคัญในคณะรัฐบาลแสดงท่าทีขัดขวางให้ปรากฏชัดเจนคือค่ายเลอโนโว

"จิม ฟลาเฮอร์ตี้" รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแคนาดา บอกว่ารัฐบาลจะตรวจสอบอย่างระมัดระวังสำหรับการเสนอซื้อจากเลอโนโว