“กิฟฟารีน” ปรับแผนธุรกิจสู่โลกยุคดิจิตอล เพื่อทันกับยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงรองรับสมาชิกคนรุ่นใหม่ จัดงานตอกย้ำความสำเร็จ ฉลองชัย ก้าวสู่ปีที่ 22 ก้าวสู่โลกใหม่ ก้าวไปกับกิฟฟารีน..กับงานครบรอบ 21 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ สร้างพลังใจ เติมพลังไฟสู่โลกใหม่ยุคดิจิตอล “CLICK TO THE NEW ERA” พร้อมเดินหน้าสร้างแบรนด์อัดโฆษณาสร้างการรับรู้ ควบคู่กับการสื่อสารในช่องทางออนไลน์มากขึ้น ในการซัพพอร์ตให้สมาชิกดึงข้อมูลสินค้าไปใช้สะดวกรวดเร็ว
แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของกิฟฟารีนเราจึงได้จัดการฉลองก้าวสู่ปีที่ 22 ก้าวสู่โลกใหม่ ก้าวไปกับกิฟฟารีน..กับงานครบรอบ 21 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ สร้างพลังใจ เติมพลังไฟสู่โลกใหม่ยุคดิจิตอล “CLICK TO THE NEW ERA” ณ ไบเทค บางนา ในการสร้างความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของธุรกิจเราให้กับสมาชิกและผู้บริโภคทั่วไป โดยตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมา พันธกิจหลักของการเปิดธุรกิจกิฟฟารีนนั้น เพื่อต้องการที่จะให้คนไทยได้มีโอกาสสร้างความสำเร็จในสิ่งที่ตนเองได้สร้าง และได้มีโอกาสสร้างในสิ่งที่ตนเองนั้นเป็นเจ้าของ โดยที่ไม่ต้องลงทุนและมีความเสี่ยง ซึ่งการยึดมั่นในสิ่งนี้ คือ สิ่งที่กิฟฟารีนได้ทำมาตลอดระยะเวลา 21 ปี
อย่างไรก็ตาม จวบกระทั่งมาจนปัจจุบันนี้กิฟฟารีนมีโรงงานเป็นของตัวเอง มีสินค้าเป็นของตัวเอง และตนเองก็ได้มองเห็นวิวัฒนาการของธุรกิจกิฟฟารีนที่เริ่มเปลี่ยนไปอยู่ตลอด 21 ปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงนั้น ค่อนข้างที่จะช้าในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ จนกระทั่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเริ่มมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เหตุผลเพราะมีในเรื่องของโลกโซเชียลเข้ามามีบทบาทมากขึ้นนั่นเอง ดันนั้นจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ส่งผลให้กิฟฟารีน ที่เป็นบริษัทแม่ก็ต้องมีการปรับตัว รวมถึงในส่วนของบริษัทลูกเองก็ต้องมีการปรับตัวด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่จะต้องมีการปรับนั้นมองว่า ทุกคนจะต้องปรับตัวทางด้านความคิด คือ ต้องสามารถคิดให้ได้ ต้องมีความเข้าใจในโลกปัจจุบันว่า วันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดของตัวเองให้ทัน และเมื่อปรับวิธีทางความคิดแล้ว ก็ต้องมาปรับวิธีการทำงานด้วย พร้อมไปกับการรักษาเอาไว้สำหรับการทำงานแบบเดิมของเรา
ผู้บริหารคนเก่ง กล่าวต่อว่า ล่าสุดนี้ กิฟฟารีนยังได้มีการเปิดตัวสุดยอดผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 20 รายการอีกด้วย โดยกลุ่มสินค้าที่เป็นดาวเด่น คือ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาทิ กิฟฟารีน รีแพรี่ สเนล ซีรี่ส์, กิฟฟารีน สโนว์ โลตัส - อโล บอดี้ เจล, กิฟฟารีน เฮอร์เบิล เฟรช ออรัล แคร์ ทูธเพสท์ เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันสาขาของกิฟฟารีนมีอยู่ 100 กว่าแห่ง และได้มีการปรับเปลี่ยนมาเป็น Service Mind เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทุกท่านไม่จำเป็นที่จะต้องเดินเข้ามาที่สาขา ซึ่งสามารถติดต่อสื่อสารกับทางสาขาได้ผ่านทางโซเซียลของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการสั่งสินค้าผ่านไลน์ หรือ กิฟฟารีน 1101 ที่พร้อมส่งทุกที่ ฟรีทั่วไทย เป็นต้น โดยถือเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่สั่งสินค้าได้อีกช่องทางหนึ่ง
“ เนื่องจากปัจจุบันนี้ ถือเป็นยุค 4.0 เป็นยุคแห่งการเริ่มต้นของการทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ ในฐานะที่กิฟฟารีนครบรอบ 21 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 ซึ่งเป็นยุคดิจิตอล บริษัทฯ มีความต้องการที่จะให้นักธุรกิจกิฟฟารีนทำธุรกิจเชิงรุกผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อริเริ่มการสร้างเครือข่ายในโลกดิจิตอลมากขึ้นอีกด้วย”
ปัจจุบันกิฟฟารีนได้สร้างความสำเร็จ ความมั่นคงอันยั่งยืนให้กับนักธุรกิจและสมาชิกทั่วประเทศกว่า 7 ล้านรหัส โดยในปีนี้บริษัทฯ จะยังคงเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทำโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ ไปพร้อมๆ กับการสื่อสารในช่องทางออนไลน์ เพื่อซัพพอร์ตให้สมาชิกดึงข้อมูลสินค้า ข้อมูลการทำงานไปใช้งานได้สะดวกขึ้น
