ตอนที่แล้วได้กล่าวถึงพระสมเด็จวัดระฆังที่ลงรักปิดทองซึ่งถูกบรรจุกรุอยู่ และผู้เขียนได้สันนิษฐานในตอน ท้ายว่า พระสมเด็จวัดระฆังที่ลงรักปิดทองมีวัตถุประสงค์ ในการทำเพื่อบรรจุกรุโดยเฉพาะนั้น ก็ขอแสดงเหตุผลเพิ่มเติมว่า การบรรจุกรุพระไม่ใช่การเอาพระไปเก็บ ณ ที่ใดที่หนึ่ง โบราณกาลแม้แต่ทุกวันนี้ การบรรจุกรุพระจะเพื่อการสืบทอดศาสนา หรือการฉลองอายุ หรือการอุทิศ ส่วนบุญส่วนกุศลให้บุคคลที่ล่วงลับไปก็แล้วแต่จะต้องมีพิธีกรรม ไม่ใช่การเอาของมาเก็บในกรุเฉยๆ จะต้องมีฤกษ์ยามการทำพิธี และปกติจะต้องมีแผ่นจารึกว่าได้บรรจุกรุเมื่อใดไว้ด้วย ซึ่งหลักฐานเหล่านี้อาจจะสูญหายไปตามกาลเวลา หรือไม่เป็นที่เปิดเผยก็เป็นได้ ดังนั้นการทำพระเพื่อบรรจุกรุโดยเฉพาะก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้มากที่สุด
โอกาสนี้ ขอนำภาพพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ที่เรียกกันว่าพิมพ์ A ที่เคยบรรจุกรุอยู่มาให้ท่านได้ชมกันอีกเช่นเคย พระองค์นี้มีหลักฐานการบรรจุกรุคือมีเม็ด ทรายหยาบๆ ติดอยู่ทั่วทั้งองค์พระ มีการลงรักสีแดงและ รักยังไม่ถูกล้างออก จึงเป็นพระที่มีความสมบูรณ์มีสภาพ แบบเดิมๆ ก่อนลงกรุ แต่ก็มีร่องรอยความเก่าของคราบ รักที่หลุดล่อนออกตามอายุ พิมพ์ทรงด้านหน้าชัดลึก ถูกต้องตามตำราพระสมเด็จแท้ทุกประการ ด้านหลังเป็นแบบที่เรียกกันว่า หลังกาบหมาก มีรอยปูไต่ตามขอบข้างขององค์พระทั้งสี่ด้าน และมีรอยถลอกของรักสีแดง อยู่บ้างตามกาลเวลา ซึ่งลักษณะแบบนี้จัดว่าเป็นพระที่ดูง่าย ไม่สามารถปลอมแปลงเลียนแบบกันได้
พระที่มีลักษณะและสภาพแบบนี้ สรุปได้ว่า เป็นพระที่บรรจุกรุอยู่ จึงมีคราบกรุเห็นเป็นสีแดงเข้มๆ ติดอยู่ ส่วนทรายที่ติดตามองค์พระก็สามารถพิจารณาได้ว่า เกิดจากการที่กรุซึ่งพระบรรจุอยู่มีน้ำท่วมถึง กรุจะต้องอยู่ในระดับต่ำ บางปีที่มีน้ำมากหรือเกิดอุทกภัย น้ำก็จะท่วม เข้ามาภายใน ทำให้ทรายที่รองกรุไว้ขึ้นมาติดตามองค์พระได้ ดังที่เห็น
พระสมเด็จวัดระฆังที่ลงรักสีแดงๆ แบบนี้จะเห็นได้จากภาพในปฏิทิน สามทหาร พ.ศ.2515 ซึ่งเป็นภาพที่ถ่ายมาจากพระเครื่องของจอมพลถนอม กิตขจร สันนิษฐาน ได้ว่า เป็นพระกลุ่มเดียวกัน พระที่ลงรักสีแดงแบบนี้ จะมีสีแดงเฉพาะผิวนอกเท่านั้น เนื้อในจะไม่แดงไปด้วย เมื่อล้างรักออกแล้วจะเห็นเนื้อพระเป็นสีขาวนวลทั้งองค์ สีแดงจะไม่ได้ซึมเข้าไปในองค์พระด้วย แต่ส่วนใหญ่พระกรุนี้เมื่อล้างรักออกแล้วจะเห็นเนื้อพระเป็นสีแดงจางๆ เนื่องจากเป็นร่องรอยของรักสีแดงที่ติดอยู่บ้างตามรอยแตกเล็กๆ ที่ล้างออกไม่ได้หมด นับว่าเป็นจุดสำคัญอย่าง หนึ่งของการพิจารณาพระสมเด็จวัดระฆังว่าแท้หรือไม่ คราบ รักสีแดงจะบ่งบอกถึงความมีอายุของพระที่สร้าง เพราะรักสีแดงแบบนี้เป็นรักที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ซื้อหาได้ ในสมัยปลายอยุธยาและต้นรัตนโกสินทร์เท่านั้น