Toggle navigation
วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
กราบหลวงพ่อสุรศักดิ์ วัดประดู่ เกจิดังลือนามแห่งสองลุ่มน้ำ (1)
กราบหลวงพ่อสุรศักดิ์ วัดประดู่ เกจิดังลือนามแห่งสองลุ่มน้ำ (1)
วันอาทิตย์ที่ 07 เมษายน พ.ศ. 2556
Tweet
"พระ ณ สยาม" พาผู้อ่านเปลี่ยนบรรยากาศ กันอีกครั้ง ด้วยการสลับสับเปลี่ยนกลับมาเรื่องของเกจิอาจารย์ดังอีกครั้ง หลังจากพักยกไปล่องใต้ไหว้พระที่ภูเก็ตกันแล้ว ฉบับนี้ขอถือโอกาสหวนมาฟังเรื่องราวดี ๆ ของเกจิอาจารย์และเครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียงกันต่อ ซึ่งในฉบับนี้จะพาท่านผู้อ่านไปสนทนากับพระเกจิดังแห่ง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ผู้สืบทอดตำนานอาคมสองลุ่มลำน้ำ คือ "ลุ่มน้ำแม่กลอง" และ "ลุ่มแม่น้ำนครชัยศรี" ท่านผู้นี้ก็คือ "พระมหาสุรศักดิ์ อติสกฺโข" หรือ "พระครูพิศาลจริยาภิรม" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์" เจ้าอาวาสวัดประดู่
แต่ก่อนจะพูดคุยกับ "หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์" เราไปทำความรู้จักประวัติของวัดประดู่กันสักนิดดีกว่า "วัดประดู่" เป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ที่ ต.วัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ราวพ.ศ.2320 ปัจจุบันได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ยกฐานะจากวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ วัดแห่งนี้เฟื่องฟูมากในสมัยหลวงปู่แจ้งเป็นเจ้าอาวาส หลวงปู่แจ้งเป็นคนพื้นเพวัดประดู่โดยกำเนิดแต่ไม่มีหลักฐานว่าท่านอุปสมบท เมื่อไร แต่คนทั่วไปรู้จักท่านเพราะเป็นยอดเกจิอาจารย์ ผู้มีความเชี่ยวชาญในญาณอภิญญา มีวิชาอาคมขลัง ไล่ภูตผีปีศาจ โดนคุณไสย หมอน้ำมนต์ รักษาไข้ รักษาโรค ยาหลวงปู่คือ "ใบมะกากับข่า" อันลือชื่อ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน วัดประดู่มีเจ้าอาวาสมาแล้วทั้งหมด 8 รูป ซึ่งปัจจุบันก็คือ "พระมหาสุรศักดิ์ อติสกฺโข" หรือ "พระครูพิศาลจริยาภิรม"
ตามหลักฐานบันทึกที่ปรากฏอยู่ในจดหมายเหตุเสด็จประพาสต้น เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2447 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาส ต้นทางชลมารคมายังวัดประดู่ พระองค์ทรงมีพระราชศรัทธาต่อหลวงปู่แจ้งเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ได้ทรงอาราธนาหลวงปู่ แจ้งเข้าไปในพระราชวังและได้ถวายเครื่อง ราชสักการะกับหลวงปู่ เช่น เรือพร้อมเก๋ง พระที่นั่ง 4 แจว, พระแท่นบรรทม, ตาลปัตร พัดรองนามาภิไธยย่อ "จ.ป.ร." และตาลปัตร พัดรองนารายณ์ทรงครุฑพร้อมปลอกหนัง สำหรับคลุมตู้เล็กและตู้ทึบ, ปิ่นโต, สลักบาตรพร้อมฝาบาตรไม้ฝังมุกอักษรย่อ "ส.พ.ป.ม.จ" ซึ่งย่อมาจากคำว่า สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์
เมื่อสดับรับฟังประวัติของวัดประดู่กันไปแล้ว คงเป็นหน้าที่ของเราที่จะนำผู้อ่านไปพูดคุยกับ "หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์" กันบ้าง ต้องบอกว่าระหว่างที่สนทนากันได้มีญาติโยมทั้งคนไทยและต่าง ชาติหลั่งไหลเข้ามากราบขอพร รวมถึงสนทนาธรรมและนำเครื่องรางของขลังมาให้หลวงพ่อเจิมพร้อมลงอักขระด้วย โดยก่อนที่ "หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์" คุยนั้นก็หยิบหมากพลูมาเคี้ยวพลางพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชัดเจนว่า "อาตมาบวชเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 15 ปี แล้วมาบวชเป็นพระในวันที่ 12 มีนาคม 2519 ที่วัดปัจจันตาราม ต.นาโคก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมี หลวงปู่สุด วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร เป็นพระอุปัชฌาย์ ระหว่างที่จำพรรษาได้เรียนการเขียนอักขระและยันต์จากหลวงตามี พร้อมกับท่านได้สอนให้ท่องพระคาถาชินบัญชรด้วย หลังจากจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ได้ 1 ปี ก็ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดมหาธาตุ จ.เพชรบุรี จำนวน 1 ปี ซึ่งได้เรียนนักธรรมชั้นโทกับบาลีไวยากรณ์ แล้วอาตมาอยากจะศึกษา ต่อที่กรุงเทพฯ จึงกลับมาที่วัดปัจจันตารามเพื่อมาหาหลวงพ่อพระครูสาครวุฒิคุณ (หลวงพ่อใบ) ให้นำไปฝากที่วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เยาวราช จนกระทั่งตอนพ.ศ. 2533 กลับมาที่วัดประดู่เป็นรักษาการเจ้า อาวาสและได้รับการแต่งตั้งจนถึงปัจจุบัน"
มาถึงตรงนี้ "หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์" ได้เล่าถึงวิชาการทำเครื่องรางของขลังว่า "อาตมาได้เรียนการเขียนอักขระคาถาและการทำเครื่องรางของขลังจากพระเกจิอาจารย์และฆราวาส ที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น เรียนยันต์ตะกร้อกับหลวงพ่อสุด วัดกาหลง, หลวงตามี วัดปัจจันตาราม, พระอาจารย์รวม, คุณโยมพ่อใหญ่ ยังมีสุข ลูกศิษย์ของหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ, หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ, อาจารย์เส่ง ลูกศิษย์หลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร จ.เพชรบุรี, หลวงปู่เจือ วัดกลางบาง แก้ว จ.นครปฐม, หลวงพ่อสุด วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร เป็นต้น สำหรับเครื่องรางของขลังที่อาตมาเล่าเรียน วิชาการทำมานั้นมีหลากหลาย เช่น การทำยันต์ตะกร้อ, ยันต์หมูทองแดง, วิชาการลงอุนาโลม และการถักเงื่อน จระเข้ขบฟัน,วิชาการทำเบี้ยแก้, การทำตะกรุดลูกอมโลกธาตุ, ตะกรุดมหา ระงับปราบหงสา, ตะกรุดโภคทรัพย์ และอื่นๆ"
สาระแห่งการสนทนากับหลวงพ่อยังไม่จบ เนื่องจากพื้นที่มีจำกัด เอาไว้ฉบับหน้าเราจะไปทำความรู้จักกับท่าน กันต่อ รับประกันว่าสาระยังคงเข้มข้นยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน แล้วพบกันใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ