จบไปแล้วหนึ่งตอนกับเรื่องราวของ "พระมหาสุรศักดิ์ อติสกฺโข" หรือ "พระครูพิศาลจริยาภิรม" หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันติดปากว่า "หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์" เจ้าอาวาสวัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทร สงคราม เกจิดังอีกรูปที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั้งคนไทยรวมถึงชาวต่างชาติให้ความเคารพมากมาย ด้วย เพราะความที่มีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ให้คำปรึกษาธรรมะกับญาติโยมที่มากราบไหว้และร่วมสนทนาธรรมอย่างเป็นกันเอง
ฉบับที่แล้วเราพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับวัดประดู่รวมถึงเรื่องราวบางตอนของชีวิต "หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์" ที่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยได้ยินได้ฟังจากใครที่ไหนมาก่อน โดยเฉพาะเรื่องของการ ศึกษาธรรมะและการทำเครื่องรางของขลัง ซึ่งท่านได้ศึกษาเล่าเรียน ด้านการเขียนอักขระคาถาและการทำเครื่องรางของขลังจากพระเกจิอาจารย์และฆาราวาสที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น เรียนยันต์ตะกร้อกับหลวงพ่อสุด วัดกาหลง, หลวงตามี วัดปัจจันตาคาราม, พระอาจารย์รวม, โยมพ่อใหญ่ ยังมีสุข ลูกศิษย์ของหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ, หลวงพ่อ หยอด วัดแก้วเจริญ, อาจารย์เส่ง ลูกศิษย์หลวงพ่อบุศย์ วัดพรหมวิหาร จ.เพชรบุรี, หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม เป็นต้น
"เครื่องรางของขลังที่อาตมาเล่าเรียนวิชาการทำมานั้นมีหลากหลาย เช่น การทำยันต์ตะกร้อ, ยันต์หมูทองแดง, วิชาการลงอุนาโลม และการถักเงื่อนจระเข้ขบฟัน, วิชาการทำเบี้ยแก้, การทำตะกรุดลูกอมโลกธาตุ, ตะกรุดมหาระงับปราบหงสา, ตะกรุดโภคทรัพย์ และอื่น ๆ"
ฉบับนี้เรากลับมาสนทนาพูดคุยกันต่อกับพระคุณเจ้า รับรองว่ายังมีเรื่องราว ที่น่าสนใจเช่นเดิม โดยเฉพาะเรื่องเครื่อง รางของขลังและการพัฒนาของวัดประดู่ในยุคที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งท่านเล่าต่อว่าตะกรุดของวัดจะสร้างขึ้นในวาระพิเศษจำนวนจำกัดเท่านั้น ไม่ได้ทำออกมา มากในเชิงธุรกิจ ทั้งนี้การสร้างตะกรุดจะเป็นลักษณะญาติโยมร่วมบริจาคเงินทำบุญ สร้างกำแพงวัด หรือสร้างสาธารณูปโภค ต่างๆ ภายในวัด จากนั้นทางวัดก็จะมอบของที่ระลึกให้กับผู้ร่วมบริจาค ซึ่งก็คือตะกรุดต่างๆ เช่นวาระนี้จุดประสงค์ในการ สร้างก็เพื่อที่จะนำปัจจัยมาสร้างกำแพงพระอาราม สร้างซุ้มประตูวัด โดยโยมที่ทำ บุญสร้างกำแพงช่องละ 20,000 บาท จะได้รับตะกรุดเนื้อเงิน 1 ดอก หรือถ้าทำ บุญสร้างซุ้มประตูเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท จะได้รับตะกรุดเนื้อทองคำเป็นต้น นอกจากนี้ทางวัดยังมีตะกรุดอย่างอื่นที่ญาติโยมสามารถบูชาได้เลยเมื่อมาถึงวัด เช่นตะกรุดโภคทรัพย์, ตะกรุดโลกธาตุ, ตะกรุดหนังเสือโคร่ง, ตะกรุดใบลานบางปืน, ตะกรุดตาลยอดเหียน, ตะกรุดจันทร์เพ็ญ เป็นต้น
"ทั้งนี้จุดประสงค์ของการสร้างตะกรุดอีกข้อหนึ่งคืออาตมาอยากจะอนุรักษ์และรักษาของโบราณ สมัยก่อนกว่าจะทำตะกรุดแต่ละดอกต้องใช้ทั้งงานภายนอกและภายใน โดยงานภายนอกคือ ต้องเตรียมพร้อมหาวัสดุมาผ่านกรรมวิธีต่างๆ มาพันเป็นตระกรุด เมื่อทำงานภาย นอกแล้วต้องมาทำงานภายในก็ต้องอาศัย จิตใจที่ส่งไปในตระกรุดที่เราทำ คือความตั้งใจที่เราทำตะกรุดให้ออกมาเสร็จแล้วต้องมาที่งานภายนอกอีกครั้งซึ่งทั้งหมดเหมือนกับมีความมั่นคง ทั้งภายนอกภายใน ต้องผสมผสานกันอย่างดีและตั้งใจ"
"ทั้งนี้พุทธคุณของตะกรุดต่าง ๆจะมีแตกต่างกัน เช่น ตะกรุดโสฬสมงคล พระพุทธคุณด้านทั้งเมตตาและแคล้วคลาด, ตะกรุดระงับปักหงษาพระพุทธคุณด้านระงับเภทภัยอันตรายต่างๆ ระงับอันตรายต่างๆ, ตะกรุดโภคทรัพย์และตะกรุดสาลิกา พระพุทธคุณด้านเรื่องของค้าขาย เมตตามหานิยม, ตะกรุดโลกธาตุ พระพุทธคุณด้านเรื่องความปลอดภัย อันตรายต่างๆ, ตะกรุดหนังเสือโคร่งพระพุทธคุณด้านเรื่องอยู่ยง คงกระพัน ป้องกันแคล้วคลาดปลอดภัย"
ตอนหนึ่งของการสนทนา ท่านเจ้าอาวาสวัดประดู่ยังได้กล่าวถึงประเด็นการปฏิบัติพระกรรมฐานว่าส่วนมากตนจะนั่งกรรมฐานในช่วงตอนกลางคืน ไม่มีเวลาอะไรแน่นอน นอก จากนี้ยังใช้การปั้นดินเป็นกรรมฐานคือจิตอยู่ที่ตรงไหน เราปั้นดินจิตเราอยู่ที่การปั้น สมาธิอยู่ที่ใจ
อย่างไรก็ตาม ก่อนการสนทนาจะจบ "หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์" ยังได้กล่าวถึงสถานที่และสิ่งที่น่าสนใจของ วัดประดู่ว่าภายในวัดยังมีสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจมากมายเริ่มจากอุโบสถหลวงพ่อใหญ่, พิพิธภัณฑ์เครื่องราชศรัทธารัชกาลที่ 5 หรือจะเป็นพระตำหนักสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก, ภาพจิตร-กรรมเพดานเขียนด้วยสีฝุ่นสมัยรัชกาลที่ 2, เก๋งเรือพระราชทานรัชกาล ที่ 5, ศูนย์สาธิตศิลปะการทำหัวโขนและเศียรครู, บ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์, หุ่นปั้นรูปเหมือนด้วยดินสอพองที่ตนเป็นผู้ปั้น ฯลฯ
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของหุ่นปั้นรูปเหมือนนั้นท่านเล่าอย่างน่าสนใจว่า มีญาติโยมเข้ามาชมและศึกษากันเป็นจำนวนมาก โดยจะมีทั้งบุคคลทั่วไป ญาติโยม รวมถึงคณาจารย์ นักศึกษา เช่น นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรีก็เข้ามาศึกษาดูงาน หากผู้อ่านท่านใดสนใจอยากจะไปศึกษาชมวัด รวมถึงเช่าวัตถุมงคลของวัดประดู่แห่งนี้ก็สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3473-5237