เมดิไนซ์ ขยายตลาดลุยครึ่งปีหลัง เน้นกลยุทธ์ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่น เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจอย่างครบวงจร หวังตอบโจทย์ทุกความต้องการผลิตภัณฑ์นวัตกรรมในกลุ่มเฮลท์แอนด์บิวตี้ รุกตลาดขายผ่านออนไลน์ พร้อมเดินหน้าขยายตลาดกลุ่ม CLMV ครบสิ้นปี 2560
นางวรรณี วอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโน อินกรีเดียนส์ จำกัด ผู้สร้างสรรค์และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคุณภาพ เมดิไนซ์ เปิดเผยถึง ทิศทางการการตลาดการสร้างแบรนด์เมดิไนซ์ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2560 ว่าเนื่องจากปัจจุบันตลาดอาหารเสริมมีมูลค่าประมาณ 75,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาจะเห็นว่าตลาดอาหารเสริมเพื่อความงามชะลอตัวลง ในขณะที่ตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลทำให้เราต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความหลากหลายของผู้บริโภคกลุ่มที่ให้ความสำคัญเรื่องของสุขภาพแต่ยังคงกลุ่มความงามเช่นเดิม
สำหรับการตั้งเป้ายอดขายโดยรวมของบริษัทฯ ปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา ไม่น้อยกว่า 100 % ซึ่งจะมาจากการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายทั้งผ่านตัวแทนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งช่องทางออนไลน์ โดยบริษัทฯ ได้ส่งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในกลุ่มเฮลท์แอนด์บิวตี้ ได้แก่ อินโน คอลลา กลูต้าแครนเบอร์รี่ และมารินเซ่ จะเน้นเป็นโปรดักซ์ที่มาครบเป็นซีรี่ย์ที่ช่วยดูแลเรื่องของสุขภาพและความงามควบคู่กับไป และกำลังจะออกมาอีกหลายโปรดักซ์ในเร็วๆ นี้
"ตอนนี้เราอยู่ในช่วงให้ลูกค้าจดจำได้รับรู้ถึงประโยชน์และข้อดีของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และต้องมีการปรับตัวในการทำงานให้ทันต่อกระแสของการตลาดที่ใช้ช่องทางเข้าถึงสินค้าผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้นกว่าทุกช่องทาง ผ่านตัวแทนจำหน่ายของเราที่มีอยู่ทั่วประเทศและต่างประเทศ ครบทุกช่องทางเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีตัวแทนประมาณ 2,000 ราย โดยแบ่งสัดส่วนเป็นตัวแทนจำหน่าย 50% ออนไลน์ 40% และร้านค้าจำหน่าย 10 % อีกทั้ง จะมีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติข้อมูลต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนให้ความรู้ด้านการขายเพื่อเพิ่มศักยภาพให้ตัวแทนจำหน่าย นอกจากนี้ยังเพิ่มรางวัลพิเศษเพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย อาทิ ทองคำ ทริปท่องเที่ยวต่างประเทศ สำหรับตัวแทนจำหน่ายที่ทำเป้าขายได้อีกด้วย"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้เรายังเริ่มทำตลาดในต่างประเทศ โดยมีการส่งไปจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ประมาณเดือนละ 5,000 กล่องต่อ 1 โปรดักซ์ ถือได้ว่าได้รับการตอบรับที่ดี และยังมีการขยายต่อไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียตนาม โดยจะเริ่มต้นที่ลาวก่อน คาดว่า ไม่เกินสิ้นปี 2560 จะเจรจาครบทุกประเทศ
"ในส่วนกิจกรรมส่งเสริมการขาย ได้มีการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าทั้งผู้บริโภคเองและกลุ่มตัวแทนจำหน่าย และยังมีการออกบูธในงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ รวมทั้งงานอีเว้นท์ตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อกระตุ้นและตอกย้ำแบรนด์ให้ลูกค้าจดจำเพื่อกลับมาบริโภคเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน"
