นางโพลี่ ฉ่อย ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮาสโบร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 10 ปีที่ฮาสโบรลงทุนสร้างหนังจากของเล่นยุค 80 อย่างหุ่นแปลงร่างทรานส์ฟอร์เมอร์ส ออกมาเป็นแฟรนส์ไชส์ที่ดังเปรี้ยงปร้าง สร้างรายได้และยอดขายให้กับบริษัทสูงมาก ซึ่งทางบริษัทแม่ที่ประเทศอเมริกา ก็ได้ออกมาประกาศถึงความพยายามที่ฮาสโบรกำลังเตรียมสร้างจักรวาลภาพยนต์ของ Hasbro ให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น ที่จะประกอบไปด้วยหนังหลายๆ ชุด ซึ่งแน่นอนว่าหนังทั้งหมดจะอ้างอิงมาจากของเล่นหุ่นยนต์แปลงร่างของทางฮาสโบร ที่จะมีทั้งภาคต่อ และภาคแยกย่อยมากมาย
และล่าสุดนี้เพื่อเป็นการต้อนรับและโปรโมทภาพยนตร์ ฟอร์มยักษ์อย่าง Transformers 5 : The Last Knight พร้อมการออกสินค้าหุ่นแปลงร่างทรานส์ฟอร์เมอร์ส ภาค 5 โดยมีการทำการตลาดพร้อมกันทั่วโลก และสำหรับในไทยมีจำนวนแฟนเพจทรานฟอร์เมอร์ถึง 33 ล้านคน เจาะกลุ่มเป้าหมายเด็ก ๆ และกลุ่มผู้ที่เป็นนักสะสม หรือแฟนพันธ์แท้ของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ซึ่งเราวางแผนในการทำตลาดไปพร้อม ๆกันระหว่างการฉายภาพยนตร์ กับสินค้าของเล่นหุ่นยนต์แปลงร่างนี้ ภายใต้แคมเปญ “Reveal Your Shield” โดยใช้ “ดิจิทัลคอนเทนท์” ปลุกกระแสผ่านทางโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เกิดความสอดคล้องในการปล่อยสื่อประชาสัมพันธ์ดำเนินไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจะทำให้เกิดภาพที่ยิ่งใหญ่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย โดยลูกค้าที่ชมภาพยนตร์ และ ค้นหาข้อมูลภาพยนต์ทางออนไลน์ ก็จะพบกับสินค้าของฮาสโบร ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นการตลาดที่ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าสาวกทรานส์ฟอร์เมอร์ส ที่ชื่นชอบทั้งภาพยนตร์ และ ชื่นชอบในการเล่น และสะสมฟิกเกอร์เหล่านี้ด้วย
สำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ฮาสโบร ได้ร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ คิดส์แพลนเน็ต ในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป และศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม เนรมิต เอ็มโพเรี่ยม แกลเลอรี่ ชั้นM เป็นลานสมรภูมิสงคราม และ โลกไซเบอร์ตรอน บนพื้นที่กว่า180 ตารางเมตร ร่วมสัมผัสอย่างใกล้ชิดและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหุ่นแปลงร่าง บัมเบิลบี และ ออพติมัส ไพรม์ ที่มีรายละเอียดสวยงามสมจริง เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทย
เนื่องจากมูลค่าการตลาดรวมสินค้ากลุ่มของเล่นคาแรกเตอร์ในประเทศไทยถือเติบโตว่าดีกว่าประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียนถึง 10-15% และเติบโตสูงเป็นอันดับต้นๆ ติด 1 ใน 3 ของเอเชีย บริษัทจึงมองว่าการออกสินค้าในกลุ่มของเล่นหุ่นแปลงร่างนั้นน่าจะเติบโตได้ไม่ยากในประเทศไทย ซึ่งฮาสโบรถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาดเอเชียและทั่วโลก อีกทั้งนอกจากบริษัทจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ทรานส์ฟอร์เมอร์สแล้ว ยังถือลิขสิทธิ์ของเล่นชื่อดังอีกหลายรายการเช่น Monopoly, My Little Pony, Disney, Star War, Marvel เป็นต้น อีกด้วย