ค้นพบตัวเอง ค้นพบความสำเร็จ ‘กระทรวง จารุศิระ’

วันจันทร์ที่ 08 กันยายน พ.ศ. 2557

ค้นพบตัวเอง ค้นพบความสำเร็จ ‘กระทรวง จารุศิระ’


ด้วยประสบการณ์การลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า 10 ปี และยังเป็นที่รู้จักของกลุ่มนักลงทุนในฐานะ “แชมป์แฟนพันธุ์แท้ตลาดหุ้นไทยในปี 2013” การันตีความเป็นนักลงทุนมืออาชีพ ที่มีสไตล์การลงทุนระหว่างการลงทุนแบบศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (VI) มีความเชี่ยวชาญด้านข้อมูล Fundamental ใน ขณะเดียวกันยังให้ความสนใจศึกษาในศาสตร์การลงทุนทางด้านเทคนิคอลด้วย

“ซัน-กระทรวง จารุศิระ” ผู้ริเริ่มโครงการซุปเปอร์ เทรดเดอร์ ไทยแลนด์ (Super Trader Thai land) ค้นหาเทรดเดอร์มืออาชีพที่จัดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขยายฐานนักลงทุนให้ตลาดหุ้นไทย โดย “ซัน” เป็นหนึ่งใน 11 โค้ชของการแข่งขัน

ซันได้เล่าถึงที่มาของการลงทุนว่า ช่วงที่เรียนปริญญาตรีไม่เคยสนใจเรื่องการลงทุนเลย เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว ประกอบกับทัศนคติในแง่ลบจากตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่มีคนคิดฆ่าตัวตาย เพราะว่าขาดทุนในตลาดหุ้น แต่พอมาเรียนปริญญาโทคณะเศรษฐศาสตร์ที่จุฬาฯ ด้วยวิชาที่เรียนและมีเพื่อนบางคนที่เล่นหุ้น ก็เลยมีความสงสัยว่า หุ้นคืออะไร ทำให้ผมหาข้อมูลเพิ่มเติม และได้รู้ว่าหุ้นคือการลงทุน ไม่ใช่การพนัน ก็เริ่มมีความสนใจที่จะศึกษาเรื่องการลงทุนมากขึ้น

พอเริ่มศึกษาในเรื่องของทฤษฎีแล้ว ก็อยากที่จะปฏิบัติจริง แต่ตอนนั้นยังเรียนอยู่ ก็ไม่มีเงินที่จะเอามาลงทุน พอดีตอนนั้นมีโครงการมันนี่แมเนจเม้นอวอร์ด ที่จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์เป็นปีแรก ต้องการทดสอบหาคนที่มีความรู้ความสามารถทางการเงิน ซึ่งผมได้รางวัลที่สอง มีโอกาสได้ไปดูงานที่ฮ่องกง และได้หน่วยลงทุน 100,000 บาท

ผมถอนเงิน 100,000 บาทออกมาตั้งแต่วันแรกบวกกับเงินเก็บที่มีอยู่ทั้งหมด แล้วก็เอาไปซื้อหุ้นเอง พอได้กำไรก็เริ่มมีความมั่นใจ ก็ลงทุนมาตลอดจนถึงทุกวันนี้

ในช่วงแรกของการลงทุน ผมลงทุนแบบศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (VI) ก็ลงทุนตามตำราเลย แต่พอนานๆ ไปก็เริ่มน่าเบื่อ ก็เลยแบ่งพอร์ตส่วนหนึ่งมาลงทุนแบบเดย์เทรด ซึ่งมันเป็น Zero-Sum Game ซึ่งถ้าเราพลาด ก็จะเสียหายมาก ตอนนั้นก็พลาดเยอะจนเครียด จนผมต้องฝึกที่จะมีวินัยเพื่อจะตัดขาดทุนให้เป็นนิสัย

ปัจจุบันการลงทุนของผมแบ่งออกเป็น 3 พอร์ต พอร์ตแรกเป็นพอร์ต VI ที่เป็นเหมือนคอมฟอร์ดโซนและเป็น Passive Income โดยผมจะลงทุนแบบ Dollar cost averaging (DCA) คือซื้อสะสมทุกเดือน ในพอร์ต VI จะมีหุ้นแค่สองแบบ คือหุ้นปันผล และหุ้นที่เป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมนั้นๆ เพราะผมมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาว ถ้าหุ้นมีพื้นฐานดีต่อให้เจอวิกฤติแค่ไหน ซักวันก็ต้องกลับไปที่จุดเดิมอยู่ดี

พอร์ตที่สองคือพอร์ตเดย์ เทรด ที่เป็นเหมือนหมาล่าเนื้อ ต้องเข้าเร็วออกเร็ว เป็นพอร์ต Active income คือถ้าวันไหนไม่เทรดก็ไม่มีรายได้ พอร์ตสุดท้ายเป็นพอร์ตเทค นิคอล คือซื้อขายตามสัญญาณ และพยายามกำลังทำระบบ System trade ให้ตัวเองอยู่

สัดส่วนการแบ่งพอร์ตของผมจะเป็นพอร์ต VI 70% พอร์ตเดย์เทรดรวมกับพอร์ตเทคนิคอล 30% ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือกลงทุนว่าถูกกับจริตนิสัยของเราหรือไม่ เพราะถ้าให้ผมกลับสัดส่วนเป็นเดย์เทรด 70% ผมก็ทำได้ แต่ผมไม่อยากไปเครียดขนาดนั้น สำหรับผมตั้งเป้าพอร์ตเดย์เทรดให้มีผลตอบแทนที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายของผมก็เพียงพอแล้ว ส่วนพอร์ต VI ก็ให้ปันผลทุกปีซึ่งผมก็ไม่ได้เอาไปใช้อะไร ก็จะเอาผลตอบแทนทบต้นไปเรื่อยๆ

ในช่วงท้าย ซันได้แนะเคล็ดลับการลงทุนว่า ผมคิดว่าการที่จะลงทุนให้ประสบความสำเร็จได้ เราจะต้องค้นตัวเองให้เจอก่อน หลักของการลง ทุน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ Fundamen tal investor และ Tech nical speculator ซึ่งนิสัยการลงทุนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าชอบทั้งสองอย่างก็ต้องแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน ส่วนบางคนที่บอกว่าซื้อขายตามสัญชาตญาณ อันนี้ผิด ยังไงก็เจ๊งแน่นอน

เดี๋ยวนี้มีคอร์สอบรมเพื่อค้นหาตัวเองเยอะมากตามสถาบันต่างๆ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครที่จะตอบได้ดี นอกจากตัวเราเอง ค้นหาตัวเองให้เจอ แล้วรู้ว่าการลงทุนแบบไหนที่เป็นตัวเรา ศึกษาไปให้สุด แต่แค่ทฤษฎีอย่างเดียวไม่พอ ต้องปฏิบัติด้วย แล้วถ้าพลาดขาดทุน ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติของการลงทุน เราต้องมีวินัยมากพอในการลงทุน เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความเสียหายมากจนเกินไป


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ