บอกไปอาจไม่มีใครเชื่อว่า องค์พระบรมธาตุ เมืองนครศรีธรรมราชหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าเมืองคอน จะมีผู้คนศรัทธาอย่างล้นหลาม ไม่เพียง แค่พุทธศาสนิกชนชาวไทยเท่านั้น แต่ยังมีชาวต่าง-ชาติที่หลั่งไหลพากันมากราบไหว้สักการะ โดยเฉพาะ เมื่อย่างเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเมษายนของทุกปี เราจะได้พบได้เห็นบรรดาพุทธศาสนิกชนชาวมาเลเซียที่เดินทางมายังเมืองแห่งนี้ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อสักการะองค์พระบรมธาตุเจดีย์ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารมากว่า 800 ปี พุทธศาสนิกชนเหล่านี้ถือเป็น สิ่งที่ต้องกระทำเป็นประเพณีที่สืบ ต่อมานับแต่บรรพบุรุษสืบเนื่องมา ตั้งแต่อาณาจักรศรีวิชัยยังรุ่งเรืองคราวครั้งอดีตกาล แม้ช่วงเวลาผ่านไปอย่างยาวนานศรัทธาในพุทธองค์และพุทธศาสนายังคงไม่เสื่อมคลาย
ว่ากันว่า 4 เมืองใน 12 เมืองสำคัญ ในอาณาจักรศรีวิชัยซึ่งประกอบด้วย เมือง สายบุรี, เมืองกลันตัน, เมืองปาหัง, เมืองไทรบุรี ปัจจุบันถือเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย อดีตบรรพบุรุษมีความเชื่อมโยง และศรัทธาต่อองค์พระบรมธาตุเจดีย์นคร-ศรีธรรมราช ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ประดิษฐาน ของพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ในขณะที่การเมืองการปกครอง ขณะนั้นได้ใช้หลักธรรมาธิปไตย คือการปกครองโดยธรรมะเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นศูนย์กลางของความศรัทธาคือพุทธศาสนา ที่มีองค์พระบรมสารีริกธาตุเป็นที่สักการะ บูชาและยังประดิษฐานอยู่บนพระบรมธาตุเจดีย์แห่งนี้ ความศรัทธาจึงสืบทอดต่อมานับเนื่องยาวนานจนถึงปัจจุบัน แม้ว่า สภาพดินแดนหรือการเมือง การปกครอง จะเปลี่ยนแปลงไปมาก ศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวมาเลเซียที่มีต่อพระพุทธศาสนายังไม่เคยเสื่อมคลาย
และด้วยกระแสข่าวที่สร้างความตื่นเต้นจากกรณีที่มีการนำเสนอพระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารขึ้น จดทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งหมายความว่า ปูชนียสถานแห่งนี้กำลังจะกลายเป็นสมบัติของมวลมนุษยชาติบนโลกใบนี้ ความ น่าสนใจผนวกกับความศรัทธาจึงมีมากขึ้น องค์การยูเนสโกได้ขึ้นบัญชีเบื้องต้นไว้แล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนของการจัดทำเอกสารฉบับสมบูรณ์เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการ มรดกโลก
เดือนมีนาคม-เมษายนนี้ จึงไม่เหนือ ความคาดหมายเมื่อมีบรรดานักท่องเที่ยว ชาวมาเลเซียเดินทางมายังวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ประมาณ 500 คันรถบัส หรือประมาณ 20,000 คน ที่เข้ามาด้วยศรัทธามุ่งหมายมาที่องค์พระบรมธาตุเจดีย์แห่งนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาลานวัดพระมหาธาตุวร มหาวิหารเต็มไปด้วยพุทธศาสนิกชนชาวมาเลเซียที่ต่างทำกิจกรรมแห่ผ้าขึ้นธาตุ กระทำทักษิณาวัตรต่อองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นภาพที่น่าปลาบปลื้มไม่น้อย
จีรวัฒน์ นาวัง ในฐานะมัคคุเทศก์ ชาวไทย อธิบายถึงพลังแห่งความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวมาเลเซียว่า "นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางมาในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในรัฐเปอร์ลิส และรัฐปีนัง มีความตั้งใจเดินทางมาทำบุญที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยแต่ละคนมีความเชื่อว่าต้องได้สักการะพระบรมธาตุให้ครบ 9 ครั้ง คือปีละครั้ง ช่วงเดือน กุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี เมื่อครบ 9 ครั้งแล้วจะทำให้มีความเจริญรุ่งเรือง ในการประกอบธุรกิจ และมีโชคลาภ ชีวิต อยู่เย็นเป็นสุข ส่วนใหญ่มาแล้วจะกลับไป บอกญาติพี่น้องและเพื่อนแบบปากต่อปาก แล้วชักชวนกันมาท่องเที่ยวอีก"
"สำหรับการเดินทาง จะออกจากอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ช่วงเวลา 22.00-24.00 น. แล้วไปแวะพักกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่อำเภอทุ่งสง พร้อมรับประทานข้าวต้ม จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. เดินทางถึงวัดพระมหาธาตุ เพื่อสักการะแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เสร็จแล้วทั้งหมดเดินทางต่อไป ยังวัดพะโค๊ะ จ.สงขลา เพื่อสักการะหลวง ปู่ทวด แล้วเดินทางกลับประเทศมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเดินทางมาในช่วงวันศุกร์และเสาร์เพราะเป็นวันหยุด ขณะที่บางคณะจะเดินทางมาในวันธรรมดาเพราะจะมีความสะดวกมากกว่า คนไม่มาก เท่ากับวันหยุด แต่สิ่งที่อยากให้ทางพื้นที่เข้ามาดูแลเป็นพิเศษคือเรื่องห้องน้ำที่ยังไม่เพียงพอ บางครั้งน้ำประปาไม่ไหลทำให้ ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร ส่วนด้าน อื่นๆ ไม่มีปัญหาเพราะทุกคนที่มาตั้งใจจะมาทำบุญเท่านั้นŽ จีรวัฒน์อธิบาย