แล้วเราก็เข้าถึงกริ่งชุดสุดยอด สุดดัง ขององค์สังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ คือ กริ่งเทพโมลี ทั้งๆ ที่เป็นกริ่งชุดต้น ความเข้มข้นหลายอย่างยังชวนกังขาตามประสาที่มีช่องว่างและช่องทางให้สังเกต ทว่าความพิเศษอันอัครเดโชแห่งกริ่งเทพโมลีนั้นขจัด ปัญหาทั้งหลายจนมลายสิ้น
แผ่นดินนี้ผู้มีความกตัญญูมักจะเป็นผู้ธำรงความยิ่งยงยอดเยี่ยมไร้เทียมทานนานนิรันดรเฉก สุนทรภู่ รู้คุณต่อองค์รัชกาลที่สอง พ่อปู่โต ไม่ปองหวังเป็นสังฆราชเพราะมิปรารถนาขึ้นมาเทียบคู่ พ่อปู่สุก (ไก่เถื่อน) เหมือน ปู่เอี่ยม วัดหนัง ที่ท่านเปี่ยมพลังกตัญญูต่อพ่อ ปู่รอด วัดโคนอน ดัง กรมพระปวเรศ พรั่งพร้อมกตัญญูแด่ พระจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ ๔ และพ่อปู่แพ ที่มีชัดแจ้งในสมเด็จ พระวันรัตน์ (แดง) องค์อัคราจารย์ของพ่อปู่แพอีกท่านหนึ่ง
สิ่งใดซึ่งถือเกิดด้วยหัวใจประเสริฐเยี่ยงว่าล้วนมากกฤตยาคมอุดมกฤตยาภิเศก เป็นเอกวัตถุมงคล...
ก่อนจะสนใจในพระกริ่งจริงจังเคยตั้งสัตยาธิษฐานไว้ว่า ถ้าจะได้ต่อสายป่านด้านพุทธศาสนาให้บรรดาบรรพชนและอนุชนเข้าถึงต้นรากแห่งองค์พระผู้มีพระภาคเจ้าที่ทรง เฝ้าบำเพ็ญเพียรเรียนรู้แล้วเมตตาแผ่ทางดับทุกข์สู่สรรพสัตว์ ขอมีโอกาสจับต้องหรือถือ ครองพระเครื่องที่มีความงดงามตามกุศลอำนวยด้วยเทอญ
อัญเชิญกริ่ง เทพโมลี 3 สี 3 เนื้อ เพื่อเป็นกรณีศึกษาร่วมกันองค์แรกนั้นทำด้วยทองคำ เคยนำเสนอช่วงภาพยังเบลอบวม แต่ ณ ขณะนี้ภาพโดยรวมถือว่าดีพอใช้ จึงให้พิจารณา ส่องมองอีกครั้งเพื่อสังเกตถี่ถ้วนทุกกระบวนลักษณ์ ก็จักเห็นความเป็นเอกลักษณ์ ของกริ่งเทพโมลีที่ผิดแปลกแตกต่างโดยเฉพาะ ด้านข้างพระพาหาซ้าย จะมีลายเป็นบั้งซ้อน ขับริ้วจีวรจนโดดเด่น ขอเน้นย้ำให้จำจุดนี้ไว้จุดหนึ่ง ยังมีกริ่งองค์ผึ่งผายคล้ายพุทธกวัก หรือว่าคล้ายปางคันธารราษฎร์แบบใหม่ ในพระราชดำริของรัชกาลที่ ๖ ผม โชคดีที่มี กริ่งนี้คือ กริ่งสุพรรณบัฏ ต้องตัดใจแซงนำแสดงประกอบด้วยชอบพุทธศิลป์อันกินใจ
ไม่ว่าจะเป็นเนื้อนวโลหะหรือจะเป็นเนื้อทองคำ ช่างสง่างามล้ำค่าคุณ ข้อมูลระบุว่าองค์สังฆราช (แพ) สร้างไว้ในปี พ.ศ.2483 คราฉลองพระชนมายุ (7 รอบ) คงต้องตรวจสอบกันใหม่อีกหนให้แน่ แม้ผมจะมีข้อชนวนกริ่งปี 83 อยู่ 1 ช่อ แต่ก็ มิได้ละม้ายคล้ายกันเลย แถมเคยโง่อย่างไรก็โง่ได้โง่ดี ไม่คิดที่จะถ่ายภาพเก็บกักเป็น หลักฐาน ตำนานกริ่งเทพโมลี ยังมีต่ออีกหน่อย ไว้ค่อยจบครบวงจรตอนหน้าดีกว่าครับ เพราะจะต้องใช้ภาพสำคัญทั้งด้านหลังและด้านหน้า อย่าเพิ่งเบื่อ ด้วยเนื้อคอลัมน์ค่อนข้างจะตัน ปะติดปะต่อก็ลำบาก เนื่องจากพระกริ่งรุ่นนี้เทพโมลีคือ ปริศนา น่าไขค้นยิ่ง ส่องกริ่งองค์ทองคำแล้วเพ่งมองความแพรวพราวเหมือนปู่แพซ่อนเงื่อนงำ ในพิมพ์ทรงลงไปด้วย เป็นกริ่งสวยกะทัดรัด มีเอกอัตลักษณ์ชวนอนุรักษ์อีกงานหนึ่ง ที่มิควรพึงให้หายลับกับกาลเวลาไม่ว่ากรณีใด
ผมตั้งใจจะทำชุดเบญจภาคีทองคำตามจังหวะเวียน ซึ่งจะมาเรื่องเหรียญ และไม่ใช่ราคาคุย เหรียญพ่อ ปู่ฉุย ทองคำ พ่อ ปู่ศุข (ทองคำ) พ่อ ปู่พุ่ม ทองคำ ทั้งทองคำของพ่อ ปู่กลั่น พ่อปู่คง, พ่อปู่เอี่ยม, เตรียมพร้อมเรียงหน้ามาแต่เนิ่นๆ อยู่ครับ ยังไม่นับระดับและระนาบเดียวกัน อันมีเหรียญทองคำ พ่อปู่คง วัดซำป่าง่าม, พ่อ ปู่ทอง วัดราชโยธา (หน้าลอย), พ่อ ปู่รุ่ง-ปู่ช่วง-ปู่พริ้ง วัดบางปะกอก ฯลฯ นอกจากนี้ยังมี เหรียญ ร.5 (ไอยราพต) เหรียญประพาสยุโรปและเหรียญเสด็จกลับ ฯลฯ นับเป็นเหรียญทองคำล้ำคุณทั้งปวง ที่อยากบอกล่วงหน้า เพราะว่ากองทัพของเหรียญทองคำกำลังยาตรามาจริงๆ
ต่อจากกริ่งปวเรศทองคำนี่แหละ
และโปรดให้กำลังใจกันเทอญ