ที่พักอาศัยในหัวหินทุกวันนี้ มีผู้ซื้อชาวไทยที่ต้องการบ้านหลังที่สองหรือที่พักตากอากาศใกล้กรุงเทพฯ เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน ผู้ซื้อกลุ่มนี้มีจำนวนมากถึงเกือบ 75% ของผู้ซื้อทั้งหมด เช่น กลุ่มผู้ซื้อชาว ต่างชาติที่มาพำนักอยู่ในประเทศ ไทยเป็นระยะเวลานานหรือชาวยุโรปที่เกษียณอายุแล้ว นอกจากนี้ทำเลริมทะเลของหัวหินยังดึงดูด ผู้ซื้อชาวจีนที่ต้องการบ้านหลังที่สองในเอเชียด้วย
เห็นชัดจากการเพิ่มขึ้นของคอนโด-มิเนียมหัวหินช่วงครึ่งแรกปีนี้ที่เปิดตัวมากเกือบเท่าจำนวนยูนิตใหม่ทั้งหมดที่เปิดตัวทั้งปี 2555 โดยครึ่งปีแรก 2556 นี้ (มกราคม-มิถุนายน) อยู่ที่ 22,619 ยูนิต ราคาในย่านเขาเต่าสูงขึ้นประมาณ 6% จาก 96,944 บาทต่อตารางเมตร ณ สิ้นปี ค.ศ.2012 เป็น 103,072 บาทต่อตารางเมตรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
นางสาวริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมหัวหินว่า มีคอนโดฯเปิดใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้วโดยมีปัจจัยหนุนหลายด้าน 1.การเข้าสู่ตลาดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ของ ประเทศไทย 2.จำนวนผู้มีรายได้ระดับปานกลางชาวไทยในกรุงเทพมหานครที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก 3.การเลือกซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการพักอาศัยที่หัวหิน และ 4.ความต้องการคอนโดมิเนียมราคาประหยัดในระดับราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ต่อยูนิตที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเช่นกัน
ส่งผลให้จำนวนยูนิตใหม่ในหัวหินช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีมากกว่า 4,500 ยูนิต ทำให้มียูนิตสะสมรวม 22,619 ยูนิต ในตลาด และความต้องการซื้อก็เพิ่มขึ้นจาก 49% ในที่แล้วเป็น 52% ในครึ่งแรกปีนี้
จากผลวิจัยของบริษัท ไนท์แฟรงค์ฯ ระบุว่า ยอดสะสมคอนโดมิเนียมหัวหินรวม ณ ครึ่งปีแรกของปี 2556 อยู่ที่ 22,619 ยูนิตหรือเติบโตที่อัตรา 24.9% จากช่วงสิ้นปี 2555 ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนแรกของ ปีนี้มีคอนโดมิเนียมจำนวน 4,517 ยูนิตจาก 7 โครงการเข้าสู่ตลาด ตัวเลขที่สูงนี้เกิดจากโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ของบริษัท ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติจีนชื่อ {quot}เดอะมิราเคิลกรุ๊ป{quot} จำนวน 1,249 ยูนิตและโครงการอีก 3 โครงการของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) รวมจำนวนประมาณ 1,923 ยูนิต อัตราการโตในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้เกือบเท่ากับตัวเลขของปี 2555 ทั้งปี
ดังนั้น ผู้พัฒนาที่สนใจตลาดหัวหินจึงควรเฝ้าสังเกตสถานการณ์ตลาดและระมัดระวังภาวะโอเวอร์ซัพพลาย อย่างในพื้นที่ชะอำ เปิดใหม่รวม 3,022 ยูนิตหรือคิดเป็นประมาณ 67% ของยูนิตใหม่ทั้งหมด สาเหตุที่มีโครงการคอนโดมิเนียม ย่านชะอำเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจากปีที่แล้วเนื่องจากปริมาณแปลงที่ดินที่พร้อมสำหรับการพัฒนามีอยู่ค่อนข้างมาก โครงการใหม่ทั้ง 4 โครงการในย่านชะอำ ได้แก่ บ้านทิวลม, เรนชะอำหัวหิน, บ้านทิวทะเล เฟส 2 และมิราเคิลหัวหิน
ทำเลยอดนิยมอันดับสองคือย่านเขาเต่า จำนวนยูนิตใหม่รวม 879 ยูนิตหรือคิดเป็น 19% ของยูนิตใหม่ทั้งหมด 2 โครงการที่น่าสนใจ ได้แก่ วันเวลาเขาเต่าของบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และซีเครสท์รีสอร์ทของบริษัทสัญชาติแคนาดา นอกจากนี้ ยังมียูนิตในพื้นที่ไกลหาดอีก ได้แก่ โครงการบ้านเคียงฟ้า 616 ยูนิต หรือคิดเป็นประมาณ 14% ของยูนิตใหม่ที่เข้าสู่ตลาด
สำหรับย่านหัวหินและเขาตะเกียบในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ยังไม่มีโครงการใหม่เนื่องจากขาดแคลนที่ดินเปล่าในทำเล ระดับชั้นนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหัวหินตอนใต้ ซึ่งแทบจะไม่มีที่ดินเหลือและราคาที่ดินพุ่งสูงถึงประมาณ 30 ล้านบาทต่อไร่ หากติดหน้าหาด
โดยมีผู้ซื้อกลุ่มใหม่เป็นกลุ่มชาวไทยผู้มีรายได้ระดับปานกลางซึ่งชื่นชอบยูนิตขนาดเล็ก 30-35 ตารางเมตรในโครงการที่อยู่ไกลหาดซึ่งมีราคาพอซื้อหาได้ไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อยูนิต และคอนโดมิเนียมติดหาดก็ยังคงขายดีอยู่ ผู้ซื้อส่วนมากเป็นชาวไทยที่มีกำลังทรัพย์และเลือกซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองเพื่อการพักผ่อน
แม้ว่าราคาในย่านเขาเต่าจะเพิ่มขึ้นจากที่เคยอยู่ที่ 103,072 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นอีก 6% สำหรับยูนิตไกล หาดก็ราคาสูงขึ้นเช่นกันประมาณ 4% จาก 57,812 บาทต่อ ตารางเมตร เป็น 60,169 บาทต่อตารางเมตร ในช่วงครึ่งปีแรก ของปีนี้ ผู้พัฒนาโครงการต่างๆมีการขายยูนิตขนาดเล็กราคาประมาณ 1.5-2 ล้านบาทต่อยูนิต เพื่อดึงดูดผู้ซื้อกลุ่มใหม่
การเพิ่มขึ้นของราคาคอนโดมิเนียมดังกล่าว นางสาวริษิณี กล่าวว่าเกิดจากปัจจัยบวก อาทิ แผนการส่งเสริมหัวหินและชะอำให้เป็นเมืองท่องเที่ยวริมทะเลแห่งใหม่สำหรับชาวต่างชาติ, แผนพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงและโครงการทางหลวงหมายเลข 8 ซึ่งจะอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และ หัวหินเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีโครง-การเพื่อการค้าปลีกและการพาณิชย์ต่างๆ ที่จะมารองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ โครงการบลูพอร์ทหัวหินรีสอร์ทมอล โครงการห้างไลฟ์สไตล์พรอเมอนาดชื่อโบตานีโอ โครงการพิพิธภัณฑ์ใต้น้ำหนึ่งแห่งและโครงการไลฟ์สไตล์ มอลชื่อเวเนเซียหัวหิน
ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้คาดว่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นในหัวหินอีกจำนวนมาก แต่ส่วนมากจะไม่อยู่ติดหาดและยังมีจำนวนยูนิตที่ยังเหลือขายอีกประมาณ 10,639 ยูนิต