จากผลวิจัย บมจ. ไรมอน แลนด์ พบว่าการที่ผู้พัฒนาโครงการต่างมุ่งเน้นเปิดตัวห้องชุดแบบ 1 ห้องนอนบนทำเลตามเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ห้องชุดในรูปแบบอื่นมีปริมาณไม่เพียงพอโดยมีข้อมูลชี้ชัดว่าห้องชุดขนาดใหญ่สำหรับครอบครัวนั้นมีให้เลือกซื้อน้อยลงในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ส่วนในอนาคตนั้นก็อาจเป็นไปได้ว่าจะมีห้องชุดขนาดใหญ่หรือห้องชุดรูปแบบ อื่นๆ เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน
ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีโครงการคอน-โดมิเนียมก่อสร้างแล้วเสร็จ 30 โครงการ เป็นห้องชุดใหม่รวม 14,059 ยูนิต ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นห้องชุดขนาด 1 ห้องนอนในพื้นที่ย่านกลางเมือง แต่ใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ คาดว่าจะมีห้องชุดจำนวนกว่า 24,000 ยูนิตที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดตัวออกสู่ตลาดในทำเลดังกล่าว เช่น ในย่านพระราม 9, รัชดา, ลาดพร้าว, พหลโยธิน และตามเส้นทางส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้าสายสีลมและสุขุมวิท โดยยอดดังกล่าวอาจมากกว่าจำนวนห้องชุดใหม่ในทำเลใจกลางเมืองถึงกว่าเท่าตัว (ประ-มาณการไว้ที่ 11,500 ยูนิต)
ขณะเดียวกันราคาห้องชุดก็ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเรื่อง โดยกว่า 60% ของโครงการที่เปิดตัวใหม่จะมีราคาสูงกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร และมีอีก 5% ที่ราคาสูงกว่า 200,000 บาทต่อ ตารางเมตร
นายไซม่อน เดอร์วิลเล่ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในช่วงนี้ เราเล็งเห็นสองแนวโน้มที่คู่ขนานกันไปในการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ พื้นที่ใจกลางเมืองยังคงมีศักยภาพสำหรับการพัฒนาโครงการระดับไฮ-เอนด์เพิ่ม เนื่องจากห้องชุดที่มีพื้นที่กว้างขวางยังคงได้รับความนิยมอย่าง เหนียวแน่นทั้งจากผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่วนในทำเลอื่นๆ ในพื้นที่ตัวเมืองกรุงเทพฯ นั้น ก็ยังคงจะเห็นโครงการ ใหม่ๆ เปิดตัวเพิ่มขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามโครงการในพัทยา ประเภทคอนโดมิเนียมหรูริมหาดก็ยังคงดึงดูดลูกค้าในกลุ่มไฮ-เอนด์ได้เป็นจำนวน มาก แต่จำนวนห้องชุดที่มีให้จับจองนั้นกลับมีไม่มากนัก เนื่องจากที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการรูปแบบนี้เริ่มจะหายากขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมานั้น มีห้องชุดก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นจำนวน 13,152 ยูนิต และมีการขายสูงถึง 87% โดยห้องชุดใหม่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในย่านพัทยากลางและพัทยาใต้
ปี 2556 นี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพัทยาถึง 9.2 ล้านคน โดยชาวรัสเซีย, ญี่ปุ่น และจีน มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษ ที่น่าสังเกตก็คือกลุ่มลูกค้าจากประเทศเหล่านี้มักจะมองหาห้องพักตากอากาศที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก และมีราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท เพื่อพักอาศัยเป็นช่วงสั้นๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างจากฐานลูกค้าชาวต่างชาติในอดีต ซึ่งนิยมห้องพักขนาด ใหญ่เป็นหลัก