Toggle navigation
วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
อสังหาริมทรัพย์
คอนโดฯ ราคาต่ำ 1.5 ล้าน ผุดรับแรงงานในนิคมฯ
คอนโดฯ ราคาต่ำ 1.5 ล้าน ผุดรับแรงงานในนิคมฯ
วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556
Tweet
ผลวิจัย {quot}นิคมอุตสาหกรรมกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์{quot} ใน 5 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ ระยอง, ชลบุรี, ปราจีนบุรี, ขอนแก่น และนครราชสีมา พบว่า นิคมอุตสาหกรรมมีแนวโน้มการลงทุน จากต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่นและจีน ส่งผลให้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท มีปริมาณที่ตรงกับความต้องการซื้อสูงสุด เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่ทำงานในนิคมฯ นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม นักลงทุนที่นิยมซื้อไว้ปล่อยให้เช่า ส่วนบ้านเดี่ยวกับทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ยังขายได้ดี
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรม ถือเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รายงานยอดรับการส่งเสริมการลงทุน ณ เดือนสิงหาคม 2556 มีมูลค่าสูงถึง 7 แสนล้าน บาท ขยายตัว 15% จากช่วงเดียวกันของ ปีก่อน โดยมีกลุ่มนักลงทุนจากญี่ปุ่นและจีนเข้ามาลงทุนมากที่สุด นอกจากนี้ยังพบว่ามูลค่ารวมของภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณสูงถึง 3.9 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 35% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความ ได้เปรียบด้านสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนทั้งในเรื่องทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางอาเซียน มีความพร้อมด้านแรงงานที่มีประสิทธิภาพ และมีระบบลอจิสติกส์ที่ทันสมัยทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ปัจจัยดังกล่าวสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนจัดตั้งบริษัท สร้างฐานการผลิต และ เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าในภูมิภาคเอเชีย
จากข้อมูลการวิจัยหัวข้อ {quot}นิคมอุตสาหกรรมกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์{quot} โดยฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ทำการสำรวจใน 5 พื้นที่ ได้แก่ ระยอง, ชลบุรี, ปราจีนบุรี, ขอนแก่น และนครราชสีมา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวจัดอยู่จังหวัดรอบนอกที่ยังมีการลงทุนและพัฒนาในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบจำนวนปริมาณรวม 40,000 ยูนิต มีอัตรายอดขายสูงถึง 70% เป็นที่น่าสังเกต ว่าตลาดคอนโดมิเนียม มีปริมาณที่ตรงกับความต้องการซื้อสูงสุด โดยเฉพาะคอนโดฯ ราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มความต้องการหลักเป็นแรงงานที่ทำงานในนิคมฯ ซึ่งมีรายได้ไม่สูงนัก อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในการเคลื่อนย้ายสถานที่ทำงานสูง จึงนิยมซื้อที่อยู่อาศัยราคาถูก
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักลงทุนที่นิยมซื้อไว้ปล่อยให้เช่าอีกจำนวนหนึ่ง และยังพบว่าบ้านเดี่ยวกับทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีความต้องการเช่นกัน ส่วนปริมาณแนวราบที่มีราคาระดับกลาง กลุ่ม 3-5 ล้านบาท ยังไปได้ดีในบางพื้นที่
นอกจากความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมสามารถตอบรับได้ดีแล้ว ยังมีปัจจัยการลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์จากภาครัฐที่สนับสนุนให้เกิดการลงทุนรองรับการเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 อาทิ โครงการก่อสร้างเส้นทางคมนาคมสายใหม่อย่างถนนสาย R1 โครงการถนนสายกรุงเทพฯ-พนมเปญ-โฮจิมินห์ซิตี้ -วังเตา (กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี-อรัญประเทศ), R2 โครงข่ายถนนเชื่อมโยงแนวตะวันออก-ตะวันตก ไทย-ลาว-เวียดนาม (แม่สอด-มุกดาหาร) และ R3 โครงการถนนสายเชียงราย-คุนหมิงผ่านลาวและพม่า (เชียงราย-เชียงของ) โครงการขยายสนามบินอู่ตะเภา จังหวัดระยอง (คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2557) โครงการขยายท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 (คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2564) โครงการรถไฟความเร็วสูงไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ รวมถึงแนวทางการพัฒนาเมืองใหม่ในรัศมี 6-10 ตารางกิโลเมตรรอบสถานี (ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาร่วมกันระหว่างสำนักงาน นโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกรมโยธาธิการและผังเมือง) เมื่อโครงการแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นสิ่งดึงดูดนักลงทุนได้เป็นอย่างดี จากความพร้อมของประเทศด้านระบบลอจิสติกส์ที่ทันสมัยประกอบกับทำเลที่ตั้งและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการลงทุน
นายภูมิภักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมยังคงเติบโตต่อเนื่องและมีการขยายฐานการผลิตไปยังจังหวัด หัวเมืองหลักที่มีสภาพเอื้ออำนวยต่อการลงทุน ส่งผลให้เกิดการขยายตัวรวดเร็วของระบบเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดความต้องการโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ได้รับอานิสงส์จากการขยายการลงทุนอุตสาหกรรมในภูมิภาค โดยตลาดที่เติบโตก่อน ในช่วงแรกคือตลาดเช่าอย่างอพาร์ตเมนต์หรือบ้านเช่าจะเป็นตัวเลือกที่สาคัญและสามารถตอบสนองความต้องการของแรงงานที่เป็นประชากรแฝงได้ดีที่สุด เมื่อประชากรเหล่านี้เริ่มเกิดความเชื่อมั่นในระยะ 2-3 ปี จะเกิดความต้องการการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการแข่งขันหรือการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยในนิคมฯ อยู่บ้าง อาทิ ผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณนิคมฯ นั้น ส่วนใหญ่เป็นแรงงานแฝงที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม การย้ายฐานการผลิตของบริษัทขนาดใหญ่ในนิคมฯ จะส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนย้ายแรงงานซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก รวมถึงการแข่งขันของผู้พัฒนา อสังหาริมทรัพย์เอง ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าของนิคมฯ หรือเป็นการร่วมทุนระหว่างเจ้าของนิคมฯ กับเอกชนหรือการเคหะจากภาครัฐ ซึ่งมีความได้เปรียบด้านต้นทุน ราคาที่ดินที่ต่ำกว่ารายอื่น อีกทั้งบริษัทในนิคมฯ บางแห่งยังมีการสร้างบ้านพักสวัสดิการไว้รองรับพนักงานอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
“โฮมโปร” เดินเกมรุก EEC ปักหมุดแลนด์มาร์...
...
พฤกษา - อินโน พรีคาสท์ ชู “พรีคาสท์” นวั...
...
NEPS ผนึก HUAWEI และ LONGi เปิดตัว “SOLA...
...
"ดูโฮม" รุกย่านธุรกิจ เปิด ‘สาขาเทพารักษ...
...
คอนโดฯ ใหม่สุดฮอต! “ศุภาลัย เซนส์ แจ้งวั...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ