พฤกษาก้าวสู่ {apos}ท็อปเทน{apos} เอเชียผนึก LIXIL GROUP ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

พฤกษาก้าวสู่ {apos}ท็อปเทน{apos} เอเชียผนึก LIXIL GROUP ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม


หลังจาก บมจ.พฤกษา ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารงาน ซึ่งหมายถึงการเตรียมพร้อมสู่การก้าวขึ้นไปแข่งขันกับบริษัทชั้นนำในเอเชีย ตามความมุ่งหมายของ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ที่เมื่อ 4 ปีที่แล้วเขาต้องการสร้างรายได้ให้องค์กรนี้ติด 1 ใน 10 บริษัทชั้นนำของเอเชีย ซึ่ง ณ เวลานั้นต้องมีรายได้ ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท แต่ ณ วันนี้เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป การแข่งขันรุนแรง เป้าหมายรายได้ที่เคยตั้งไว้จึงต้องเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งก็ยังไม่มีบทสรุปว่าจะต้องทำรายได้กี่แสนล้านถึงจะบรรลุเป้าหมาย
แต่สิ่งสำคัญ ณ วันนี้คือ ทำอย่างไร ที่จะบริหารจัดการสินค้าของพฤกษาให้เป็น ที่ 1 ในใจลูกค้า ทั้งในด้านคุณภาพ และการบริการ
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวย การ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวว่า จากที่บริษัทได้ปรับโครงสร้างองค์กรและปรับวิสัยทัศน์ใหม่ เพื่อก้าวสู่การเป็น 1 ใน 10 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเอเชียนั้น เรื่องแรกที่ดำเนินการคือ ลงทุน 2,100-2,300 ล้านบาท สร้างโรงงาน {quot}พฤกษา พรีคาสท์{quot} หรือโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปแห่งใหม่ จำนวน 2 โรง บนเนื้อที่ 130 ไร่ ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จากปัจจุบันที่มีโรงงานอยู่แล้ว 5 โรง ตั้งอยู่ที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 640 หลัง (ยูนิต) ต่อเดือน เป็นประมาณ 1,200 ยูนิตต่อเดือน ซึ่งปัจจุบันโรงงานแห่งใหม่นี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 3 ปี 2557
พร้อมทั้งดำเนินการควบคู่ไปกับการหาพันธมิตรทางธุรกิจกับ LIXIL GROUP ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทที่มีจุดเด่นในเรื่องของอุปกรณ์ภายในบ้านครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่างที่ทำจากอะลูมิเนียม ห้องน้ำสำเร็จรูป, พื้นไม้สังเคราะห์ เป็นต้น โดยบริษัทจะนำมาใช้กับโครงการต่างๆ ของบริษัททั้งทาวน์-เฮาส์ บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม เนื่อง จาก LIXIL GROUP มีแผนที่จะเข้ามาขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยในไทยนั้นภายในเดือนเมษายน 2557 LIXIL GROUP จะเปิดโชว์รูมขนาดประมาณ 20,000 ตารางเมตร ที่คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ หรือซีดีซี วางเป้ายอดขายในไทยเฉลี่ยประมาณปีละ 3,000 ล้านบาท
อันดับแรกมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้า (Customer Centric) ในเรื่องของกระบวนการผลิต การส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพ ทำเลและราคาที่ลูกค้าพึงพอใจ บริษัทจึงมุ่งเน้นการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพบ้าน โดยใช้แนวคิด Pruksa Crea tive Innovation Intelligence ในทุกขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการสรรหาที่ดิน, ออก แบบ ก่อสร้าง, ส่งมอบ และบริการหลังการขาย ด้วยการนำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ในทุกกระบวนการทำงานให้ครอบคลุม Supply Chain Management โดยในส่วนของการพัฒนาด้านการออกแบบและ การก่อสร้าง บริษัทได้นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้คือระบบการก่อสร้างบ้านแบบอุตสาหกรรม (Real Estate Manufacturing : REM) เป็นระบบการสร้างบ้านที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ มาใช้ในทุกโครงการของพฤกษา ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพงานก่อสร้าง ได้อย่างแม่นยำ
2.การผลิตห้องน้ำสำเร็จรูป ซึ่งเป็นห้องน้ำที่ผลิตมาจากโรงงาน สามารถยกมาประกอบในบ้านเสมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ ชิ้นหนึ่งของบ้านด้วยการร่วมกับ LIXIL GROUP ประเทศญี่ปุ่น โดยมีการควบคุมคุณภาพมาจากโรงงาน จึงทำให้ได้คุณภาพ เหมือนกันทุกยูนิต ซึ่งกำลังศึกษาการนำรูปแบบห้องน้ำสำเร็จรูปแบบญี่ปุ่นนี้มาประยุกต์และปรับปรุงในการก่อสร้างของบริษัทปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาห้องน้ำสำเร็จรูปแบบโครงเบา เพื่อมาทดลองติดตั้งและทดสอบตลาดในบ้านเดี่ยวของโครงการภัสสร
3.ทำวิจัยบ้านต้านทานแผ่นดินไหว โดยร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ทดสอบบ้านที่ก่อสร้างด้วย Pruksa Precast ซึ่งพบว่า สามารถรับแรงแผ่นดินไหวได้ที่ขนาด 8.5 ริกเตอร์ ห่างจากศูนย์กลาง 80 กม.
4.วิจัยบ้านครอบครัวขยาย (Extended Family House) ร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการออกแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งได้ทำการเก็บข้อมูลแบบโฟกัสกรุ๊ป เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ เพื่อนำมาออกแบบฟังก์ชั่นและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านให้เหมาะกับการใช้ชีวิตในบ้านของผู้สูงอายุ
และสุดท้ายคือ งานวิจัยทาวน์เฮาส์ระบายอากาศ (Prototype Townhouse) ร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการออกแบบบ้าน ที่คำนึงถึงการระบายอากาศที่ดี รวมไปถึงการออกแบบเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน เพื่อเพิ่มความสบายตาและความร่มรื่นให้กับอาคาร
รองรับโครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นซึ่งในปี 2557 มีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่ไม่ตำกว่า 50 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยขยายการ ลงทุนไปตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ 6 จังหวัด เพิ่มเป็น 10 จังหวัด เน้นที่อีสานมากที่สุด 6 จังหวัด ส่วนอีก 4 จังหวัด อยู่ในภาคเหนือและภาคใต้
ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่จะพัฒนาในปีหน้า 2557 นั้นแบ่งสัดส่วนเป็นแนวราบ 75% และโครงการแนวสูง 25% ซึ่งปรับสัดส่วนจากปี 2556 ที่เป็นโครงการแนวราบ 80% และโครงการแนวสูง 20% ซึ่งตลาดต่างจังหวัดจะเน้นโครงการแนวราบ ประเภททาวน์เฮาส์ ขณะที่คอนโดมิเนียมจะเน้นจังหวัดท่องเที่ยว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและจะเป็นคอนโดมิเนียมในระดับราคา 1 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท นี่คือส่วนหนี่งของแผนบริหาร จัดการสู่องค์กรท็อปเทนของเอเชีย


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ