เอสซีฯ เชื่อมั่นครึ่งปีหลังอสังหาฯ สดใส เปิด 5 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท ชู 4 กลยุทธ์ ซ่อม เสริม สร้าง ระมัดระวังการลงทุน รักษาสมดุลหนี้สินต่อทุนและรักษาระดับกำไร เพื่อโตอย่างยั่งยืนสู่ทศวรรษที่ 2
นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยถึงการเติบโตอย่างยั่งยืน “Sustainable Growth with Care” ว่า จากนโยบายปีนี้ที่ตั้งเป้ารายได้รวม 1.2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 20% กับแผนการพัฒนาโครงการใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ด้วยกลยุทธ์ หลัก 4 ข้อ เพื่อการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังและเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับทศวรรษที่ 2 เป็นต้นไป คือ 1.การปรับปรุงพัฒนาภายในองค์กร (ซ่อม-เสริม-สร้าง) ตั้งแต่การพัฒนาระบบการทำงาน ฐานข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรให้สามารถรองรับการเติบโตทางด้านรายได้และกำไรสุทธิ ควบคู่กับการเติบโตของจำนวนโครงการ ลูกบ้าน และพนักงานที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ตั้งแต่ทศวรรษที่ 2 เป็นต้นไป 2.การรักษาระดับกำไรขั้นต้นให้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม 3.การลงทุนอย่างระมัดระวังและจัดหาที่ดินใหม่ในทำเลระดับเกรด A เท่านั้น และ 4.การรักษาสมดุลอัตรา ส่วนหนี้สิน/ทุน ให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ เพื่อให้บริษัทมีความพร้อมที่จะเติบโตทางการเงินที่มั่นคง
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลัง จะมีทิศทางแนวโน้มที่ดีขึ้นจากปัจจัยสำคัญ คือ สถานการณ์ การเมืองที่นิ่งและมีความชัดเจน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่คงที่ในระดับต่ำ
โดยในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวม 3,463 ล้านบาท มีรายได้รวม 4,328 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการดำเนินงาน 4,309 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 415 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทและบริษัทย่อย มีทรัพย์สินรวมและหนี้สินรวมเท่ากับ 28,449 ล้านบาท และ 17,949 ล้านบาท ตามลำดับ มูลค่าหุ้นตามบัญชี 2.83 ล้านบาทต่อหุ้น
สำหรับในช่วงไตรมาส 2/2557 บริษัทมีรายได้รวม 2,767 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการดำเนินงาน 2,751 ล้านบาท เติบโต 77% จากไตรมาส 1/2557 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 3% โครงสร้างรายได้มาจาก 2 ส่วนธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 การพัฒนาโครงการเพื่อขาย จำนวน 2,539 ล้านบาท และส่วนที่ 2 ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า จำนวน 212 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จากการขายต่อรายได้จากการให้เช่า คิดเป็น 92%:8% และมีกำไรสุทธิ 326 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% ของรายได้จากการดำเนินงาน เติบโตจากไตรมาสแรก 267% และเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2556 ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ บริษัทมีการทยอยรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ รวม 4 โครงการ ได้แก่ โครงการแชมเบอร์ส รามอินทรา โครงการเซ็นทริค สาทร-เซนหลุยส์ และโครงการเซ็นทริค สถานีติวานนท์ รวมถึงโครงการ เดอะเครสท์ ซานโตรา หัวหิน ด้วย นายณัฐพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 กว่าล้านบาท เป็นแนวราบ 4 โครงการ และแนวสูง 1 โครงการ โดยแบ่งเป็นไตรมาสที่ 3 เปิด 3 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ บนพื้นที่กว่า 28 ไร่ มูลค่าโครงการ 830 ล้านบาท จำนวน 116 ยูนิต เริ่มต้น 7-10 ล้านบาท โครงการ ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด วงแหวน-พระราม 9 บนพื้นที่กว่า 45 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ระดับราคาจำนวน 199 ยูนิต เริ่มต้น 5-8 ล้านบาท และโฮมออฟฟิศระดับพรีเมี่ยม โครงการเวิร์คเพลส ราชพฤกษ์-จรัญฯ บนพื้นที่กว่า 11 ไร่ มูลค่าโครงการ 720 ล้านบาท จำนวน 93 ยูนิต เริ่มต้น 8.89 ล้านบาท และในช่วงปลายปีเปิดอีก 2 โครงการระดับลักชัวรี่คือ โครงการคฤหาสน์หรู กรานาดา เพชรเกษม-ปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท กับคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ใจกลางศาลาแดง มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการต่อเนื่องที่เอสซี แอสเสท เปิดขายอยู่ทั้งหมดจำนวน 29 โครงการ มูลค่าโครงการคงเหลือเพื่อขายรวมประมาณ 25,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 21 โครงการ และโครงการแนวสูง 8 โครงการ พร้อมกับยอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ประมาณ 40% นายณัฐพงศ์ กล่าวในที่สุด