(31มี.ค.2559) - นายชวนินทร์ พรหมรัตนพงษ์ รองผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การเคหะแห่งชาติ ได้นำ ระบบเวตติ้งลิส (Waiting list) “ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการทุจริต และการร้องเรียนของผู้สนใจในโครงการ ต่างได้รับความเท่าเทียมกันทุกราย ” มาใช้ในการซื้อบ้านของการเคหะฯ ซึ่งระบบนี้จะพาไปสู่ระบบที่โปร่งใส่ในการของซื้อบ้านให้กับลูกค้าทุกคน ซึ่งล่าสุดในโครงการจองซื้อบ้านยั่งยืน หลังจากการจัดงานมีลูกค้าที่ลงชื่อแสดงความจำนงไว้ 1,067 ราย ซึ่งการเคหะฯ ได้รวบรวมรายชื่อไว้และได้เช็คจำนวนบ้านมีอยู่ และได้ทำการเรียกลูกค้าที่ลงชื่อไว้มาทำสัญญา และสามารถยื่นกู้กับทางสถาบันการเงินได้ผ่านจำนวนทั้งสิ้น 762 ราย ส่วนที่เหลืออีก 300 รายยังติดเรื่องการยื่นกับสถาบันการเงินอยู่
อย่างไรก็ตามนอกจากการยื่นกู้ตามปกติของลูกค้าแล้วนั้น การเคหะแห่งชาติ ยังคงเปิดโครงการช่วยเหลือสำหรับลูกค้าโครงการบ้านเอื้ออาทรอีกด้วย กล่าวคือ สำหรับลูกค้าบ้านเอื้ออาทร ที่ขาดการชำระค่างวด และธนาคารได้ยึดห้องแล้ว ทางการเคหะแห่งชาติก็ได้ซื้อคืน ห้องกลับมาเป็นของการเคหะฯ เองแล้วนั้น การเคหะแห่งชาติได้เรียกลูกค้าในกลุ่มดังกล่าวเข้ามาทำความเข้าใจ ว่าในกรณีที่ลูกค้าต้องการที่จะซื้อห้องเดิมที่ถูกยึดคืนและกลับเข้ามาอยู่อาศัยแบบเดิมนั้น ลูกค้าสามารถดำเนินการได้ โดยลูกค้าจะต้องชำระหนี้ เงินต้นที่คงเหลืออยู่ให้กับการเคหะแห่งชาติ ในอัตราดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอัตรานี้จะสูงกว่าของทางธนาคารที่ปล่อยกู้ปกติ ภายในระยะเวลา 2 ปีการเคหะฯ ก็จะส่งลูกค้ากลุ่มนี้เข้าสู่ระบบสถาบันการเงินได้แบบปกติ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือลูกค้าอีกช่องทางหนึ่ง ที่กลับจากถูกยึดบ้านไปแล้วสามารถจะกลับเข้ามาซื้อห้องเดิมได้ตามเงื่อนไขที่การเคหะฯ กำหนด
นอกจากการนำระบบข้างต้นมาใช้ในการซื้อโครงการบ้านของการเคหะแห่งชาติแล้ว กคช.โครงการจัดกิจกรรม ของขวัญปีใหม่จากใจ พม. 2559 เมื่อเดือนธันวาคม 2558 ถึงเดือน กุมภาพันธ์ 2559 การเคหะแห่งชาติยังได้ช่วยให้ลูกหนี้ที่ค้างชำระหนี้ ผู้ค่าเช่า และผู้ค่าเช่าซื้อ ซึ่งกคช. มีลูกค้าทั้งสิ้น 50,030 ราย มีลูกหนี้ที่ค้างชำระ 11,173 รายคิดเป็นร้อยละ 21.33 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการเคหะฯตั้งเป้าไว้ว่าจะมีลูกหนี้เข้ามาร่วมโครงการประมาณ 4,500 ราย และยังคงจะมีกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่องอีกสำหรับลูกค้าของการเคหะแห่งชาติ เพื่อให้คนมีบ้านของตัวเอง