(22พ.ค.2559) - นายชวนินทร์ พรหมรัตนพงษ์ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) - เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติเตรียม เปิดจองโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2558 จำนวน 43 โครงการ รวม 11,485 หน่วย และเปิดจองโครงการบ้านเคหะประชารัฐ โดยจะจัดงานมหกรรมรณรงค์การขายขึ้นภายในเดือนมิถุนายน 2559 ณ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ สำนักงานเคหะชุมชน สำนักงานขายที่ตั้งโครงการ และในพื้นที่ภูมิภาค 5 จังหวัด คือ เชียงใหม่ บุรีรัมย์ ชลบุรี กระบี่ และภูเก็ต
สำหรับโครงการบ้านเคหะประชารัฐที่จะเปิดให้จองมีจำนวน 255 โครงการ รวม 23,861 หน่วย ประกอบด้วย โครงการบ้านยั่งยืน 10,713 หน่วย แบ่งเป็นโครงการที่ทำสัญญาแล้ว 1,379 หน่วยและโครงการเปิดขายใหม่ 9,334 หน่วย ส่วนโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2557 ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างพร้อมโอนภายใน 2 ปี จำนวน 13,148 หน่วย แบ่งเป็นโครงการที่ทำสัญญาแล้ว 11,210 หน่วย และโครงการที่เปิดขายใหม่ 1,938 หน่วย ซึ่งพลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะผลักดันเสนอคณะรัฐมนตรีขออนุมัติกรอบวงเงินและมอบให้ ธอส.สนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับ ผู้มีรายได้น้อยในเงื่อนไขบ้านประชารัฐประมาณ 5,500 ล้านบาท เนื่องจาก ธอส.ไม่สามารถให้ผู้ซื้อลงทะเบียนจองสิทธิล่วงหน้า 2 ปี ประกอบกับวงเงินสินเชื่อที่รัฐบาลอนุมัติในโครงการบ้านประชารัฐ จำนวน 40,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าจะหมดลงก่อนระยะเวลา 2 ปี
นายชวนินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อัตราดอกเบี้ยการผ่อนชำระเป็นไปตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่กำหนดคือ อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษกรณีวงเงินกู้ไม่เกิน 7 แสนบาท ดอกเบี้ยปีที่ 1 เท่ากับ 0 เปอร์เซ็นต์ ปีที่ 2 - 3 ดอกเบี้ย 2 เปอร์เซ็นต์ ปีที่ 4 - 6 ดอกเบี้ย 5 เปอร์เซ็นต์ และปีที่ 7 - 30 ดอกเบี้ยลอยตัว (ปัจจุบันธนาคารอาคารสงเคราะห์เท่ากับ MRR - 0.75 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารออมสิน เท่ากับ MRR-1.475 เปอร์เซ็นต์) ผ่อนชำระ 3 ปีแรก ประมาณเดือนละ 3,000 บาท
อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน กรณีวงเงินกู้ 7 แสนบาท ถึง 1.5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 เท่ากับ 3 เปอร์เซ็นต์ ปีที่ 4 - 6 เท่ากับ 5 เปอร์เซ็นต์ และปีที่ 7 - 30 อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (ปัจจุบันลูกค้ารายย่อยธนาคารอาคารสงเคราะห์เท่ากับ MRR - 0.75 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารออมสิน เท่ากับ MRR -1.475 เปอร์เซ็นต์) ผ่อนชำระ 3 ปีแรก ประมาณเดือนละ 7,200 บาท
เงื่อนไขการจองภายในงาน กรณีโครงการบ้านยั่งยืน วางเงินจอง 1,000 บาท สามารถกู้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ คิดดอกเบี้ยตามโครงการบ้านประชารัฐ กรณีโครงการเคหะชุมชน วางเงินจอง 1,000 บาท กู้ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ ดาวน์ 10 เปอร์เซ็นต์ (ลูกค้าจ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ การเคหะฯ สมทบเงินดาวน์ 5 เปอร์เซ็นต์) คิดอัตราดอกเบี้ยเท่าบ้านประชารัฐ และกรณีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 2557 วางเงินจอง 3,000 บาท สามารถกู้ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ วางเงินดาวน์ 10 เปอร์เซ็นต์ ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์
นอกจากนี้ นายชวนินทร์ ยังได้กล่าวถึงผลประกอบการโครงการบ้านเอื้ออาทรในรอบ 2 ไตรมาสแรก ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 มาจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 ว่า มีลูกค้าทำสัญญาซื้อขายและส่งมอบอาคารให้เข้าอยู่อาศัยแล้ว 5,144 หน่วย และยังมีอาคารที่สามารถรองรับลูกค้าได้อีก 13,508 หน่วย ซึ่งประชาชนที่สนใจสามารถมาจองได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 2557 มีจำนวน 32 โครงการ 14,472 หน่วย มีการรณรงค์การขายนับตั้งแต่เปิดตัวโครงการตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน 2557 จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2559 มียอดขายสะสม 12,346 หน่วย
ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจจองโครงการบ้านเคหะประชารัฐ และโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2558 สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ Call Center 1615 ในวันและเวลาทำการ 08.30 - 16.30 น. ตั้งแต่บัดนี้ ณ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ และสำนักงานเคหะชุมชนทั่วประเทศ