Toggle navigation
วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
อสังหาริมทรัพย์
แสนสิริปิดการขาย ฮาสุ เฮาส์ มูลค่า1,350ล้านส่งท้ายไตรมาส2
แสนสิริปิดการขาย ฮาสุ เฮาส์ มูลค่า1,350ล้านส่งท้ายไตรมาส2
วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559
Tweet
แสนสิริชี้ดีมานด์คอนโดมิเนียมใน T77 บนถนนสุขุมวิท 77 ของชาวต่างชาติยังคงเติบโตต่อเนื่อง หลัง“ฮาสุ เฮาส์” มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาทปิดการขายอย่างสวยงามด้วยยอดขายลูกค้าต่างชาติสูงถึง 48% กลุ่มลูกค้าที่ซื้อสูงสุด คือ ชาวฮ่องกง อังกฤษ และสิงคโปร์ ,มาเลเซีย ระบุส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่เองเพราะชื่นชอบการออกแบบ รวมทั้งที่ตั้งโครงการใกล้ CBD เดินทางสะดวกแต่ก็สงบด้วยทำเลริมน้ำ T77 พร้อมประกาศการผนึกกำลังกับมั่นคงเคหะการและโรงเรียนนานาชาติบางกอก เพรพ ผลักดันให้ T77 เป็นศูนย์กลางแห่งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างแท้จริง เผยเตรียมเปิดตัวโมริ เฮาส์ มูลค่า 1,600 ล้านบาทแก่ลูกค้าไทยเดือนสิงหาคมนี้หลังกวาดยอดขายต่างชาติมาแล้วกว่า 700 ล้านบาท
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริสามารถปิดการขายโครงการฮาสุ เฮาส์ (hasu HAUS) มูลค่า 1,350 ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ของแสนสิริบนทำเลที 77 หรือที 77 คอมมูนิตี้ (T77: T77 Community) ได้ด้วยสัดส่วนลูกค้าไทย 52% และลูกค้าต่างชาติ 48% โดยลูกค้าต่างชาติที่ซื้อสูงสุด 3 อันดับ คือ ชาวฮ่องกง จำนวน 18% ของมูลค่าโครงการรวม หรือคิดเป็นมูลค่า 252 ล้านบาท, ชาวอังกฤษ จำนวน 7% หรือคิดเป็นมูลค่า 100 ล้านบาท และชาวสิงคโปร์และมาเลเซีย 5% หรือคิดเป็นมูลค่า 75 ล้านบาท “กลุ่มลูกค้าที่ซื้อโครงการฮาสุ เฮาส์ส่วนใหญ่เป็นเรียลดีมานด์ ที่ซื้อเพื่ออยู่เองเนื่องจากทำเล “ที77(T77)” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยชีวิตเมืองอย่างแท้จริงจากที่ตั้งบนถนนสุขุมวิท 77 ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วนที่สามารถเดินทางไปยังศูนย์กลางด้านธุรกิจและไลฟ์สไตล์ได้อย่างสะดวกสบาย การออกแบบโครงการที่แม้อยู่ในเมืองแต่ก็มอบความสงบและละเมียดละไมในการใช้ชีวิต อีกทั้งทำเล “ที77(T77)” ยังเป็นคอมมูนิตี้คุณภาพที่มอบสุนทรียะแห่งการใช้ชีวิตในอีกระดับเพราะสามารถรองรับความต้องการของทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยด้วยโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพจากแสนสิริ, อพาร์ทเมนต์ระดับพรีเมี่ยมของมั่นคงเคหะการ, แคมปัสใหม่ของระดับชั้นมัธยมของโรงเรียนนานาชาติบางกอก เพรพที่จะเปิดในเดือนสิงหาคมปี 2560 ตลอดจน “ฮาบิโตะ” ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้มอลล์ที่ออกแบบโดย Winkreative นำทีมโดย Mr. Tyler Brûlé ผู้ก่อตั้งหนังสือชื่อดังระดับโลกอย่าง Monocle ที่จะมามอบสีสันของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่เพราะภายในอัดแน่นด้วยร้านอาหารนานาชาติกว่า 15 ร้าน พร้อมมีฮับบาโตะ โคเวิร์คกิ้ง สเปซ (HUBBA-TO Coworking Space) พื้นที่สร้างสรรค์งานคราฟท์ (craft) ที่ใหญ่และครบครันที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นจุดแตกต่างที่ทำให้ “ที77(T77)” เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่ลูกบ้านแสนสิริสามารถใช้ชิวิตดีๆตั้งแต่เช้าจรดค่ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
นายอุทัย กล่าวต่อว่า สำหรับลูกค้ากลุ่มนักลงทุน เหตุผลหลักที่ตัดสินใจลงทุนในฮาสุ เฮาส์ เนื่องจากความเชื่อมั่นในแบรนด์ของแสนสิริ ศักยภาพของทำเลที่ถือเป็นโซนที่ใกล้ทำเลสุขุมวิทตอนกลางอย่าง เอกมัย ทองหล่อและพร้อมพงษ์ที่สุ ดจึงมีขความต้องการจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมากและทำให้มีผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าสูงถึง 5-7% ต่อปี ขณะที่เงินลงทุนในการซื้อคอนโดมิเนียมต่ำกว่าคอนโดมิเนียมในโซนเอกมัย ทองหล่อ และกรุงเทพฯชั้นในราว 30-70%
“แสนสิริได้จับมือกับบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด(มหาชน) และโรงเรียน Bangkok International Preparatory and Secondary School (บางกอกเพรพ) ในการร่วมพัฒนาพื้นที่ “ที77(T77)” ให้เป็นฮับแห่งการอยู่อาศัย การศึกษา และไลฟ์สไตล์ที่ตอบสนองทุกความต้องการของชาวต่างชาติและชาวไทยรุ่นใหม่อย่างแท้จริงเพราะเราเห็นพ้องกันว่าดีมานด์ความต้องการคอมมูนิตี้เพื่อการใช้ชีวิตที่มีความปลอดภัยในระดับสูง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และเดินทางสะดวกสบายยังเป็นสิ่งที่โซนสุขุมวิทยังขาดอยู่ ในขณะที่ความต้องการของกลุ่มลูกค้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตเราเชื่อมั่นว่า “ที77(T77)” จะเป็นหนึ่งในทำเลที่ทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยต้องจับตามองอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองดีมานด์ความต้องการที่เติบโต แสนสิริจึงได้วางแผนที่จะเปิดขายโครงการโมริ เฮาส์ (mori HAUS) มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ให้แก่ลูกค้าชาวไทยอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากประสบความสำเร็จจากการขายลูกค้าในญี่ปุ่น ฮ่องกงและสิงคโปร์มาแล้วด้วยยอดขายรวมกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งแสนสิริก็มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าชายไทยเป็นอย่างดีเช่นกัน” คุณอุทัย กล่าวสรุป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
“โฮมโปร” เดินเกมรุก EEC ปักหมุดแลนด์มาร์...
...
พฤกษา - อินโน พรีคาสท์ ชู “พรีคาสท์” นวั...
...
NEPS ผนึก HUAWEI และ LONGi เปิดตัว “SOLA...
...
"ดูโฮม" รุกย่านธุรกิจ เปิด ‘สาขาเทพารักษ...
...
คอนโดฯ ใหม่สุดฮอต! “ศุภาลัย เซนส์ แจ้งวั...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ