ประเทศไทยพบว่ามีการขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเด็กและเยาวชนช่วงอายุไม่เกิน 20 ปี มีการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าร้อยละ 60 สาเหตุมาจากการขาดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการใช้รถใช้ถนน และขาดจิตสำนึกรักความปลอดภัย ด้วยยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม
บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด มีภารกิจตามกฎหมายในการเยียวยาผู้ประสบภัยจากรถให้ได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และมีภารกิจเพื่อสังคมในการรณรงค์ป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ได้จัดทำแผนงานการสร้างจิตสำนึกรักความปลอดภัยให้กับเยาวชนในสถานศึกษาขึ้น โดยได้ทำการขับเคลื่อนแผนงานนี้ด้วยการจัดให้มี“โครงการถนนปลอดภัยในสถานศึกษา” มาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันนับเป็นระยะเวลาครบ 10 ปี
กลยุทธ์หนึ่งที่นำมาใช้ในโครงการนี้ คือ การจัดตั้งเป็น “ชมรมถนนปลอดภัยในสถานศึกษา” หรือ Road Safety Camp หรือ RSC) ขึ้นในสถานศึกษาเพื่อเสริมสร้างให้เยาวชนได้มีการดำเนินกิจกรรมด้านความปลอดภัยทางถนน อันเป็นการเสริมสร้างจิตสำนึก รักความปลอดภัย ด้วยหลักการ “ส่งเสริมให้-เด็กคิด-เด็กทำ-เด็กนำเสนอ” ซึ่งได้ดำเนินโครงการนี้ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด 10 ปี ปัจจุบันมีชมรมถนนปลอดภัยในสถานศึกษา ขึ้นทะเบียนแล้ว จำนวน 479 ชมรม มีสมาชิกร่วม 7,000 คน ทั่วประเทศ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางชมรมถนนปลอดภัยในสถานศึกษา ได้แสดงถึงศักยภาพของเยาวชนไทยที่มีการดำเนินกิจกรรมความปลอดภัยทางถนน ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมในระดับหนึ่ง และสอดรับกับทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนนซึ่งเป็นนโยบายของรัฐเป็นอย่างดี
“นายนพดล สันติภากรณ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนในชมรมถนนปลอดภัยในสถานศึกษา ได้แสดงออกซึ่งศักยภาพด้านการบริหารจัดการโครงการหรือสรุปผลการดำเนินงานด้านการรณรงค์ลดอุบัติเหตุอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้จัดให้มีการประชุมสัมมนาเชิงวิชาการในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างกันขึ้น โดยการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการพลังชมรมถนนปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 4 ประจำปี 2559 เมื่อวันที่ 17-18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่โรงแรมรามา การ์เด้นท์
สำหรับการจัดงานครั้งนี้สืบเนื่องจากการจัดงานในระดับจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ จากทุกชมรมรวม 479 ชมรม โดยมีกิจกรรมที่เยาวชนต้องมีส่วนในการร่วมคิดร่วมทำ ร่วมนำเสนอ เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาผลงานและมอบรางวัลผลงานดีเด่น ซึ่งประกอบด้วย กิจกรรมด้านวิชาการ เป็นการนำเสนอผลงานการบริหารโครงการของชมรมที่ผ่านมา และกิจกรรมด้านการมีส่วนร่วมและการแสดงออกซึ่งทักษะและแนวคิด ได้แก่ การประกวดโปสเตอร์, หนังสั้น, การประกวดการแสดง (RSC Show) และการประกวดการแต่ง-ร้องเพลง รณรงค์เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน โดยผลงานของชมรมในระดับจังหวัดที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาจากระดับจังหวัด ได้ถูกนำมาจัดประกวดผลงานที่กรุงเทพฯในครั้งนี้
ล่าสุดผลการประกาศผลและมอบรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ จำนวน 5 ประเภทการแข่งขัน โดยมี “นายโยธิน มูลกำบิล” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานมอบรางวัล ดังนี้ 1.ประเภทประกวดการนำเสนอผลงานความปลอดภัยทางถนนดีเด่น ได้แก่ โรงเรียนเทศบาลอำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ 2.ประเภทประกวดหนังสั้นรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ได้แก่ โรงเรียนบ้านทุ่งนา จังหวัดอุทัยธานี 3.ประเภทประกวดแต่งเพลง-ร้องเพลงรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ได้แก่ โรงเรียนทองเอนวิทยา จังหวัดสิงห์บุรี 4.ประเภทประกวดโชว์การแสดง ได้แก่ โรงเรียนหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ และ 5. ประเภทประกวดภาพวาด โปสเตอร์ปลูกจิตสำนึกรณรงค์ลดอุบัติเหตุได้แก่ โรงเรียนปราจิณราษอำรุง จังหวัดปราจีนบุรี
นายอนุชา เชยชม อาจารย์ ร.ร.บ้านโรงเรียนบ้านทุ่งนา จังหวัดอุทัยธานี กล่าวถึงแนวคิดที่ทำให้ชนะการประกวดครั้งนี้ว่า ได้เปิดกว้างให้เด็กๆ คิดกันเองว่าทุกวันนี้วัยรุ่นเสียชีวิตมาจากสาเหตุอะไร ซึ่งได้คำตอบมาจาก 4 สาเหตุใหญ่ๆ คือ 1.เมา 2.ขับรถมอเตอร์ไซด์ซิ่ง 3.ไม่สวมหมวกกันน็อค และ 4. เล่นมือถือจับโปรเกม่อน จากนั้นได้นำเรื่องการไม่สวมหมวกกันน็อคและการเล่นมือถือมาผูกร้อยเรียงนำเสนอเป็นเรื่องราวหนังสั้นชื่อ “ตัวตาย ตัวแทน” เป็นผลงานทางวิชาการจนได้รับรางวัลชนะเลิศ
“การนำแนวคิดมีคนตายจากการขับขี่มอเตอร์ไซด์ เพราะไม่สวมหมวกกันน็อค และเล่นมือถือ เมื่อตายไปแล้วจะเกิดใหม่ก็ต้องหาคนอื่นมาทดแทน เป็นการผูกเรื่องราวให้สนุกและให้แง่คิดในการต้องสร้างจิตสำนึกรักความปลอดภัย”
นายกำภล คำจุมพล อาจารย์โรงเรียนเทศบาลอำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า การเข้าร่วมประชุมสัมมนาครั้งนี้ได้นำแนวคิดการขับขี่ปลอดภัยไปพัฒนาต่อยอดสมาชิกจากรุ่นสู่รุ่น ในฐานะที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาให้สั่งสอนเด็กๆ ใช้ชีวิตการขับขี่ให้ปลอดภัย ปลูกฝังจิตสำนึกเด็กๆ ให้ขับขี่ปลอดภัยเวลาใช้ชีวิตกลางถนน
เด็กหญิงทักษพร ผ่องแผ้ว นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาลอำนาจ ซึ่งได้เข้าร่วมการนำเสนอผลงานความปลอดภัยทางถนนครั้งนี้ บอกว่า ดีใจที่การเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ทำให้รู้ว่า การขับขี่มอเตอร์ไซด์ทุกครั้งต้องมีสติ ต้องสวมหมวกกันน็อค ซึ่งเกิดจากการสร้างจิตสำนึกในตัวเองก่อน จากนั้นจะได้นำไปแนะนำให้ทุกๆ คนในครอบครัวมีจิตสำนึกในความปลอดภัยด้วย
ท้ายนี้การจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นเวทีให้เยาวชนที่เข้าร่วมประชุมสัมมนาได้รับประโยชน์และได้รับความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ระหว่างกันและร่วมกันกำหนดเป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำไปขับเคลื่อนกิจกรรมหรือโครงการเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนนได้อย่างแท้จริง ด้วยกรอบแนวคิดที่มีจิตสำนึกรักความปลอดภัยของเยาวชน เพื่อประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการลดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนหรือลดความสูญเสียของประเทศชาติในอนาคตต่อไป