นานๆ ทีจะมีสักหน ที่จะได้มีโอกาสจับเข่าคุยกับ "เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์" บอสใหญ่ ของ อาร์เอส "โชะเด๊ะ" จึงไม่รอช้าที่จะนำเรื่องราวประสาอาร์เอส มาฝาก โดยเฉพาะคอนเสิร์ตใหญ่ "อาร์เอส มีทติ้ง คอนเสิร์ต รีเทิร์น 2013" กับเรื่องราวความเซ็กซี่ของศิลปินในมุ้งอาร์เอส มานำเสนอ..
++ คอนเสิร์ตใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
"เป็นโปรเจกต์ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ซึ่งเราจัดคอนเสิร์ตศิลปินยุค 90 ของอาร์เอสมา ก็ต้องบอกว่าประสบความสำเร็จมาก แล้วก็มีเสียงเรียกร้องมาเยอะมาก มาปีนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นคอนเสิร์ต มีทติ้ง เป็นคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดรวมกันถึง 14 ศิลปินที่มารวมกันและต้องบอกว่าไม่ง่ายเลยใช้เวลาในการหาคิวที่ตรงกันของแต่ละคนนั้นก็ไม่ง่าย และเราจัดแค่สองรอบเท่านั้น ไม่มีเพิ่มรอบแน่นอน เพราะมันมีปัญหาเรื่องคิวมาก ฉะนั้น จะมีแค่สองรอบและคิดว่านี่เป็นโอกาสแฟนพันธุ์แท้ของอาร์เอส จะได้มาสนุกกับบรรยากาศของอาร์เอส มีทติ้ง ซึ่งคำว่า อาร์เอส มีทติ้ง เนี่ยเฮียเชื่อว่าแฟนพันธุ์แท้อาร์เอสจะรู้ดีว่ามันมีกิจกรรมอย่างไร อย่างเรานั่งแถลงข่าวก็จะเห็นว่าหัวเราะกันน้ำตาไหลแล้วมันจะเป็นแบบนี้"
++ ทำไมต้องเป็นนักร้องยุค 90
อย่างที่บอกว่ามันเป็นเสียงเรียกร้องและก็ปีนี้เราเปิดด้วยอาร์เอส มีทติ้ง เนี่ยก็หลังจาก นี้จะมีอีกประมาณ 2-3 คอนเสิร์ตเป็นศิลปินยุคอดีตของอาร์เอสแต่ยังไม่เปิดเผยและมีทั้งสองแนวแดนซ์และแนวอื่นด้วย
++ ส่วนใหญ่จะเป็นนักร้องชายที่มีคอนเสิร์ต
"ผู้หญิงปีที่แล้วก็มาเป็นแขกรับเชิญ และปีนี้ก็จะมาเป็นแขกรับเชิญแต่ขออุบไว้ก่อนว่าเป็นใคร (ยิ้ม) คือต้องบอกว่าถ้าเป็นศิลปินผู้หญิงในอดีตของอาร์เอส ถ้าจะมาทำคอนเสิร์ตเดี่ยวเลยเนี่ย อาจจะยังไม่มีความแข็งแรงพอก็ต้องบอกว่าเราวัดจากแฟนๆ ที่เรียกร้องเข้ามา แฟนคลับผู้หญิงจะเป็นกลุ่มใหญ่อยู่แล้วและเป็นแบบนี้ทั่วโลก ฉะนั้น นักร้องผู้ชายจะมีแฟนคลับเหนี่ยวแน่นกว่าเป็นยุคไหนๆ ก็เป็นแบบนนี้ ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นศิลปินต่างชาติหรือศิลปินไทยก็เป็นแบบนี้"
++ วางโปรแกรม จัดอาร์เอส มีทติ้ง คอนเสิร์ตมาไว้ก่อนหรือเปล่า
เป็นการวางไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วว่าเราจะจัด เพียงแต่ว่าเราไม่สามารถที่จะกำหนดเวลาได้การที่จะหาให้ทั้ง 14 ศิลปินเคลียร์คิวตรงกันมันไม่ใช่เรื่องเกิดง่ายๆ
++ จัดแค่สองรอบจะคุ้มทุนหรือเปล่า
"จริงๆ แล้วต้องบอกว่าการจัดคอนเสิร์ตอาร์เอส มีทติ้ง เรื่องผล ทางธุรกิจก็เป็นประ- เด็นหนึ่ง แต่มันไม่ใช่ประเด็นใหญ่ ถามว่ากำไรมากมั้ยก็ไม่ได้มากมายอะไร แต่ว่าเรา คิดว่าการจัดคอนเสิร์ต ลักษณะนี้ผมว่ามันเป็นมูลค่าทางจิตใจระหว่างอาร์เอสกับแฟนคลับที่ติดตามอาร์เอสมาตั้งแต่เด็กๆ จนวันนี้ เขาเองก็อายุสามสี่สิบแล้ว เราคิดว่าเขายังชื่นชอบอาร์เอสอยู่ถ้าเราทำอะไรให้เขาได้ ในมุมบริษัทเราก็อยากที่จะทำ เหมือนปีที่แล้วเราทำมา 4-5 คอนเสิร์ต บอกก่อนเลยว่า แต่ละคอนเสิร์ตไม่ได้กำไรเยอะเลย แต่ว่าทำแล้วมันเหมือนเรามีความสุขแฟนเพลงก็มีความสุขเราคิดว่ามันเป็นเรื่องของการให้ที่มากกว่าเรื่องของธุรกิจ"
++ มีคนมองว่าแฟนคลับสมัยก่อนจะเหนียวแน่นกว่าปัจจุบัน
"คือต้องบอกก่อนว่า ถ้าเรื่องความเหนียวแน่นของแฟนคลับของศิลปินยุคอดีตกับปัจจุบันต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องของรูปแบบธุรกิจเพลงทั่วโลกในอดีตมันเป็นยุคอนาล็อกศิลปินยังทำงานด้วยอัลบั้ม ฉะนั้น การทำงานของศิลปินมันจะมีตัวตนมันจะมีอิมแพ็กต์กว่า ปัจจุบันถ้าเรามองมันจะคล้ายลองเทล มันจะย่อยไปเรื่อยๆ ฉะนั้น ศิลปินที่จะมีฐานแฟนเพลงเหนียวแน่นมากๆ เนี่ย มันจะน้อยลง นี่เป็นกันทั่วโลกเขาเป็นกันแบบนี้"
++ โอกาสที่ศิลปินหน้าใหม่จะมีคอนเสิร์ตใหญ่คงยาก
"ก็ต้องใช้เวลานานต้องเป็นศิลปินที่ใช้เวลานานกว่าจะมีฐานแฟนคลับ และสร้างผลงานตัวเองเป็นที่มากพอและคนให้ความสนใจมากๆ ที่จัดคอนเสิร์ตได้ และ คอนเสิร์ตจะเห็นว่ามีศิลปินบางคนที่จัดคอนเสิร์ตได้ในยุคนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคอนเสิร์ตรอบเล็กๆ ผมว่ารูปแบบในธุรกิจเพลง มันเปลี่ยนไป รูปแบบของการสื่อสารการเสพเพลงมันเปลี่ยนไป"
++ อาร์เอสปรับเปลี่ยนอะไรแบบไหนกับธุรกิจเพลงตรงนี้
"เรายืนยันว่า อาร์เอสเป็นบริษัทบันเทิงที่มีการปรับตัวได้ดีที่สุดในประเทศไทย เรายืนยันแบบนั้นและเชื่อมั่นอย่างนั้น วันนี้ธุรกิจเพลงอาร์เอสเราค่อนข้างมีความ ยืดหยุ่นและสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมาก อาร์เอสเป็นบริษัทแรกที่ประกาศดิจิตอลมิวสิก เราเป็นคนแรกที่เลิกเรื่องของอะนาล็อก เลิกเรื่องของแผ่น ซีดี ฉะนั้น เราจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ดีกว่าคนอื่น และเชื่อว่าธุรกิจเพลงของอาร์เอส ตอนนี้มันเหมาะสมกับธุรกิจด้วยและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแฟนเพลงด้วย ซึ่งในช่วงที่เราปรับตัวแรกๆ ก็อาจมีอุปสรรค มากกว่าคนอื่น แต่พอถึงจุดจุดหนึ่งเราก็คิด ว่าเราได้เปรียบคนอื่นนะ เรามีความเข้าใจ ไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไปและของสื่อที่เปลี่ยนไปแล้วก็โมเดลธุรกิจเพลงของอาร์เอสเราเป็นบริษัทเพลงที่มีรายได้จากธุรกิจเพลงและมีกำไรที่ดีมาก ธุรกิจเพลงอาร์เอสทุกวันนี้มีกำไรมากกว่าอดีตเยอะทั้งๆ ที่ไม่ต้องออกเพลงมากเท่าเดิม เพราะ ฉะนั้นมันจะสะท้อนว่า การที่เราสามารถปรับโมเดลและปรับวิธีคิดการทำงานให้สอดรับกับผู้บริโภคได้มันก็อยู่ร่วมกันได้ ต้องบอกว่าโซเชียลมีเดียมันทำให้โลกเปลี่ยนไปหมดล่ะ"
++ รายได้หลักๆ ของอาร์เอสมาจากไหน
"รายได้ใหญ่ๆ จริงๆ ก็ต้องมาจากดาวน์โหลดเพลง และก็ช่องทางดิจิตอลต่างๆ รวมไปถึงคอนเสิร์ต ที่สำคัญที่สุดคือ ต้นทุนในการลงทุนมันต่ำลง และในเรื่องของศิลปินผมว่าทุกวันนี้คนรู้จักมากกว่า ต้องบอกว่าสื่อโซเชียลต่างๆ ทำให้คนฟังเพลงมากขึ้นนะ คนเข้าถึงเพลงได้ง่ายกว่า แต่ก่อน เพียงแต่ว่าช่องทางการเข้าถึงมันเป็นอิสระ เพราะฉะนั้น ผู้บริโภคจะมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และมีการ กระจายความชอบ ไม่ได้มากระจุกอยู่แค่ศิลปินคนใดคนหนึ่ง มันเลยทำให้ศิลปินมีจำนวนมากขึ้น แต่อาจจะมีการกระจายตัว ฐานแฟนเพลงจะไม่มีการเป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่ที่เดียว"
++ กรณีค่ายอาร์สยามที่ตอนนี้กำลังร้อนแรง
"อาร์สยามจริงๆ ต้องบอกก่อนว่ามีผู้บริหารคุณเณร (ศุภชัย นิลวรรณ) เขา ดูแลอยู่แล้ว เฮียคงมองเรื่องของนโยบาย ส่วนเรื่องรายละเอียดไม่ได้เข้าไปยุ่ง เพราะ ต้องบอกว่าอาร์สยามทางผู้บริหารเขาดูแล ได้ดีมาก แทบไม่ต้องไปยุ่งในรายละเอียดมากปล่อยให้เขาแก้ปัญหาจัดการได้"
++ การดึง "จ๊ะ คันหู" เข้าสังกัดรู้ล่วงหน้าหรือเปล่า
"ทราบครับ คืออย่างนี้ตอนที่ดึงใคร มาร่วมยังไงเนี่ยบางทีเขาไม่ต้องคุยกับเรา ผู้บริหารมีอำนาจในการตัดสินใจอยู่แล้ว และมีมุมมองในการพิจารณาอยู่แล้วว่าอะไรเหมาะอะไรควร แต่ว่าพอสรุปแล้วเนี่ย เราจะมีการคุยกัน ทางผู้บริหารจะมาเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ใครมาร่วมงานบ้างในตอนนี้"
++ ตอนนี้ภาพอาร์สยามถูกมองว่า ขายความเซ็กซี่ของศิลปิน
"จริงๆ ต้องบอกแบบนี้ว่า อาร์สยาม ประสบความสำเร็จมาก และศิลปินของอาร์สยามที่ประสบความสำเร็จจริงๆ มีอีก เยอะมาก แต่ต้องบอกว่าคนไปมองแค่สอง สามคนไง (หัวเราะ) คนพูดถึงใบเตย, กระแต, พูดถึงจ๊ะอาร์สยามที่เพิ่งเข้า มา แต่ไม่มีใครพูดถึง หญิง-ฐิติกานต์, บ่าววี, บิว-กัลยาณี, ธันวา อาร์สยาม และอีกหลายๆ คน แต่เราก็เข้าใจว่ามันเหมือนสื่อกับสิ่งที่ ประชาชน สนใจเขาชอบอะไรที่เป็นสีสัน"
++l ถูกมองว่าอาร์สยามตั้งใจใช้ความเซ็กซี่มาเป็นเรื่องการตลาด
"ก็อย่างนี้ เวลาที่เขากำหนดกลยุทธ์ การตลาด ต้องตั้งต้นที่ตัวศิลปินก่อน มันต้องมาจากตัวศิลปินไม่ว่าจะเป็นเพลงของ ลูกทุ่งอาร์สยาม หรือของอาร์เอส เวลาคน ทำงานจะกำหนดคอนเซปต์ศิลปินต้องมาจากตัวตนของศิลปิน นี่เป็นวิธีการทำงานที่เป็นมาตรฐาน เพราะฉะนั้น ใบเตยที่เห็น อยู่ คือ ตัวตนใบเตย ไม่ใช่เรื่องที่อาร์สยามไปสร้างให้ จ๊ะ อาร์สยาม นั่นคือ ตัวตน จ๊ะ เพียงแต่ว่าค่าย อาจจะมาปรุงแต่งปรับให้เหมาะสม เพราะฉะนั้น ภาพลักษณ์ศิลปินที่เราเห็นล้วนมาจากตัวตนของศิลปินก่อน"
++ เวลาที่ศิลปินมีข่าวฉาวได้ตรง เข้ามาปรึกษาเฮียบ้างหรือเปล่า
"ไม่มีครับ คือเวลาที่ศิลปินในค่ายมีปัญหาจริงๆ ก็ปรึกษาได้หมด เฮียให้คำแนะนำไปธรรมดา แต่ก็ต้องบอกว่าเขามีปัญหาเหมือนมนุษย์ทั่วๆ ไป ทั้งเรื่องส่วนตัวและการจัดการในวง เราก็ให้คำแนะนำ ไปตามปกติ บางเรื่องถ้าแก้ปัญหาได้ก็ช่วย แต่ถ้าบางเรื่องแก้ไม่ได้เราก็ต้องไปเป็นตัวกลางแก้ปัญหาให้"
วิสัยทัศน์ แนวทางการบริหาร สมราคาบิ๊กบอสใหญ่แห่งอาร์เอส ที่ทำให้สถาบันบันเทิงแห่งนี้อยู่คู่กับเมืองไทยมาอย่างยาวนาน..โชะเด๊ะ!!!