Toggle navigation
วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
สมเด็จวัดระฆังพิมพ์เกศบัวตูม (2)
สมเด็จวัดระฆังพิมพ์เกศบัวตูม (2)
วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556
Tweet
พระสมเด็จวัดระฆัง ที่นำภาพมาให้ท่านผู้อ่านได้ชมกันในวันนี้ เป็นพระสมเด็จ วัดระฆัง ที่เรียกกันว่า "พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูม" การเรียกพิมพ์นี้ว่า พิมพ์เกศบัวตูม ก็เพราะพระพิมพ์นี้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์อื่นๆ ตรงที่พระเกศขององค์พระ มองดูแล้วเหมือนดอกบัวตูม ซึ่งส่วน ที่เป็นพระเกศจะแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นฐาน ชั้นกลางจะเป็นตุ้มคล้ายดอก บัวตูม ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นเส้นเล็กต่อยาวขึ้นไปแต่ไม่จรดเส้นซุ้ม หากพิจารณาดูให้ละเอียดเชิงศิลปะแล้ว จะเห็นว่าพระพิมพ์เกศบัวตูมนี้ เป็นพิมพ์ที่ได้มีการออก แบบพัฒนาในเรื่องของความสวยงามของพิมพ์พระขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง สำหรับเอกลักษณ์ที่สำคัญของพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูมในเรื่องของพิมพ์ทรงก็คือ ประการแรก พระเกศดูคล้ายดอกบัวตูมตามที่กล่าวแล้ว ประการที่สอง จะมีพระกรรณที่โค้งเว้าสวยงาม ชัดเจนคล้ายกับพระกรรณของพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ ประการสุดท้ายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพระพิมพ์นี้ก็คือ จะมีปลายพระบาทซ้ายยื่นออกมาจากใต้พระเพลา ให้เห็นชัดเจนกว่าพิมพ์ใดๆ (ปลายพระบาทซ้ายยื่นออกมา เหมือนกับพระพิมพ์ปรกโพธิ์ ที่พัฒนาจากพิมพ์เกศบัวตูมขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง) นอกจากที่กล่าวแล้วลักษณะทั่วไปของพระพิมพ์เกศบัวตูม ก็จะเหมือนกับพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์อื่นๆ
พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์เกศบัวตูมตามภาพข้างบนนี้ เป็นพระพิมพ์เกศบัวตูม ที่สร้างจากแม่พิมพ์ซึ่งผู้เขียนได้เคยนำเสนอในตอนที่แล้วว่า เป็นแม่พิมพ์ของพระ สมเด็จวัดระฆังกลุ่มที่สอง เรื่องก็มีอยู่ว่า ในการสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง เพื่อที่จะบรรจุกรุให้ครบ 84,000 องค์ ซึ่งได้ทำพิธีสร้างและบรรจุกรุเมือปี พ.ศ.2414 นั้น ได้มีการแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่อีกกลุ่มหนึ่งเพื่อให้มีเพียงพอสำหรับการทำพระถึง 84,000 องค์ในเวลาที่กำหนด จึงจัดเป็นแม่พิมพ์กลุ่มที่สองดังที่กล่าว โดย เฉพาะพระที่มีการลงรัก จะเป็นพระที่เคยบรรจุกรุอยู่ทั้งสิ้น พระองค์นี้ได้ลงรักสีแดงและถูกบรรจุกรุไว้ ชิ้นรักได้หลุดล่อนออกบางส่วนตามกาลเวลาและสภาวะแวดล้อม ทำให้เห็นถึงความมีอายุของพระที่สร้างได้ง่ายกว่าพระที่ไม่มีรักหรือล้างรักออก ประกอบกับเป็นรักสีแดงอีก จึงสามารถพิจารณาได้ชัดเจนว่า เป็นพระแท้ (รักสีแดงมีเฉพาะสมัยปลายอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์เท่านั้น) พอดูด้านหลังแล้ว ก็ยิ่งชัดขึ้นไปอีก เพราะเป็นหลังที่เรียกว่าหลังสังขยา ปลอมแปลงไม่เหมือน มีรอย ปูไต่รอบองค์พระทั้งสี่ด้าน รอยเส้นๆ คล้ายแผ่นกระดานก็มีให้เห็น จึงไม่มีข้อสงสัยหรือพิรุธอะไรเลยที่พระองค์นี้ จะไม่เป็นพระแท้
เพื่อให้ท่านผู้อ่านซึ่งติดตามคอลัมน์นี้ ดูพระสมเด็จวัดระฆังให้เป็น ผู้เขียนจะได้นำพระสมเด็จวัดระฆังที่เป็นมาตรฐาน รับรองความแท้ด้วยตัวขององค์พระเอง เช่นพระองค์นี้ มาให้ชมกันต่อๆ ไป พระที่เรียกว่า "พระองค์ครู" ได้จะต้องเป็นพระที่ดูง่าย เป็นพระแท้แบบมีเหตุมีผล ไม่ต้องให้ใครใช้ดุลพินิจ พระองค์ นั้นจะต้องสามารถรับรองตัวเองได้ เช่นเดียวกับพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เกศบัวตูมองค์นี้
เรื่องโดย : อดุลย์ ฉายอรุณ : 08-1813-1701
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ