สกพอ. เผยคืบหน้า MRO อู่ตะเภา 210 ไร่ มูลค่า 1 หมื่นล้าน คาดลงนามสัญญาเช่าที่ดิน ม.ค. 69 – การบินไทยตั้งบริษัทย่อยเดินหน้าธุรกิจซ่อมบำรุงเต็มรูปแบบ
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ./EEC) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (Maintenance, Repair, and Overhaul: MRO) บนพื้นที่ 210 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท ภายใต้ระยะเวลาสัญญาเช่า 50 ปี ว่าขณะนี้ได้เจรจากับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการบินไทยเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อพิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาเช่าที่ดินได้ในเดือนมกราคม 2569
สำหรับผลตอบแทนของโครงการ MRO แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. ค่าเช่าพื้นที่
2. การแบ่งปันผลประโยชน์แบบขั้นบันได (Revenue Sharing) โดยเก็บเฉพาะค่าเช่าในช่วงปีที่ 1–4 และเริ่มจัดเก็บส่วนแบ่งรายได้ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป อัตราแบ่งปัน ได้แก่
• ปีที่ 5–10: 3%
• ปีที่ 11–15: 5%
• ปีที่ 15 เป็นต้นไป: 7%
หลังลงนามในเดือน ม.ค. 2569 การบินไทยจะเริ่มดำเนินการด้านการออกแบบ ก่อสร้าง ขออนุญาตที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการหาซัพพลายเออร์และลูกค้า โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมของการบินไทยว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างและเปิดให้บริการภายในปี 2569 ได้หรือไม่
นายจุฬาระบุว่า โครงการ MRO อู่ตะเภาจะเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รองรับงานซ่อมบำรุงระดับใหญ่ (Heavy Maintenance) ซึ่งปัจจุบันมีเพียงที่สิงคโปร์ ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะสร้างอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น การผลิตชิ้นส่วนอากาศยานและธุรกิจซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจึงมีขนาดมหาศาล นอกจากนี้ EEC ยังเตรียมเปิดพื้นที่เพิ่มเติมอีก 50 ไร่ สำหรับพัฒนาโครงการรองรับเครื่องบินส่วนตัว (Private Jet)
ด้านความคืบหน้าทางธุรกิจ การบินไทยได้จัดตั้งบริษัทใหม่ 2 แห่ง ได้แก่
• Thai MRO Group Co., Ltd.
• Thai MRO Services Co., Ltd.
ซึ่งจดทะเบียนสมบูรณ์แล้ว ทั้งสองบริษัทมีทุนจดทะเบียนบริษัทละ 1 ล้านบาท และทุนชำระแล้วเริ่มต้น 250,000 บาท โดยการบินไทยถือหุ้น 100% เพื่อรองรับการดำเนินงานด้านซ่อมบำรุงอากาศยานโดยเฉพาะ
สำหรับคู่สัญญาโครงการ MRO นั้น การบินไทยแจ้งว่าจะใช้ “บริษัทย่อย” เป็นผู้เช่าพื้นที่ ขณะที่การร่วมทุนกับสายการบินอื่น เช่น บมจ.การบินกรุงเทพ (Bangkok Airways) จะเป็นดุลยพินิจของการบินไทยเอง
โครงการ MRO ถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของการพัฒนาเขต EEC ควบคู่ไปกับการก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 ของสนามบินอู่ตะเภา และอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ของบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น (UTA) ที่กำลังเตรียมเริ่มดำเนินการ เพื่อผลักดันอู่ตะเภาสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคในอนาคต