กรมทางหลวงชนบท นำกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักร จัดการเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้ พร้อมเข้าตรวจสอบสายทางที่ระดับน้ำได้ลดลงแล้วและจะเข้าซ่อมแซมเบื้องต้นเป็นการอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้เส้นทาง

(18 พ.ย. 68) นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ปัจจุบันมีโครงข่ายทางหลวงชนบทที่ประสบอุทกภัยใน 8 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี กำแพงเพชร นครปฐม นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา สุโขทัย สุพรรณบุรี อุทัยธานี ได้รับผลกระทบรวม 29 สายทาง แบ่งเป็น สัญจรผ่านได้ 15 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 14 สายทาง โดยยังคงได้เน้นย้ำหน่วยงานในสังกัดในส่วนภูมิภาคทั้งสำนักงานทางหลวงชนบท/แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ที่กำลังประสบเหตุน้ำท่วมให้บริหารจัดการเส้นทางเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน อาทิ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 1 (ปทุมธานี) โดยแขวงทางหลวงชนบทพระนครศรีอยุธยา ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือเครื่องจักร ลงพื้นที่ปั้นคันดิน วางกระสอบทราย และสูบน้ำออกจากพื้นที่บริเวณสะพานวังเทพอนุเคราะห์ เชื่อมสะพานจุฬามณี ตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้สัญจรผ่านได้ก่อน เป็นการอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ในบางเส้นทางที่ระดับน้ำได้เริ่มลดลงแล้ว ทช. ได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบเพื่อประเมินแนวทางในการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้เส้นทางกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับสายทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทช. ยังคงติดตั้งป้ายเตือน ป้ายบอกระดับน้ำ และปักเสาขาวแดงตามแนวเขตทาง ซึ่งหากระดับน้ำลดลงจะดำเนินการประเมินสถานการณ์และเร่งเข้าซ่อมแซมเบื้องต้นโดยเร็วที่สุดต่อไป โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146 หรือแขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศ