กรมทางหลวงชนบท จัดกำลังเจ้าหน้าที่บรรจุทราย และนำกระสอบทรายไปวางกั้นน้ำสองข้างทางบริเวณถนนเชิงลาดสะพานลำมูลน้อย สาย อบ.036 อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
(8 ต.ค. 68) นายพิชิต หุ่นศิริ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ขณะนี้ ส่งผลกระทบถึงโครงข่ายทางหลวงชนบทในหลายจังหวัด จึงได้เน้นย้ำให้สำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เร่งดำเนินการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ อาทิ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 7 (อุบลราชธานี) โดยแขวงทางหลวงชนบทอุบลราชธานี และหมวดบำรุงทางหลวงชนบทในสังกัด ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดำเนินการบรรจุทราย จำนวน 500 กระสอบ เพื่อนำกระสอบทรายไปวางกั้นน้ำสองข้างทาง ไม่ให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมสายทางเพิ่มเติมบนถนนเชิงลาดสะพานลำมูลน้อย สาย อบ.036 อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมบูรณาการร่วมกับเทศบาลเมืองแจระแม ซึ่งได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และทำการสูบน้ำออกให้ปริมาณน้ำท่วมขังลดลง ทำให้ยานพาหนะสามารถสัญจรผ่านได้ รวมถึงได้มีการติดตั้งไฟกระพริบบริเวณที่พักพิงของผู้ประสบภัยชั่วคราวบนถนนทางหลวงชนบทสาย อบ.5061 ชุมชนโรงฆ่าสัตว์ (ถนนบูรพาใน อำเภอเมืองอุบลราชธานี - อำเภอวารินชำราบ ถนนวาสวิถี) อำเภอเมือง, วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และได้จัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังความปลอดภัยอีกด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของโครงข่ายทางหลวงชนบทในพื้นที่จังหวัดระยอง ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ของตำบลสำนักทอง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ส่งผลให้เกิดดินสไลด์บนถนนทางหลวงชนบทสาย รย.4017 แยก ทล.3139 (กม.ที่ 19+500) - บ้านเกษตรศิริ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ช่วง กม.ที่ 1+550 ขณะนี้แขวงทางหลวงชนบทระยอง ได้นำเครื่องจักรเข้าจัดการบริเวณดินสไลด์ เพื่อเปิดเส้นทางให้ประชาชนสามารถสัญจรไป - มา ได้เป็นปกติเรียบร้อยแล้ว และได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โครงข่ายในความรับผิดชอบของ ทช. มีสายทางที่ประสบอุทกภัยใน 18 จังหวัด โดยได้รับผลกระทบ 52 สายทาง แบ่งเป็น สัญจรผ่านได้ 34 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 18 สายทาง ทั้งนี้ ทช. จะรายงานสถานการณ์ให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพบเหตุอุทกภัยหรือความเสียหายบนเส้นทาง สามารถแจ้งได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือติดต่อที่ สายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146