วันที่ 25 สิงหาคม 2568 กลุ่มบริษัทบีทีเอส นำโดย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท ซุปเปอร์ เทอร์เทิล จำกัด (มหาชน), บริษัท วีจีไอ จำกัด(มหาชน), บริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ขอเชิญชวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส และประชาชน ร่วมกิจกรรม “Clean Air We Share ขบวนลมหายใจสะอาด” แจกต้นไม้ฟอกอากาศฟรี! 4,500 ต้น เนื่องในวันอากาศสะอาดสากล (International Day of Clean Air for Blue Skies) และฉลองรถไฟฟ้าบีทีเอสได้เปิดให้บริการกับผู้โดยสารครบ 4,500 ล้านเที่ยวคน รวมระยะทาง 157.53 ล้านกิโลเมตร ซึ่งเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 26 นับตั้งแต่ให้บริการรถไฟฟ้าเที่ยวแรกไปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 และจากการเดินทางร่วมกันมาอย่างยาวนาน เราได้ช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปแล้วกว่า 2.38 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้เพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 250 ล้านตัน
สำหรับกิจกรรมการแจกต้นไม้ฟอกอากาศฟรีในครั้งนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 5 กันยายน 2568 ผ่าน 4 สถานี รถไฟฟ้าบีทีเอส ได้แก่ สถานีพร้อมพงษ์ (E5), สถานีสยาม (CEN), สถานีห้าแยกลาดพร้าว (N9) และสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) ซึ่งต้นไม้ที่แจกเป็นไม้มงคล จำนวน 20 ชนิด มีคุณสมบัติฟอกอากาศ และดูดซับสารพิษได้ดี อาทิ ลิ้นมังกร, ช้อนเงินช้อนทอง, ออมเงิน, อุดมทรัพย์, มิ้วคอนเฟตติ, ซานาดู, เศรษฐีมีทรัพย์ และกวนอิม เป็นต้น และทุกสถานีที่แจกต้นไม้ฟอกอากาศ ทางบริษัท ซุปเปอร์ เทอร์เทิล จำกัด(มหาชน) จะตั้งจุดแจกกากกาแฟ (มีจำนวนจำกัด) ที่เกิดหลังจากกระบวนการทำเครื่องดื่มภายใน Turtle Café เพื่อนำไปใช้ทำเป็นปุ๋ยผสมในดิน ทำให้ต้นไม้เติบโตได้ดี และยังช่วยไล่แมลงที่มารบกวนต้นไม้ ซึ่งเป็นการหมุนเวียนกากกาแฟกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พิเศษ! ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมรับต้นไม้ฟอกอากาศ สามารถสแกน QR CODE จากถุงกระดาษรักษ์โลกที่ใส่ต้นไม้ เพื่อรับสิทธิ ซื้อกาแฟ 1 แถม 1 ได้ที่ร้าน TURTLE SHOP ทุกสาขา โดยมีระยะเวลาแคมเปญ ตั้งแต่วันที่ 5 – 11 กันยายน 2568 เท่านั้น
“ขอบคุณผู้โดยสารทุกท่าน ที่ร่วมเดินทางกันมาจนถึง 4,500 ล้านเที่ยว การจัดกิจกรรมแจกต้นไม้ฟอกอากาศในครั้งนี้ ทำให้เราได้ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการลดมลพิษทางอากาศ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำรวมถึงกระตุ้นทุกภาคส่วน ให้หันมาใส่ใจต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2608 (ค.ศ. 2065) และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน”