Toggle navigation
วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
เสียงธรรม "หลวงพ่อจรัญ" จุดเปลี่ยนชีวิต “ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ” (1)
เสียงธรรม "หลวงพ่อจรัญ" จุดเปลี่ยนชีวิต “ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ” (1)
วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556
Tweet
เป็นเสื้อแดงรายที่สองที่มีโอกาสแวะเวียนเข้ามาพูดคุยกับเรา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ "จ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ" ส.ส.สุรินทร์ เคยให้สัมภาษณ์กับเราก่อนหน้านี้ หนำซ้ำยังเป็นมหาบัณฑิตรัฐศาสตร์หมาดๆ สำหรับ "วรวุฒิ วิชัยดิษฐ" หรือ "ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ" โฆษกแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.
"เป็นจังหวะที่งานทางการเมืองเบาบางลง ผมจึง มีโอกาสได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ภาคพิเศษ โครงการการจัดการทางการเมือง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่นที่ 9 เรียนอยู่ประมาณ 1 ปี 6 เดือน เพิ่งจะจบเมื่อปลายปี 2555 และรับปริญญาไปเมื่อ เดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง ถ้าจะให้จำง่ายๆ ก็รุ่นเดียวกับ เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา และ มิกซ์-บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ ซึ่งรุ่นนี้ยังมีนักแสดงชื่อดังอย่าง แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ และซูเปอร์บอล-ภราดร ศรีชาพันธุ์ นักเทนนิสขวัญใจชาวไทยร่วมห้องเรียนเดียวกันอีกด้วย"
ตระกูลวิชัยดิษฐ ถือเป็นตระกูลใหญ่ที่มีรกรากถิ่นฐานในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมายาวนาน เป็นที่รู้จักมักคุ้น ในพื้นที่เป็นอย่างดี อย่างเช่น "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" อดีตรมว.กระทรวงมหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ก่อนจะผันชีวิตเข้าสู่เส้นทางการเมือง "ยงยุทธ" เคยรั้งตำแหน่งผู้ว่าฯ จังหวัดตรัง และจังหวัดนครศรีธรรมราช กระทั่งไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งปลัดฯกระทรวงมหาดไทย
"โฆษก นปช." เล่าให้ฟังต่อว่าเขาสนใจเรื่องการบ้านการเมืองตั้งแต่วัยหนุ่มหลังจากจบการศึกษาคณะครุศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม จึงมีโอกาส ได้ทำตามความฝันเมื่อได้พบกับเพื่อนพี่ชายที่เป็นทส. คนสนิทของ "วีระ" หรือ "วีระกานต์ มุสิกพงศ์"
นี่คือจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนชีวิตของ "ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ" ...
"เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 20-30 ปีที่ผ่านมา ตอนที่ผมเรียนจบจันทรเกษม ผมก็กลับมาบ้าน มาทำงานในจังหวัดสุราษฎร์ธานี พี่ชายผมมีเพื่อนเยอะและรู้จักกับ ทส. ของท่านวีระกานต์ วันหนึ่งผมไปกับพี่ชายก็เผอิญได้ไปรู้จักกับทส.คนนั้น เขาก็ชวนผมไปทำงานด้วย ใจผมนะสนใจเรื่องการเมืองมานาน รักชอบมาตั้งแต่สมัยเรียน จึงได้ตอบตกลงแต่ก็นำเรื่องนี้ไปปรึกษาที่บ้าน เขาก็สนับสนุน ผมจึงได้ไปทำงานเป็นเลขาฯ ท่านวีระกานต์"
ผลจากความฝันและการสนับสนุนจากทางบ้าน "ธนาวุฒิ" จึงตัดสินใจเก็บกระเป๋า เดินทางตรงดิ่งเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาตามหาฝันดังที่ตั้งใจมั่นมาโดยตลอด... "ผมมากรุงเทพฯ อีกครั้ง เมื่อปลายปี 2534 จำได้แม่น เลยว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์รัฐประหารในเหตุการณ์ รสช.ยึดอำนาจจากรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ท่านวีระกานต์ก็เปิดเวทีเรียกร้องประชาธิปไตยเรียกร้อง รัฐธรรมนูญ ก็มารู้จักกับ "ตู่-จตุพร พรหมพันธุ์" ตอนนั้นเขาเป็นโฆษกบนเวที ส่วนผมก็เป็นเลขาฯท่านวีระกานต์ ตัวผมเองขณะนั้นยังไม่คุ้นเคยกับเวทีเอาเลย แต่ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อยๆ ทำให้ผมจดจำและยึดมั่นมาจนถึงทุกวันนี้"
"ธนาวุฒิ" ยังได้เล่าความหลังให้เราได้ฟัง พร้อมกับบอกเรื่องราวที่ประทับใจที่มีต่อ "วีระกานต์" ว่า หลังยึดอำนาจ เมื่อ 19 ก.ย. 49 ตอนนั้นตนยังเป็นเลขาฯท่านอยู่ วันหนึ่งมีคนโทร.มาบอกว่า จะตั้งให้ท่านเป็นสนช.ซึ่งเป็นตำแหน่งที่คมช.ตั้งมา แต่ท่านได้ตอบกลับไปว่า อย่าให้ตนทำอย่างนั้นเลยตนยังเป็นมิตรที่ดีต่อท่านอยู่ ขอไม่รับตำแหน่งนี้ เพราะตนเป็นนักประชาธิปไตย ถ้ารับตำแหน่งที่เผด็จการให้มา ตนก็ไม่ใช่นักประชาธิปไตย นี่เป็นประโยคที่ "ธนาวุฒิ" บอกว่าซึ้งใจเป็นที่สุด และยังจำคำพูดนี้ของ "วีระกานต์" ได้แม่นยำกระทั้งวันนี้ เสียงนั้นก็ยังก้องอยู่มิจางหาย ...
"ผมยึดท่านเป็นต้นแบบ ตรงไหนที่ไม่เป็นประชาธิปไตยท่านก็จะต่อต้าน ลุกขึ้นสู้ตลอดเวลาเรียก ร้องให้มีรัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้เป็นประชาธิปไตย ต่างๆ มากมาย จุดยืนและอุดมการณ์ที่รับมาจากท่านมากมายมหาศาลจริงๆ หลักการและเหตุผลทางประชาธิปไตย มันต้องมีตรงนี้ก่อน เราถึงจะเดินไปได้"
"ธนาวุฒิ" ได้เล่าถึงอุดมาการณ์ แนวทางการต่อสู้เพื่อ "ประชาธิปไตย" ให้ทีมงาน พระ ณ สยาม ฟังพร้อมกับบอกว่า "วีระกานต์" ยังได้สอนเรื่องสำคัญ ที่สุดของชีวิตแบบอ้อมๆ ให้กับเขาอีกด้วย โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ติดตาม "วีระกานต์" ที่มักจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นประจำ แรกๆ เขาไม่รู้สึกสนใจเรื่องการปฏิบัติธรรมสักเท่าใดนัก เพราะคิดว่าด้วยวัยที่ยังหนุ่มแน่นจึงยังไม่ถึงเวลาที่จะเรียนรู้เรื่องของธรรมะ แต่...
พอได้ติดตาม "วีระกานต์" ไป วัดอัมพวัน บ่อยๆ ก็รู้สึกซึมซับและให้สนใจการปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ และจากการเทศนาของ หลวงพ่อจรัญ ที่มักจะแสดงธรรมเรื่องของ "กฎแห่งกรรม" ให้ฟัง...ก็ยิ่งทำให้ เขาเริ่มเข้าใจความจริงของชีวิตมากขึ้น กระทั่งเกิดความศรัทธาและขอบวชพราหมณ์ร่วมกับ "วีระกานต์" ที่วัดอัมพวัน เป็นเวลา 7 วัน
เรื่องราวของ "ธนาวุฒิ" ยังไม่จบเพราะนี่แค่เป็นการเริ่มต้น ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกหลายประเด็น และหลายมุมมอง อดใจไว้รอฉบับหน้า รับประกันว่าสาระยังคงเข้มข้นแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
“ทักษิณ” พ่อมดการเมือง????...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ