“พูลพิพัฒน์” ธุรกิจคลังสินค้าชั้นนำ ชี้ ความผันผวนของราคาพลังงานผนึก ONNEX SOLAR by SCG ปรับตัวธุรกิจ สนองนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมจากภาครัฐและผู้บริโภค พัฒนาพลังงานสะอาดเพื่ออนาคต ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตยั่งยืน

วันจันทร์ที่ 07 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

“พูลพิพัฒน์” ธุรกิจคลังสินค้าชั้นนำ ชี้ ความผันผวนของราคาพลังงานผนึก ONNEX SOLAR by SCG ปรับตัวธุรกิจ สนองนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมจากภาครัฐและผู้บริโภค พัฒนาพลังงานสะอาดเพื่ออนาคต ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตยั่งยืน


บริษัท พูลพิพัฒน์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านคลังสินค้ามากกว่า 60 ปี ธุรกิจภายใต้กลุ่มพูลผล ร่วมกับพันธมิตร ONNEX SOLAR by SCG เดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ในพื้นที่คลังสินค้าของบริษัทฯ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ธุรกิจทั่วโลกที่ปรับตัวสู่การใช้พลังงานสะอาด ก้าวสู่การขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน 

อาทิตยา พงษ์สิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท พูลพิพัฒน์ จำกัด เปิดเผยว่า จากกระบวนการทำงานภายในคลังสินค้า ซึ่งทำให้มีการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง การบริหารต้นทุนพลังงานจึงเป็นหัวใจสำคัญของความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ จากผลสำรวจของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า 54.9% ต้นทุนพลังงานไฟฟ้ามีสัดส่วนคิดเป็น 15–30% ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องควบคุมอย่างมีกลยุทธ์ นอกจากนี้ จากความผันผวนของราคาพลังงาน และนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมจากภาครัฐและผู้บริโภค ทำให้ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัว ไม่เพียงเพื่อความอยู่รอด แต่เพื่อการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ

“ปัจจุบันแนวคิด Green Warehouse ไม่ใช่แค่การติดตั้งระบบ Solar Rooftop แต่คือการปรับโครงสร้างธุรกิจให้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสีย และส่งเสริมเศรษฐกิจที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด (Circular Economy) ที่สำคัญความยั่งยืนไม่ควรเป็นเพียงแผนงานระยะยาว แต่ต้องเริ่มต้นลงมือทำในวันนี้ และสิ่งที่เริ่มได้ง่ายและเห็นผลเร็วที่สุดคือการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์” อาทิตยา กล่าว

จากข้อมูลของ SCG international ระบุว่า ระบบ Solar Rooftop สามารถช่วยลดค่าไฟได้สูงถึง 30–50% ต่อเดือนในช่วงเวลากลางวัน และช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ได้มากกว่า 500 ตันต่อปีสำหรับโรงงานขนาดกลาง ซึ่งจากความร่วมมือกับ ONNEX SOLAR by SCG ในการติดตั้งระบบ Solar Rooftop ในครั้งนี้ บริษัทฯ เห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ชัดเจน อาทิ ค่าไฟฟ้าลดลง 40% ในช่วงเวลากลางวัน และลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ได้อย่างเป็นรูปธรรม มากกว่า 450 ตัน CO2 ต่อปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถใช้พื้นที่หลังคาของคลังสินค้า มาสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยไม่กระทบกระบวนการผลิต หรือผู้เช่าอาคารที่ใช้บริการอยู่ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ

ทั้งนี้ นอกจากการพัฒนาพลังงานสะอาด บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ หนึ่งในแนวทางที่นำมาใช้คือ การนำรถขุดไฮโดรลิคไฟฟ้า และ รถ fork lift ไฟฟ้า มาใช้ในกระบวนการขนถ่ายสินค้า ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่จะช่วยลดการใช้น้ำมันจากฟอสซิล ลดเสียง ลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการ Go Green ขององค์กร 

อาทิตยา กล่าวต่อว่า จากความร่วมมือกับ ONNEX SOLAR by SCG นอกจากความเชี่ยวชาญ และชื่อเสียงของบริษัทซึ่งที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้างแล้ว ยังเป็นเพราะ ONNEX มีแนวทางแบบ End-to-End Solution ตั้งแต่การสำรวจ วิเคราะห์ การออกแบบระบบ การติดตั้ง ไปจนถึงการดูแลหลังการขาย ที่สำคัญคือความสามารถในการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้พลังงานได้อย่างละเอียดผ่าน Energy Audit ทำให้สามารถออกแบบระบบที่ตอบโจทย์กับกระบวนการผลิตจริง โดยมีระบบ Monitoring & Maintenance แบบเรียลไทม์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าแผงโซลาร์ที่ติดตั้งจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดอายุการใช้งาน ด้วยมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่สูง 

สำหรับแผนในอนาคต บริษัทฯ มีแผนลงทุนในพลังงานสะอาดต่อเนื่อง โดยมองว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ Solar Rooftop ไม่ใช่เทรนด์ชั่วคราว แต่คืออนาคตของธุรกิจ โดยเฉพาะในบริบทของ ESG – Environmental, Social and Governance ที่ทั่วโลกเริ่มใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินความน่าเชื่อถือขององค์กร โดยในปัจจุบันลูกค้าและคู่ค้าเริ่มนำมาตรฐาน ESG มาใช้ในการพิจารณาคัดเลือก Supplier และ Landlord แล้ว และในอนาคตจะใช้เกณฑ์นี้เป็นหลักในการคัดเลือกเช่นกัน ดังนั้นการลงทุนในพลังงานสะอาดวันนี้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของต้นทุน แต่คือการวางรากฐานความน่าเชื่อถือในระยะยาว ท้งนี้ แนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อบริษัทในด้านลูกค้าและต้นทุนเท่านั้นแต่ยังเป็นที่ต้องการในตลาดอีกด้วย

“วันนี้บริษัทฯ เชื่อว่าการใช้พลังงานสะอาดไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากมีความตั้งใจจริง และมีพันธมิตรที่มีความรู้อย่าง ONNEX SOLAR by SCG จะช่วยให้ธุรกิจของเราสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” คุณอาทิตยา กล่าว

บริษัท พูลพิพัฒน์ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านคลังสินค้ามากกว่า 60 ปี พร้อมบริการแบบครบวงจร โดยคลังสินค้าตั้งอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีสาขากระจายอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ซึ่งจากทำเลที่ตั้งคลังสินค้าของบริษัทฯ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าลดต้นทุน พร้อมกับการสร้างความพึงพอใจ และสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า 

ปัจจุบันบริษัทฯ มีคลังสินค้าพร้อมให้บริการจำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย 1. คลังสินค้าสำโรง ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย จ.สมุทรปราการ 2. คลังสินค้าพระราม 6 จ.กรุงเทพฯ 3. คลังสินค้าบางไทร ถ.บางปะอิน-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา และ 4. คลังสินค้า B38 ถ.บางนา-ตราด กม.38 จ.ฉะเชิงเทรา และคลังสินค้าแหลมฉบัง 1 ถ.สาย 3009 จ.ชลบุรี 

นอกจากนี้ ยังมีคลังสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 แห่ง ได้แก่  1. คลังสินค้าแหลมฉบัง 2 ถ.หนองคล้าใหม่ จ.ชลบุรี และ 2. คลังสินค้า B29 ถ.บางนา-ตราด กม.29 จ.สมุทรปราการ โดยคลังสินค้าที่แหลมฉบัง จะไม่ใช่คลังสินค้าทั่วไป แต่เป็น Mini Factory เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีศักยภาพในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ให้มากขึ้น ขณะที่คลังสินค้า B29 จะมุ่งพัฒนาคลังสินค้าที่เป็น Free Zone (เขตปลอดอากร) เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดโลจิสติกส์ได้มากยิ่งขึ้น 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ